ตามคาด! 'พิเชษฐ์- ภราดร' นั่งแท่นรอง ปธ.สภาแบบไร้คู่แข่ง 'อนุทิน' ใช้สิทธิ์ สส. เข้าสภาเสนอชื่อรอง 1 ด้วยตัวเอง 'พิเชษฐ์' ตั้งเป้าทำสภาประจำจังหวัด ด้าน 'ภราดร' มาซึ้ง ยกสภาเป็นบ้านหลังที่สอง
11 ก.ย.2567 - ในการประชุมสภาเพื่อเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่หนึ่ง
โดยนายพิเชษฐ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าจะปฎิบัติหน้าที่ตามภารกิจของรัฐสภา คือ 1.ตรากฏหมาย ตรวจสอบ หรือยกเลิกกฎหมาย 2.ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร 3.ให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน สนับสนุนให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
มีนโยบาย ดังนี้ 1.ให้สภาผู้แทนราษฎรใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น เพื่อให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจัดให้มีรัฐสภาประจำจังหวัดทดลองใช้อย่างน้อย 5 จังหวัด
2.นำรัฐสภามุ่งสู่ความเป็น Smart Parliament Green Parliament Zero Carbon นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารองค์กร นำไปสู่ประธานสภาดิจิทัล ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารรัฐสภาให้สวยงามสมบูรณ์ ภายหลังจากที่เราได้รับมอบมาแล้ว 3 เดือน สร้างท่าเทียบเรือฝั่งวุฒิสมาชิก และ สส.ภายใน ปี 2568 นี้ ทำที่จอดรถเพิ่มอีก 3,000 คันให้ถูกต้องตามกฎหมายของกรุงเทพมหานคร รีบจัดให้มีการบริหารความปลอดภัยภายในอาคารรัฐสภาอย่างเร่งด่วน รวมถึงเรื่องของอัคคีภัยที่ต้องมีการเตรียมพร้อมชุดอัคคีภัยให้เร็วที่สุด
3.จะเป็นผู้ช่วยประธานสภาฯ ดำเนินการประชุมสภาฯ ให้เรียบร้อยสำเร็จด้วยประสิทธิภาพ และคุณภาพ เสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกให้มีความรู้ และประสบการณ์มากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด 4.เป็นผู้ช่วยประธานสภาฯ นำรัฐสภาไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นรัฐสภาผู้นำของอาเซียนและเอเชียต่อไป
จากนั้น เวลา 11.29 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ สส.สระแก้วพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2
โดยนายภราดร กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่วันนี้ได้รับการเสนอชื่อจากเพื่อนสมาชิก ต้องขอบคุณทางพรรคภูมิใจไทยที่ได้ให้เกียรติมาเป็นตัวแทนของพรรคได้เสนอต่อวิปรัฐบาลและวิปรัฐบาลได้เสนอชื่อดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ เป็นผู้ช่วยท่านประธาน ในฐานะผู้ช่วยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่เป็นเกียรติเฉพาะตนเอง แต่เป็นเกียรติของคนอ่างทอง เพราะฉะนั้น ต้องขอบคุณทางพรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และเพื่อนสมาชิกทั้งหมด
“ท่านประธานครับ ผมใช้เวลาที่นี่ 17 ปี นับไปนับมาแล้วเกือบจะครึ่งชีวิตของผมแล้วครับ ที่ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ ผมผูกพันกับองค์กรแห่งนี้ ผมผูกพันกับสภาจนกลายเป็นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผม เมื่อที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของผม ผมก็อยากจะเห็นบ้านหลังที่สองของผมมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นที่เชื่อมั่น เป็นที่ศรัทธาของพี่น้องประชาชน การจะสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนไม่ใช่เกิดขึ้นจากท่านประธาน จากรองประธาน แต่เกิดจากสมาชิกสภาของพวกเราทั้ง 493 ชีวิตที่เหลืออยู่ ในฐานะประธานและรองประธานของสภาผู้แทน พวกเรามีหน้าที่ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนสมาชิกในการแสดงศักยภาพของตัวเองให้สูงที่สุด” นายภราดร กล่าว
นายภราดร กล่าวต่อว่า เราปฏิเสธการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้ แต่ให้คำมั่นสัญญากับท่านประธานและเพื่อนสมาชิกว่าจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคภูมิใจไทย จะไม่เป็นรองประธานสภาของเพื่อนสมาชิกฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาของสภาแห่งนี้ ของเพื่อนสมาชิกทั้ง 493 คน จะปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จะยึดมั่นในระบบการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้สภาแห่งนี้เป็นสภาของพี่น้องประชาชน
“เพื่อนสมาชิกหลายท่านพูดว่าสภาแห่งนี้ไม่ใช่สภาของพวกเรา แต่เป็นของคนไทยทั้งหมด พวกเราจะช่วยกันทำให้สภาแห่งนี้เป็นสภาของพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนจะต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในอาคารแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นลานประชาชน ห้องสมุด จะต้องเป็นสภาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ผมจะไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการช่วยโอกาสสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมือง หรือให้กับตัวของผมเอง ผมย้ำกับท่านประธาน จากวันนี้จนวันสุดท้ายที่จะได้ปฎิบัติหน้าที่ ผมไม่รู้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้ดีหรือเป็นกลางในสายตาของใครได้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันกับท่านประธานและเพื่อนสมาชิกว่าผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ร่วมกันกับประธานและเพื่อนสมาชิกทั้งหมด เพื่อสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นรวมถึงเกียรติยศให้กับสภาแห่งนี้” นายภราดร กล่าว
สุดท้าย นายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะรีบนำชื่อนายพิเชษฐ์และนายภราดรขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งการประชุมวันนี้ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆ ที่ได้ประโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆ จากนั้นได้กล่าวปิดประชุมในเวลา 11.39 น. เพื่อให้สส.เตรียมตัวอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาฉลุย‘กม.ห้ามตีเด็ก’ ขนส่งทางรางยึดร่างรบ.
สภาผ่านฉลุย “กม.ห้ามตีเด็ก” “ณัฐวุฒิ” ชี้แม้ไม่มีคำว่า “ไม่เป็นการเฆี่ยนตี”
'ชลน่าน' แจงไม่ได้โกรธ 'พิเชษฐ์' แค่เห็นทำหน้าที่แบบมึนๆเลยอยากช่วยให้ทำถูกข้อบังคับ
'ชลน่าน' แจงหลังวีนใส่ 'พิเชษฐ์' บอกไม่ได้โกรธ แค่เห็นทำหน้าที่แบบมึนๆไปไม่ถูก เลยอยากช่วยให้ทำถูกข้อบังคับ ยัน ไม่มีปัญหาอะไรกัน ไม่ต้องเคลียร์
พท.พลิกร่วมคว่ำนิรโทษ112
สภาถกรายงานนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดอง แต่ระดับบิ๊กเพื่อไทยหวิดวางมวยกันเอง
'รองฯพิเชษฐ์' แจง ชิงปิดประชุมรายงานนิรโทษกรรม ตัดสินใจถูกต้องแล้ว
รองฯพิเชษฐ์ แจง ชิงปิดประชุมก่อนลงมติรายงานนิรโทษกรรม ตัดสินใจถูกต้องแล้ว เหตุข้อมูล 2 ฝ่ายซ้ำซาก สัปดาห์หน้าค่อยมาว่ากันใหม่ ยัน เป็นประธานฯ ไม่ได้เลือกข้าง เหตุทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว จวกกลับ อย่าเอาสถานการณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง
อย่าล่วงเกินสถาบัน พรรคร่วมขวางนิรโทษ112 ปชน.โวยชิงปิดประชุมหนี
สภาถกรายงานนิรโทษกรรม พรรคส้มดาหน้าอ้างข้อดี ล้างผิด ม.112
พรรคประชาชนเซ็ง! รัฐมนตรีเบี้ยวตอบกระทู้ถามสด
'ปชน.' โวย 'รมต.' ไม่มาตอบกระทู้ ปม 'พลทหารเสียชีวิต' ด้าน 'วิโรจน์' ลั่นแทนที่ทหารจะเสียชีพเพื่อชาติ กลับเสียชีวิตจากการคลั่งอำนาจของผู้บังคับบัญชา 'ปกรณ์วุฒิ' มั่นใจรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญสภา