มติ กก.บห.พลังประชารัฐ ให้ “บิ๊กป้อม” เคาะชื่อรมต.สำรองได้ เปิดทางเพื่อไทยชงเปลี่ยนตัว หากคุณสมบัติไม่ผ่าน เผย ยังมีการประสานกันอยู่เป็นระยะ ระบุ หาก พท.เอาคนอื่นที่ไม่ใช่มติพปชร. ถือว่าผิดหลักเกณฑ์
23 ส.ค.2567 - ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า พรรคพลังประชารัฐได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีกรรมการบริหารพรรคมาร่วมประชุมจำนวน 12 คน จากจำนวน 19 คน ซึ่งครบตามองค์ประชุม เพื่อยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลและการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ตามที่ สส.ของพรรคพลังประชารัฐได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐเพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควตาของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 ส.ค.67 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวจำนวน 4 คน ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯไปแล้วนั้น
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว ได้มีมติเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลที่เห็นควรเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ดังนี้ พรรคพลังประชารัฐขอยืนยันรายชื่อบุคคลที่พรรคได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีผ่าน นพ.พรหมินทร์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ที่ผ่านมา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบเพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น
"หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าวและจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตามต่อไป"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่วันที่ได้ส่งรายชื่อให้พรรคเพื่อไทย มีการแจ้งกลับมาหรือยังว่า แต่ละคนมีคุณสมบัติครบถ้วน พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีการประสานงานกันเป็นระยะ
เมื่อถามว่า ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังมีคุณสมบัติอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ในเบื้องต้นมีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ได้มีการยืนยันว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแค่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รายชื่อที่คุณสมบัติไม่ผ่าน หัวหน้าพรรคสามารถเสนอชื่อให้ทางพรรคเพื่อไทย โดยไม่ต้องผ่านกก.บห.ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ใช่ มติที่ประชุมยืนยันชัดเจนว่า กก.บห.ได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่หากหัวหน้าพรรคจะมีความเห็นควรจะผ่านกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งก็คงจะนำรายชื่อเข้าที่ประชุม กก.บห.
ซักว่า รายชื่อที่ ร.อ.ธรรมนัส ส่งไป ซึ่งยังไม่ผ่านกก.บห.ถือว่าโมฆะหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ เพราะ 4 รายชื่อตามที่ กก.บห.ก็ยังยืนยันตามเดิมตั้งแต่วันแรกที่เราเสนอไปเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งล้วนเป็นรัฐมนตรีเก่าของเราในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า สุดท้ายหากรายชื่อไม่ออกมาตามนี้จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า คงจะต้องคุยกับทางพรรคเพื่อไทย จริง ๆ แล้วเป็นอำนาจของหัวหน้ารัฐบาล แต่โดยมารยาททางการเมืองจะต้องมีการพูดคุยกัน หากรายชื่อที่เสนอไปไม่เหมาะสม หรือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน ก็ต้องมาคุยกัน เรายินดีพร้อมที่จะเปลี่ยน
ถามว่า การประชุม กก.บห.วันนี้ กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เข้าร่วม สะท้อนถึงรอยร้าวภายในพรรคหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ เพราะอาจจะติดภารกิจ มีการแจ้งกก.บห.แล้ว
เมื่อถามว่า รายชื่อที่ไปส่งตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ยังไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในทางการยังไม่มีการติดต่อกลับมา เมื่อถามว่า ในที่ประชุม กก.บห.มีการหารือกันถึงการครอบงำข้ามพรรคของคนนอกหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุย เราคุยในหลักเกณฑ์ หลักการ และวิธีการของพรรคเราเท่านั้น
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชารัฐเสนอไปว่า รายชื่อรัฐมนตรีแต่ละพรรค ก็มีมติและความเห็นของแต่ละพรรค แต่หากพรรคใดมัวแต่ฟังเสียงเล็ก เสียงน้อย เสียงทุ้มอะไรพวกนี้ ก็จะไขว้เขว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหลักเกณฑ์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ที่มีการเมืองมา ควรคุยกันและให้เกียรติการร่วมรัฐบาลซึ่งกันและกัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่เราส่งไปได้ผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค แต่หากพรรคเพื่อไทยจะนำคนอื่นมาใช้ในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ที่อาจเข้าข่ายผิด มาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เรื่องนี้เราเข้าใจหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรี เพราะตามหลักการ หากเสนอบุคคลที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วน หรือไม่เหมาะสม ก็อาจจะมีผลกระทบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีความไม่สบายใจตรงนี้ จึงแจ้งกลับมายังหัวหน้าพรรค ซึ่งทางพรรคยินดีที่จะเปลี่ยนเป็นคนที่เหมาะสม เพราะพรรคพลังประชารัฐมีบุคคลที่เหมาะสม และพร้อมเป็นรัฐมนตรีอยู่หลายคน ไม่ต้องห่วง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะลาออกจากหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่มี หัวหน้าพรรคอยู่กับพวกเราตลอด หากเราไม่ทิ้งท่าน ท่านก็ไม่ทิ้งพวกเรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
นายกฯ มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น 'ค่าของแผ่นดิน' ขอช่วยผลักดันนโยบาย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 โดยมี