'เรืองไกร' ร้องกกต.สอบปมคุณสมบัติ-จริยธรรม 'อุ๊งอิ๊ง' ยอมให้พ่อครอบครองฐานะนายกฯ ซัดไม่ใช่เรื่องพ่อลูก แต่เป็นเรื่องของประเทศ งงวันเดียววาร์ปลาออกจากรรมการบริษัท 4 จังหวัดได้อย่างไร
04 ส.ค.2567 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัตนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใน 2 ประเด็น โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 2 ประเด็น 1.กรณีเป็นกรรมการบริษัท 20 แห่ง ของน.ส.แพทองธาร ที่ยื่นออกลาจากกรรมการบริษัท ในวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งมีผลทันที โดยตามกฎมหมายแพ่ง มาตรา 1153/1 แก้ไขเมื่อปี 2549 ซึ่งยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ได้แก้ไขเรื่องการลาออกจากกรรมการบริษัทไว้ว่า การจะลาออกให้ยื่นหนังสือไปที่บริษัท หรือจะยื่นต่อนายทะเบียนก็ได้ ส่วนการไปจดทะเบียนจะอยู่ในอีกมาตรา คือ ว่าถ้ามีกรรมการลาออกแล้ว กรรมการที่เหลือ มีเวลาไปจดแจ้งอีก 14 วัน ดังนั้นหนังสือเอกสารที่คัดมา 20 บริษัทรวมกว่า 100 หน้า มายื่นต่อ กกต. จึงมีข้อสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร ไปยื่นลาออกที่บริษัท ที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด 14 บริษัทแรกที่ กทม. 2 แห่งที่ปทุมธานี มีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ด้วย 1 บริษัท และอยู่ที่นครราชสีมา 3 แห่งอยู่ลำพูน โดยยื่นด้วยตัวเองในวันที่ 15 ส.ค. ภายในวันเดียวได้อย่างไร
และต่อมาวันที่ 16 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าเดินทางไปว่ายื่นใน 4 จังหวัดในเวลาเดียวกันได้อย่างไร และถามตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าโชว์เอกสารการลาออกได้หรือไม่ ท่านบอกว่าไม่ใช่เรื่อง กกต.จึงต้องตรวจสอบให้ชัด
ประเด็นที่ 2 เรื่องจริยธรรม นายกรัฐมนตรี ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร บิดา มาครอบครองตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องพ่อ ลูก แต่เป็นเรื่องของนายกฯ ของแผ่นดินยอมไม่ได้ เพราะอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ความแพ่งของ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ โดยได้คัดคำร้องในเรื่องจริยธรรม ข้อ 8 เรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ให้คนอื่นยินยอมรับหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องครอบงำที่จะไปร้องยุบพรรค เพราะยังอ่านคำวินิจฉัยเต็มจากศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่อันนี้มีเหตุควรแก่การยื่นตรวจสอบแล้ว
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า คำว่าครอบงำอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 แต่ไม่มีคำว่าครอบครองในกฎหมายดังกล่าว จึงต้องยกคำพิพากษาศาลฎีกา และพจนานุกรมให้ กกต.ไปดูว่าคำว่าครอบครองหนักกว่าหรือไม่ และคำว่าครอบครองไม่สามารถร้องในมาตรา 28 เพราะไม่มีบัญญัติคำนี้ จึงไม่สามารถไปขยายความกฎหมายเองได้ แต่จะต้องไปปรับกับมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งมีกำหนดข้อห้ามไว้ 22 ข้อ ซึ่งรัฐมนตรีใหม่ได้มีการตรวจสอบแน่ ยืนยันว่าไม่ได้ร้องแค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่จะร้องหมดทุกฝ่าย
"ยืนยันว่าการมายื่นร้องเรียน ไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง ถ้ามีเหตุผมก็ร้อง วันนี้ผมยังไม่ร้องยุบพรรค เพราะยังไม่เห็นคำวินิจฉัย มีคนถามว่าเป็นบุคคลนิรนามที่มาร้องเพื่อไทยหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ใช่ ผมไม่เคยปิดชื่อ" นายเรืองไกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไทย-เนปาล' ลงนามความร่วมมือ 8 ฉบับครอบคลุมแทบทุกด้าน
ไทย-เนปาล ยกระดับความร่วมมือ ลงนาม 8 ฉบับ กระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การค้า อุตสาหกรรม การแพทย์ เกษตรกรรม และการศึกษา
นายกฯ อิ๊งค์ต้อนรับผู้นำเนปาลเยือนไทยครั้งแรกรอบ 66 ปี
นายกฯ เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับนายกฯ เนปาล เยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 66 ปี หนุนความร่วมมือการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว
นายกฯ อิ๊งค์ให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม
นายกฯ อิ๊งค์ แวะเยี่ยมญาติผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม ให้กำลังใจท่ามกลางความหวัง
‘อิ๊งค์’ ลงพื้นที่ติดตามการค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง.ถล่ม รับปากช่วยทุกชาติเต็มที่
นายกฯ รุดดูความคืบหน้าค้นหาผู้สูญหาย ตึก สตง. ถล่ม ‘ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรแรงงานฯ’ คุกเข่าไหว้ขอนายกฯช่วย รับปาก ช่วยทุกสัญชาติเต็มที่
‘นายกฯอิ๊งค์’ ลั่น 2-3 วัน ต้องมีคำตอบเบื้องต้น สาเหตุตึก สตง.ถล่ม
นายกฯ ย้ำตึกสูงผ่านตรวจสอบแล้วเข้าใช้ได้ปกติ พร้อมยืนยันไม่มีละเว้น ปมตึกจตุจักรถล่ม หากพบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน ดำเนินการตาม กม.
‘นายกฯ’ ยันอาฟเตอร์ช็อกเมียนมา ไม่กระทบไทย ขอ ปชช.ฟังทางราชการ อย่าตื่นตระหนก
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ระบุกรณีที่มีการแชร์ชาวอพยพออกจากตึกขณะนี้