นายกฯอิ๊งค์ ไม่อยากเห็นฝ่ายค้านกลายเป็นฝ่ายแค้น ขอหยุดสร้างวาทกรรมเกลียดชัง

นายกฯ ลุกชี้แจงครั้งแรก ขอบคุณทุกข้อเสนอ พร้อมยันรับฟังทุกคน บอก ชาวบ้านเลือกแก้ยาเสพติดก่อนแจกดิจิทัลวอลเล็ต บอก เสียงเลือก “เพื่อไทย” 10.9 ล้านคนก็คือประชาชน ลั่น ไม่อยากให้ฝ่านค้าน มีเรื่องคับแค้นใจกลายเป็นฝ่ายแค้น

12 ก.ย.2567 - จากนั้นเวลา 18.05 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะจากสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน และขอยืนยันว่าได้รับฟังทุกท่านอย่างชัดเจน และขอยืนยันว่าหลายนโยบายที่ได้มีการหยิบยกขึ้นมา ซึ่งบางนโยบายได้ทำเสร็จสิ้นไปแล้ว บางนโยบายกำลังจัดการอยู่ และได้เริ่มทำไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้ของเกษตรกร การพักหนี้เกษตรกรซึ่งได้พักเรียบร้อยแล้ว และจะสามารถเช็คข้อมูลเหล่านี้ได้จากสส.ที่ลงพื้นพูดคุยกับประชาชน ส่วนเรื่องยาเสพติด ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงไปแล้วเราจะสานต่อนโยบายเรื่องยาเสพติดต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ในสมัยที่ท่านเป็นเป็นนายกฯ เราได้เริ่มป้องกันชายแดนไม่ให้มีการลักลอบนำยาเข้ามา และตนได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว และการจับรายใหญ่ที่เป็นเรื่องของยาเสพติด ก็ทำให้รายเล็กๆถูกหายไปโดยปริยาย เมื่อเราจับรายใหญ่ได้สำเร็จ ซึ่งเราจับรายใหญ่ได้หลายรายแล้วเช่นกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาของยาเสพติดตนได้รับรายงานจากสส.พื้นที่เสมอว่าพี่น้องประชาชนมีความหนักใจในเรื่องนี้ ฉะนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รอไม่ได้ และเราก็พยายามที่จะมุ่งในประเด็นนี้อย่างเข้มข้น ซึ่งตนก็เริ่มวางแผนแล้วว่าจะลงไปในพื้นที่ต่างๆได้อย่างไรบ้าง เพราะตามกฎหมายเมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้วก็สามารถสั่งการราชการได้แล้ว และคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ซึ่งตนได้เจอกับชาวบ้าน โดยชาวบ้านพูดขึ้นมาว่าไม่เอาดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เอาเรื่องยาเสพติดก่อน ซึ่งชาวบ้านสะท้อน สส.และ สส.ก็มาบอกตน แต่แน่นอนว่าเราต้องดูแลในทุกส่วน ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเริ่มทำแล้วเช่นกัน โดยจะเร่งรัดผ่านกระบวนการรัฐสภาที่ทุกท่านมีส่วนร่วม ก็จะทำไปพร้อมๆ กัน

น.ส.แพทองธาร ชี้แจงอีกว่า ที่สำคัญในฐานะของนายกรัฐมนตรี ขอน้อมรับคำแนะนำและให้การเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บาดแผล ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และจะพยายามทำให้ถึงที่สุด หลายครั้งตนเข้าใจดีและเข้าใจทางฝ่ายค้านอย่างลึกซึ้งในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเมื่อหลายปีที่แล้วพรรคเพื่อไทยได้เสียงเป็นอันดับ 1 แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จเช่นกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ก็นั่งเป็นฝ่ายค้านด้วยกันถึง 4 ปี พวกเราก็ยังจำได้ดี เข้าใจจุดนี้จริงๆ แต่ในวันนี้การที่พรรคเพื่อไทยถูกเลือกมาประชาชนถึง 10.9 ล้านคนที่เลือกเรามาซึ่งคือเสียงของประชาชนประชาชนเช่นเดียวกัน พรรคร่วมรัฐบาลก็ได้เสียงของประชาชนเลือกมาเช่นกัน ทุกเสียงคือเสียงของประชาชน คนไทยทั้งนั้น ไม่มีเสียงไหนที่มีศักดิ์ศรีหรือด้อยศักดิ์ศรีไปกว่ากันและกันเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากขอให้พวกเราทุกคนในที่นี้ได้มีการมาร่วมกันสร้างการอภิปรายที่สร้างสรรค์ ไม่สร้างวาทะกรรมเกลียดชัง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหัวข้อต่างๆ เพราะเราเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว เราเป็นคนที่อยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ที่จะสามารถเป็นตัวอย่างให้กับพี่น้องประชาชนได้ ว่าเมื่อเรามารวมตัวกันสามารถมีการเมืองที่สร้างสรรค์ได้ ไม่จำเป็นต้องสร้างวาทะกรรมเกลียดชัง เพื่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม และเป็นสิ่งที่ไม่ได้จำเป็น ตอนนี้ไม่ใช่เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เราเองไม่จำเป็นที่จะสร้างสิ่งเหล่านั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเราต้องมองเห็นภาพส่วนรวมของประเทศมากกว่าภาพลักษณ์ของเราเอง เพราะตอนนี้ที่ได้แถลงนโยบายก็ได้มีโอกาสคุยกับหน่วยงาน หลายหน่วยงานที่ทำเรื่องอุทกภัยอยู่ตอนนี้ น้ำท่วมที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงรายท่วมหนักมาก และก่อนที่ตนจะมีอำนาจในการสั่งการ ทางรมว.กลาโหม รองนายกรัฐมนตรี และมหาดไทย คมนาคม ทุกกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้สั่งการล่วงหน้าและลงมือไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ทหารมากมายถึงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และดำเนินการได้เร็วมาก เช่น เมื่อวานนี้พี่น้องประชาชนสามารถรับอาหารได้แค่มื้อเดียว แต่วันนี้ครบแล้วทั้ง 3 มื้อและเพียงพอ พี่น้องประชาชนไม่ต้องหิวข้าวแล้ว

“นี่คือสิ่งที่รัฐบาลรีบลงมืออย่างรวดเร็วเช่นกัน มันเป็นสิ่งที่เราควรจะมาร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อที่จะผ่านวิกฤติต่างๆ ของประเทศไปด้วยกัน ที่ไม่ใช่การสร้างความเกลียดชัง ไม่อยากให้ฝ่ายแค้น ฝ่ายค้านมีเรื่องคับแค้นใจเป็นฝ่ายแค้นแทน เราไม่ต้องแค้นกันแต่เราต้องเข้าใจกัน เราสามารถอยู่ในสภาฯ แห่งนี้ด้วยหลักของความเข้าใจที่ถูกต้องจริงๆ”น.ส.แพทองธาร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ นำพรรคร่วมรัฐบาล แถลงเดินหน้า MOU ปี 44 ถามยกเลิกแล้วได้อะไร

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าหารือ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายพิชัย ชุนหวชิร

'อิ๊งค์' แค่พยักหน้า ปม รพ.ตร. ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'พ่อนายกฯ' ให้ ป.ป.ช.

'นายกฯอิ๊งค์' ปฏิเสธตอบคำถาม ปม รพ.ตำรวจ ไม่ส่งเวชระเบียนรักษาตัว 'ทักษิณ' หลัง ‘ป.ป.ช.’ ทวงแล้ว 3 ครั้ง ทำแค่พยักหน้ารับทราบ