ฉลุย! วุฒิสภารับหลักการร่างแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติ "สว.พันธุ์ใหม่" เสนอรัฐบาลทบทวนคำถามประชามติ ไม่แตะหมวด 1,2 ชี้เป็นคำถามเชิงซ้อนเข้าใจยาก ควรทำคำถามแยกออกมา เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหมวดใดๆ
27 ส.ค.2567 - ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่สภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ในการอภิปรายของสว. พบว่ามีความเห็นไปในทางสนับสนุนการแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าว แต่มีรายละเอียดที่ยังเห็นแย้ง โดยเฉพาะเกณฑ์การผ่านประชามติด้วยเสียงข้างมาก ที่สภาฯ แก้ไขให้ใช้เพียงเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิเท่านั้น
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) อภิปรายไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขเนื้อหาของมาตรา 13 ว่าด้วยเกณฑ์เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่ตัดเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งชั้นที่ 2 ว่าด้วยเกณฑ์ให้ใช้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ เพราะหากมีการออกเสียงประชามติ มีคนใช้สิทธิ 10 ล้านคนจากประชาชนที่มี 52 ล้านคน และเห็นชอบแค่ 5 ล้านหนึ่งเสียง เท่ากับผ่านประชามติ แต่เมื่อคิดเป็นเป็นเปอร์เซ็นต์พบว่าเป็น 10% เท่านั้น
“การปลดล็อคเสียงสองตนไม่เห็นด้วย ควรใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีใช้สิทธิจะอีกว่า เพื่อใหัความเป็นธรรมกับคนไทยทุกคน ส่วนที่ใครจะมองว่าทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้า ผมมองว่าใช่แต่จะรีบร้อนอะไร เพราะกรณีนี้ควรแก้ไขให้ถูกต้อง ก่อนไปแก้ไขกฎหมายต่างๆ รวมถึงรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ยาก” นายพิสิษฐ์ กล่าว
ด้านพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. อภิปรายว่า ตนสนับสนุนนายพิสิษฐ์ ทั้งนี้เรื่องประชามติสำคัญระดับประเทศควรคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ เห็นด้วยให้คงเสียงเกินกึ่งหนึ่ง
ขณะที่นายประภาส ปิ่นตบแต่ง สว. อภิปรายว่า ตนสนับสนุนการผ่านประชามติด้วยเสียงข้างมากแบบธรรมดา เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ช่วงต้นถกเถียงจะใช้เสียงข้างมากสองชั้น แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้เสียงข้างมากธรรมดาเพราะเกรงว่าไม่ผ่าน ซึ่งการทำประชามติเราผ่านมาแล้ว จะชักบันไดหนีหรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นความชอบธรรมที่จะใช้เสียงข้างมากธรรมดา สำหรับการกำหนดเสียงข้างมากแบบสองชั้นในต่างประเทศพบปัญหา เพราะจะทำให้หมดแรงจูงใจออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีข้อเสนอแนะของสว. ต่อการตั้งคำถามประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กลุ่มสื่อมวลชน อภิปรายสนับสนุนพร้อมระบุว่าการตั้งคำถามประชามติ ไม่ควรเป็นคำถามเชิงซ้อน อย่างที่มีข้อเสนอให้ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ถือเป็นคำถามเชิงซ้อน ดังนั้นขอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯทบทวนมติ แก้ไขคำถามประชามติเชิงเดี่ยว และหากอยากรู้ความคิดเห็นประชาชนขอให้ทำคำถามแยก
ขณะที่น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แกนนำกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ อภิปรายเสนอแนะให้แก้ไขคำถามที่มีลักษณะซ้อนคำถามไม่สามารถตอบได้ด้วยคำตอบเดียว เช่น หากตนเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเว้นการแก้ไขหมวดใด จะเลือกคำตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ดังนั้นควรตั้งคำถามที่ไม่ยากต่อความเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่สว.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ได้ลงมติรับหลักการ 179 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง
ทั้งนี้ในการพิจารณาวาระสองนั้น พบว่ามีการเสนอญัตติให้ใช้การตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาฯ โดยนายเทวฤทธิ์ เสนอเพราะมองว่าหากพิจารณาไม่เสร็จทันสมัยประชุมที่จะหมดลงเดือนต.ค. อาจทำให้การทำประชามติครั้งแรกไม่ทันเดือนก.พ.2568 ขณะที่สว.เสียงส่วนใหญ่ เห็นว่าควรตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) จำนวน 25 คนพิจารณา ในกรอบเวลา 60 วัน ทำให้มีการโหวตเพื่อชี้ขาด โดยมติข้างมาก 146 เสียงให้ตั้งกมธ. พิจารณาในกรอบเวลา 60 วัน ไม่เห็นด้วย 34 เสียง และ งดออกเสียง 6 เสียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สว.พันธุ์ใหม่' รอดูโฉมหน้า 'ครม.อิ๊งค์' ยันไล่เช็กบิลแน่
'นันทนา' สวน 'ทักษิณ' อ้างเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง เหตุ 'อิ๊งค์' ลาคลอด ให้ถามประชาชนดีกว่า เชื่อสาธารณชนรับรู้ ใครคือ 'นายกฯ ตัวจริง' สว.รอดูโฉมหน้า ครม.ใหม่ ยันไล่เช็กบิลแน่
สว.นันทนา ออกโรงเตือนองค์กรอิสระอย่าใช้อำนาจเหนือประชาชน
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คำแถลงต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า เราทุกคนต้องช่วยกันมองความเป็นไปในบ้านเมืองอย่างมีสติและวุฒิภาวะ
'นิพิฏฐ์' เตือน 'สว.กลายพันธุ์' ก้าวก่ายคดียุบก้าวไกล ระวังสูญพันธุ์
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "เมื่อส.ว.กลายพันธุ์" มีรายละเอียดดังนี้
'พันธุ์ใหม่' โวย! เจอกำแพงสีน้ำเงิน กินรวบตั้ง 15 กมธ.ตรวจสอบองค์กรอิสระ เต็มแผง ไม่แบ่งใคร
ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา นักโต้วาทีอันดับต้นๆของประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประชุมสว.วันแรก ก็เจอกำ
'สว.พันธุ์ใหม่' แจงวอล์คเอาท์ ไม่ร่วมสังฆกรรมพวกเสียงข้างมากลากไป
แกนนำสว.กลุ่มพันธุ์ใหม่และกลุ่มอิสระ ร่วมกันแถลงภายหลังวอล์กเอาท์จากห้องประชุมวุฒิสภา ระหว่างที่มีการลงคะแนนคัดเลืกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (อสส.)
วุฒิสภาระอุ! 'สว.พันธุ์ใหม่-สีขาว' เปิดศึกสายสีน้ำเงิน แย่งเก้าอี้ กมธ.สอบประวัติอัยการสูงสุด
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม พิจารณาการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ