แผ่นเสียงตกร่อง ‘จาตุรนต์’ ย้ำ ต้องแก้รธน. หลัง ’เศรษฐา‘ ถูกศาลสอยร่วงเก้าอี้นายกฯ

17 ส.ค.2567 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้คุณเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นวังวนเดิมและความต่อเนื่องของกระบวนการที่เรียกว่า“ตุลาการภิวัฒน์”

ซึ่งเป็นกระบวนการที่อ้างว่าต้องใช้ฝ่ายตุลาการเข้าจัดการกับการเมืองให้เข้าที่เข้าทางและเกิดความสุจริตเที่ยงธรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่ากระบวนการนี้ไม่ได้ทำให้การเมืองของประเทศนี้ดีขึ้นอย่างที่อ้างกัน แต่ผลกลับเป็นตรงข้ามคือได้สร้างความเสียหายให้กับระบบประชาธิปไตยและระบบยุติธรรมเองอย่างใหญ่หลวง

กระบวนการตุลาการภิวัฒน์นี้ ถูกใช้ร่วมหรือสลับกับการทำรัฐประหารเพื่อหักล้างเจตนารมณ์ของประชาชนและทำให้ประชาชนไม่สามารถกำหนดความเป็นไปของประเทศได้

ในฐานะผู้ถูกกระทำคนหนึ่ง ผมควรจะช่วยปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อให้เห็นปัญหาร่วมกันอย่างชัดเจนมากขึ้น

นายกฯทักษิณถูกทำให้พ้นจากตำแหน่งด้วยการรัฐประหาร ส่วนนายกฯยิ่งลักษณ์ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามด้วยการรัฐประหาร

ก่อนการรัฐประหารทั้งสองครั้งเกิดการยุบสภาและมีการเลือกตั้งทั่วไปที่ถูกบอยคอตและขัดขวางและจบลงด้วยการที่ศาลฯสั่งให้เป็นโมฆะโดยไม่สมเหตุสมผล

นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งอีกสองคนพ้นจากตำแแหน่งไปโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยสาเหตุและการลงโทษที่ไม่ได้หลักสัดส่วน ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม

กรณีของคุณสมัคร ที่ท่านไปทำกับข้าวออกทีวีได้รับค่าจ้างเล็กน้อยกลายเป็นการขัดแย้งผลประโยชน์ทางตำแหน่งหน้าที่

ส่วนกรณีท่านสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายกฯเนื่องจากกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งไปซื้อเสียง 20,000 บาท พรรคพลังประชาชนถูกยุบ ท่านสมชายเป็นกรรมการอยู่ด้วยก็ถูกเพิกถอนสิทธิ์การเมือง 5 ปี และพ้นจากตำแหน่งนายกฯ มีผลให้ล้มไปทั้งรัฐบาล

ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันมีการยุบพรรคการเมืองหลายพรรคที่มีผลทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคก้าวไกล กล่าวได้ว่าการยุบพรรคที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นไปโดยไม่เป็นเหตุเป็นผลและมีการลงโทษร้ายแรงอย่างไม่เป็นสัดส่วนส่งผลเสียหายต่อพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้พรรคการเมืองและระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ รวมทั้งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หักล้างเจตนารมณ์ของประชาชน ขัดต่อหลักประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม

ล่าสุด กรณีของคุณเศรษฐา ทวีสิน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติ และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และส่งผลให้รัฐมนตรีพ้นไปทั้งคณะ

นี่เป็นเรื่องใหม่…

กรณีนี้เป็นการใช้เรื่องจริยธรรมอย่างคลุมเครือและสับสน มีคำถามว่าในเมื่อผู้ที่ถูกลงโทษและพ้นโทษไปแล้วเกินเวลาที่กำหนด ยังจะใช้กรณีเดียวกันนั้นมาลงโทษหรือให้โทษกับเขาในเรื่องจริยธรรมได้อย่างไร

ส่วนข้อกล่าวหาว่าทุจริตติดสินบนที่นำมาเป็นเครื่องแสดงถึงความไม่สุจริตเป็นที่ประจักษ์ก็ถูกดำเนินคดีและคดีเป็นที่สุดสั่งไม่ฟ้อง เท่ากับบริสุทธิ์ไปแล้ว

กรณีนี้จึงเป็นเรื่องของการใช้ดุลพินิจของตุลาการที่ไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน ไม่ใช่การใช้หลักฐานและข้อกฎหมายที่ปราศจากข้อโต้แย้ง การวินิจฉัยด้วยเสียงข้างมาก 5:4 ก็ฟ้องอยู่เองว่าแม้ตุลาการที่เป็นผู้วางกรอบกติกาว่าด้วยจริยธรรม เมื่อถึงเวลาใช้กับกรณีใดกรณีหนึ่งก็ยังเห็นแตกต่างกันได้อย่างมีนัยสำคัญ

มักมีการตั้งคำถามอยู่เสมอว่ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของคนทั้งประเทศ แต่ทำไมต้องพ้นจากอำนาจไปด้วยการตัดสินของคนเพียง 9 คน

ในกรณีนี้ อาจถูกมองได้ว่าการวินิจฉัยจะออกมาทางใด รัฐบาลทั้งรัฐบาลจะอยู่หรือไป ขึ้นอยู่กับเสียงที่แตกต่างกันเพียง 1 เสียงเท่านั้น

การใช้มาตรฐานจริยธรรมมาเป็นเหตุในการให้โทษหรือลงโทษนักการเมือง จึงเป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่ฝ่ายตุลาการในการทำให้นายกฯและครม.ทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง หรือการล้มรัฐบาลโดยใช้ดุลพินิจที่ไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและไม่ต้องคำนึงถึงเจตจำนงของประชาชน ซ้ำเติมปัญหาที่เกิดจากกระบวนการตุลาภิวัฒน์ให้หนักหนายิ่งขึ้นไปอีก

การเพิ่มอำนาจที่มีมากอยู่แล้วให้แก่กระบวนการตุลาการภิวัฒน์ในการจัดการกับทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติเช่นนี้ ยิ่งเป็นการขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างอำนาจอธิปไตย 3 ฝ่ายและเป็นการลดทอนอำนาจของประชาชนที่มีน้อยอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีก

ทางออกในเรื่องนี้ก็มีทางเดียวคือแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รอบนี้ขอ ‘นิพิฏฐ์’ เห็นด้วยกับ ‘พรรคประชาชน’ กรณีโหวตเลือกนายกฯ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส. พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ฝ่ายค้าน(opposition) คือ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ผมเห็นด้วยกับพรรคประชาชน(ก้าวไกล) ในการเลือ

หัวขบวนฝ่ายอนุรักษ์ฯ ชี้ แพทองธาร มีปัญหาแค่อ่อนเยาว์ นอกนั้นบริสุทธิ์กว่า ‘ชัยเกษม’

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ หนึ่งในหัวขบวนฝ่ายอนุรักษ์นิยม โพสต์ในเฟซบุ๊ก"เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ระบุว่าผมว่า เรามองเกมผิด

'ทักษิณ' เตรียมร่วมยินดี 'อุ๊งอิ๊ง' ทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตัดผม ที่ห้างดังย่านเพลิน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ภายหลังที่วันนี้ (17ส.ค.) ช่วงบ่าย ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฯ ซึ่งมีรายงานว่า

ได้อภัยโทษคดีเก่า 'ทักษิณ' ยังมีคดี 112 ศาลนัดไต่สวนพยาน 19 ส.ค.นี้

จากกรณีที่มีชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และพ้นโทษทันที โดยไม่ต้องรอ 31 ส.ค.นี้ พร้อมผู้ต้องขังอีก 5 หมื่นคน โดยทักษิณอยู่ในกลุ่มของผู้ถูกคุมประพฤติที่ได้รับการปล่อยตัว 7,500 รายทั่วประเทศ