‘อนุทิน’ การันตี ‘รมช.ซาบีดา’ น่ากลัวกว่า ‘ชาดา’ มั่นใจเอาอยู่ปราบผู้มีอิทธิพล

มท.1 แจงรอ รบ.แถลงผลงานก่อนแบ่ง รมช. ชี้ปรับไม่มาก ย้ำต้องช่วยกันทำงานลั่น รบ.อยู่ครบเทอมแน่

9 ก.ย.2567-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดแบ่งหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในวันนี้เลยหรือไม่ว่า รอให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ก่อน ซึ่งก็เหลืออีกแค่สองวัน เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะแถลงนโยบายในการประชุมร่วมรัฐสภาระหว่างวันที่ 12-13 ก.ย.เมื่อแถลงนโยบายเสร็จ ก็จะทำการแบ่งหน้าที่ให้กับรัฐมนตรีช่วยทั้งสามคน ทั้งนี้ อย่าเรียกว่าแบ่งหน้าที่เลยเพราะเราทำงานร่วมกัน สไตล์การทำงานของตนคือช่วยกันดูแล เพียงแต่ว่างานที่จะผ่านมาของแต่ละกรม ก็จะมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยแต่ละคนได้กลั่นกรอง และรัฐมนตรีทุกคนก็มีพื้นที่เป็นของตัวเอง บางคนเป็นผู้แทนราษฎร ส่วน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยก็ดูแลงานด้านการเมือง ช่วยพรรคภูมิใจไทยมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ปัญหามีอยู่ทุกหน่วยงานก็ต้องช่วยกันประสานงาน ช่วยกันดูแล ทำงานให้กับกระทรวงมหาดไทย

ถามว่าจะมอบหมายให้ น.ส.ซาบีดาดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลแทนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ บิดา ในฐานะอดีต รมช.มหาดไทยเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าบอกวันนี้เราจะต้องพิมพ์คำสั่งทำไม เข้าใจว่าปรับไม่มาก ส่วนพื้นที่ กทม.ก็คงต้องมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทยดูแล เพราะท่านเป็น สส.กทม.ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้านครหลวง หรืองานที่เกี่ยวข้องกับกรมการปกครองหรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีส่วนใดที่ต้องสนับสนุน กทม.ก็ต้องไหว้วานให้ท่านไปดูแล ทั้งนี้ ขอดูนโยบายของท่านนายกฯ ก่อน และเราก็มีอยู่เพียง 6 กรม ถึงแบ่งไปแล้วก็ต้องช่วยกันดูแล

เมื่อถามว่าที่ผ่านมานายชาดาจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง ซึ่งจะต้องมอบหมายให้ น.ส.ซาบีดาดูแลต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวติดตลกว่า “มองไปข้างหลังสิ ผมว่าน่ากลัวกว่าคุณชาดาอีก“

เมื่อถามว่าการเป็นผู้หญิงจะไม่มีปัญหากับการเข้าไปดูเรื่องของผู้มีอิทธิพลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สำหรับผม ผู้มีอิทธิพลก็คือรัฐมนตรีช่วยหญิงทั้งสองคนนั่นแหละ“

ถามถึงนิยามของกระทรวงมหาดไทยในยุคของนายอนุทินในขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ถือเป็นจุดแข็งของกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีที่มาอยู่ที่นี่ในยุคนี้ ถือเป็นรัฐมนตรีที่ผ่านศึกสงครามการเมืองมาแล้วทั้งนั้นเลย มีความตั้งใจ มีความทุ่มเทรับใช้พี่น้องประชาชนและชาติบ้านเมือง ทุกคนมีการศึกษาและประสบการณ์ที่เพียบพร้อม เชื่อว่าจะเป็นการทำงานร่วมกันที่คล่องตัว มีความซอฟท์แต่มีพลัง ซึ่งตนดีใจและเป็นเกียรติที่ได้มีรัฐมนตรีช่วยทั้งสามท่าน โดยทั้งสองท่านที่เป็นสุภาพสตรี ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นอย่างดี

เมื่อถามว่าจะเรียกกระทรวงมหาดไทยยุคนี้ว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ”สิงห์สองคู่อยู่ในกระทรวงมหาดไทยร่วมกันได้“

ถามว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธารจะฝ่าฟันและอยู่จนครบสามปีที่เหลืออยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน และสนับสนุนซึ่งกันและกัน มั่นใจว่านายกฯ แพทองธารซึ่งพูดกับตนเสมอว่าเราจะมาทำสิ่งที่ดีให้กับบ้านเมือง ช่วยกันทำ ตนก็มั่นใจว่าจะอยู่ครบเทอม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว!เรื่องถึงศาลฯ 'ณฐพร' ฟ้องกราวรูด 'บิ๊กขรก.มหาดไทย' เซ่นที่ดินเขากระโดง

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า "วันนี้ยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา09.30 น."

'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง

ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

'อนุทิน' เผยค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่หรือไม่ ขึ้นกับคณะกรรมการไตรภาคี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงค่าแรง 400 บาท ที่กระทรวงแรงงานป

กลัวครหา! อนุทิน ไม่ลงช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ หาเสียง แค่ส่งกำลังใจ

'อนุทิน' แจง ไม่ลงไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สุรินทร์ ได้แต่ส่งกำลังใจ หวั่นมีข้อครหาเยอะ กำชับ ปลัดมท.สั่งข้าราชการฝ่ายปกครอง ต้องทำตัวเป็นกลาง บอกติดตลก เลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคกวาดเก้าอี้เกิน200 เสียง คงมีสส.ในสภาฯ 2000 คน