ยุติศึกน้ำลาย! 'อนุสรณ์' หนุน ปชป.ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง

31 ส.ค.2567 - นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเพิ่มเสียงให้กับฝ่ายรัฐบาล ว่า คำอธิบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคำที่ฟังได้ เพราะต้องการให้ประเทศได้เดินหน้า ซึ่งเรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถทำปัจจุบันให้ดีได้ เพื่อจะวางรากฐานของประเทศไปสู่อนาคตที่ดี และวันนี้ที่เราเห็นคือการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะถ้าเรายังจมอยู่ที่เดิม เราจะทำอะไรไม่ได้ ประเทศชาติก็จะขัดแย้ง ต้องแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง และพรรคประชาธิปัตย์เขาก็มีวาระที่ต้องผลักดัน ส่วนพรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายที่ต้องทำ ฉะนั้น การเดินหน้ารัฐบาลเมื่อมีเสียงเพิ่มขึ้นนั่นคือเสถียรภาพของรัฐบาล 

“ให้ประเทศได้สงบ เดินไปข้างหน้า และเวลาของรัฐบาลนี้เหลืออีก 3 ปี ฉะนั้น ยิ่งรัฐบาลเป็นปึกแผ่น มีเสถียรภาพก็จะเกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน นักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศได้ “ นายอนุสรณ์ กล่าว  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน

วาทะและคำท้า : เมื่อ ’แพทองธาร’ บีบ ‘พรรคประชาชน‘ เปิดตัวเลือกพันธมิตรการเมือง!

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ โดยมีระยะเวลาอภิปรายถึง 37 ชั่วโมง และผลการโหวตในเช้าวันที่ 26 มีนาคมไม่ได้พลิกโผแต่อย่างใด

'สุริยะใส' วิเคราะห์ 'เพื่อไทย-ปชน.' พันธมิตรทางอุดมการณ์ ขาดสะบั้นแล้วจริงหรือ?

ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเผยแพร่บทวิเคราะห์ “เพื่อไทย vs พรรคประชาชน: พันธมิตรทางอุดมการณ์

ประมวลวาทะ ‘แพทองธาร’ ย้อนเกล็ดพรรคประชาชน! ท้าประกาศมาจะร่วมไม่ร่วมกับใคร

“แพทองธาร ชินวัตร“ ตอบโต้ข้อกล่าวหาขาดภาวะผู้นำ ถูกพ่อครอบงำ พร้อมเผยดีลทางการเมืองปี 66 และเรียกร้องให้พรรคประชาชน ประกาศจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนในการเลือกตั้งครั้งหน้า