'ธนาธร' ให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม ไปเลือกตั้งปี 2570 มั่นใจพรรคประชาชนเข้าวิน ประเทศจะเป็นประชาธิปไตย

27 ส.ค.2567 – ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศทวงแชมป์การเลือกตั้งสมัยหน้าว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนคงไม่ไปก้าวก่าย แต่มั่นใจว่าพรรคประชาชนจะได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้อง ให้เป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งปี 2570 และครองเสียงข้างมาก เพื่อจะให้พรรคประชาชน พาประเทศไทยไปสู่อนาคตข้างหน้า ที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีนักร้องนิรนามไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย มองเรื่องนี้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยกับการขยายขอบเขตอำนาจที่เกินไปของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งสำคัญควรทำให้พรรคการเมืองเกิดง่ายตายยาก และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอนาคต ว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการพรรคใดบริหารประเทศ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ นายธนาธร ส่ายหน้าร้อง “โอ้ผมไม่มีความเห็น ” พร้อมกล่าวต่อว่าคงเป็นอำนาจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเลือกร่วมกับพรรคใด และไม่เลือกร่วมกับพรรคใด เราไม่มีความเห็น

ถามย้ำว่าจะไม่ทำให้เสถียรภาพของฝ่ายค้านลดลงใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวทันทีว่า “ไม่ครับ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันเด็กพรรคประชาชนคึกคัก 'ดช.ไอติม' ปลื้มร่างพ.ร.บ.ไม่ตีเด็กผ่านสภาฯ

พรรคประชาชนจัดกิจกรรมวันเด็ก “เมื่อทุกคนเลือกห้องเรียนเองได้” โดยบรรยากาศที่อาคารอนาคตใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก เด็ก ผู้ปกครอง และประชาชนเดิ

'พิธา' ให้สัมภาษณ์งานแต่งข้ามขั้ว ครม.ครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมงานพิธีสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางพรรคเพื่อไทย และนางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง พรรคประชาชน

ชื่นมื่น! 'ทักษิณ-พิธา' ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง เพื่อไทย-ประชาชน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร

'สว.พิสิษฐ์' เตรียมจัดเวทีชำแหละร่างแก้รธน. หั่นเสียงวุฒิสภา ขัดปชต.-การถ่วงดุล

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256