'ณัฐพงษ์' ปลุกสส.แก้ปัญหาต้นตอ ขจัดอำนาจศาลรธน.ล้นเกิน ร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ

'ณัฐพงษ์' ชี้ นายกฯ คนใหม่ ต้องแก้ปัญหาต้นตอ ขจัดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญล้นเกิน สร้างบาดแผลให้ทุกฝ่าย ชี้หลังรธน.ปี40 ยุบพรรคการเมืองแล้ว 111 พรรค มีการตัดสิทธิ์ส.ส.- ถอดถอนนายกฯ รุกล้ำฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร ปลุกสส.ทั้งสภา ร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ

16ส.ค. 2567 - เมื่อเวลา 10.55 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน อธิปราย ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการยืนยัน เพื่อสถาปนาอำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชน ให้กลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง

"ดังนั้น ผมเห็นด้วยกับประธานสภาฯ และเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้ไม่ใช่เวทีที่พรรคประชาชน จะมาอภิปรายถึงตัวคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ไม่ใช่เวทีที่ประชาชนจะมาอภิปรายถึงความเหมาะสมของนโยบายของรัฐบาล เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนเหล่านั้น แต่เป็นเวทีที่ในฐานะพรรคประชาชน จะขอกล่าวคำอภิปราย เพื่อเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะอยู่ในรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 นี้ ว่า พวกเราไม่เห็นด้วยในกระบวนการนิติสงคราม ที่ดำเนินการโดยกลุ่มคนชั้นนำมาทำลายอำนาจที่มาจากประชาชน วันนี้ไม่ว่าเพื่อนสมาชิกจะลงมติอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภารกิจของพวกเราในฐานะ สส.รวมถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีคนถัดไป คือการกลับไปแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ที่ทำให้พวกเราต้องมานั่งอยู่ในสภาฯ วันนี้"

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตนหรือเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่ง หรือเป็นเรื่องของพรรคประชาชน ของพรรคการเมืองอื่นการเมืองใดการเมืองหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่เราจะต้องร่วมกันขีดเขียนประวัติศาสตร์ต่อจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศที่ต้นตอ

นับตั้งแต่ปี 2541 ภายหลังการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญปี 40 ได้มีการยุบพรรคการเมืองไปแล้วทั้งสิ้น 111 พรรค ตัวเลขนี้รวมถึงการยุบพรรคก้าวไกลกรณีล่าสุดไปแล้ว แน่นอนว่าตัวเลขนี้ อาจจะเป็นตัวเลขจากการยุบพรรคที่นับรวมการยุบพรรคจากการขาดหลักเกณฑ์ ขาดคุณสมบัติ และขาดสมาชิกต่างๆ ของพรรคการเมืองด้วย

แต่หากเราจะนับเฉพาะคดีการยุบพรรคที่เป็นคดีทางการเมือง ซึ่งมีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมาในอดีต ก็จะมีอีกหลายกรณี อาทิ การยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกหลายๆ คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ล้วนเป็นเหยื่อจากคำตัดสินทางการเมือง และล้วนเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากระบบที่ให้อำนาจล้นเกินกับศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณายุบพรรคการเมือง

หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวอีกว่า นอกจากการยุบพรรคการเมือง ยังมีกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาทิ กรณีถือหุ้นสื่อ ที่ส่งผลให้เพื่อนสมาชิกของเราบางท่านต้องพ้นสมาชิกภาพไป ทั้งที่เราทราบกันดีว่า ในหลักปฏิบัตินั้น บริษัทเหล่านี้หลายๆ บริษัท ไม่ได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสื่อแล้ว

แต่นอกจากกรณียุบพรรคและถือหุ้น ที่มีผลกระทบต่อ สส. ฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรง ยังมีกรณีที่นายกรัฐมนตรีประมุขของฝ่ายบริหารถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งมาแล้วหลายครั้งในอดีต

ล่าสุดที่ทำให้เราต้องมาอภิปรายในวันนี้ คือกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทูลเกล้าฯ เสนอนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา ดังนั้น เรื่องนี้คิดว่าเป็นปัญหาของการจัดวางตำแหน่งแห่งที่ อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอื่นๆ ที่จะต้องทำอย่างไรไม่ให้มีการรุกล้ำเขตแดนอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารจนล้นเกิน

ทั้งนี้ เรายังมีกรณีการถูกประหารชีวิตของนักการเมืองอีกหลายกรณีตามพระราชบัญญัติของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ด้วยข้อหาผิดจริยธรรมร้ายแรง

“ผมคิดว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ในห้องแห่งนี้ น่าจะเห็นปัญหาเดียวกัน ในฐานะที่หลายๆ ท่านอยู่ในโลกการเมืองมาก่อนผมนานนัก มีใครคิดว่าบุคคลที่ตนได้เอ่ยชื่อมา สมควรจะถูกประหารชีวิตทางการเมืองไหมครับ เพราะไม่ว่าจะถูกจะผิดอย่างไร เราก็มีกลไกในการตรวจสอบ มีโทษอาญา มีคดีการทุจริตคอรัปชั่นในการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่โทษในการประหารชีวิตการเมืองของนักการเมืองที่ทุกท่านก็ล้วนเป็นนักการเมืองเช่นเดียวกันกับผม มีใครเห็นด้วยกับโทษเหล่านี้ไหมครับ”

นายณัฐพงษ์ กลาวอีกว่า สำหรับมาตรฐานทางจริยธรรม ควรจะเป็นเงื่อนไขกฎกติกากระบวนการที่พวกเราตรวจสอบกันเอง ไม่ใช่กฎกติกาที่จะให้องค์กรอื่นๆ อย่างองค์กรตุลาการมาวินิจฉัย โดยใช้มาตรวัดทางกฎหมายมาตรวัดทางจริยธรรมที่ปัจเจกแต่ละคนมองเห็นแตกต่างกัน ดังนั้น หากจะมีใครมาตัดสินจริยธรรมของนักการเมืองในฐานะที่นักการเมืองมาจากประชาชนอตนคิดว่าควรจะต้องใช้ความรับผิดรับผิดชอบใช้เสียงของประชาชนมาเป็นคนตัดสิน

จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จะมีช่วงเวลาไหนที่รองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ รองประธานสภาผู้แทนคนที่หนึ่ง และประมุขของฝ่ายบริหาร ต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไปพร้อมๆ กันในช่วงเวลาไม่กี่วัน ทำให้เกิดสภาพสุญญากาศทางการเมืองในการบริหารราชการแผ่นดินที่เราต้องมานั่งประชุมกันในวันนี้ ตนคิดว่าที่ผ่านมา เราเห็นไม่กี่กรณีนอกจากการเกิดปฏิวัติรัฐประหารโดยตรง แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ตนคิดว่าเรากำลังอยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เต็มใบอีกรูปนึง

การเลือกตั้งในปี 49 ถือการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิตตน แต่ผลการเลือกตั้งในวันนั้น ก็ต้องเป็นโมฆะ และทำลายเสียงที่ตนออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียง เนื่องด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยเช่นนี้ ที่ทำร้ายจิตใจสร้างแผลบาดลึกในประชาชนคนไทยทุกคน รวมถึงตนเองที่ออกไปเข้าหาเป็นครั้งแรก

นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ความจริงที่ตนได้เล่าไปนี้ เป็นความจริงที่เพื่อนสมาชิกรวมถึงประชาชนที่ฟังจากทางบ้านเราประสบกันทุกคน ได้รับบาดแผล ประสบการณ์หลายๆ อย่าง ประชาชนในประเทศนี้ อาจจะไม่ได้มีโอกาสเข้ามานั่งในสภาฯ แต่ตนเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ร่วมประสบเหตุแบบเดียวกับตนที่หล่อหลอมให้ทุกท่านมานั่งอยู่ในห้องนี้

ภายหลังจากการปฏิวัติปี 57 ที่มาสู่รัฐธรรมนูญปี 60 ที่บรรดาคณะผู้ร่างมีแนวคิดว่า นักการเมืองเป็นสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาต้องฉกฉวยโอกาสจากอำนาจที่ได้มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และการฉีกรัฐธรรมนูญ มาออกแบบกติกาบนพื้นฐานรัฐธรรมนูญที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ตนเชื่อว่ามันได้พิสูจน์แล้วว่า แนวคิดแบบนี้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย ซ้ำร้ายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งจากกลุ่มคนชั้นนำ ผู้ถือใบอนุญาตอีกหนึ่งใบ โดยใช้อำนาจเหล่านั้นมาทุบทำลายผู้แทนราษฎรผู้ทรงอำนาจสูงสุดจากประชาชน

นายณัฐพงษ์ ชี้ว่า โจทย์ปัจจัยสำคัญของพรรคประชาชนในขณะนี้ คือการสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ ทำอย่างไรให้เรามีนายกรัฐมนตรีคนถัดไปมาทำหน้าที่เร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศเราไม่ต้องเกิดสุญญากาศทางการเมือง และเกิดสุญญากาศในการบริหารราชการแผ่นดิน

ภารกิจที่สำคัญของพวกเราในสภานี้ คือช่วยกันสานต่อภารกิจ 3 ประการ คือปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆ ทั้งการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ หรือรายมาตรา หรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใดก็ตาม เพื่อจัดวางตำแหน่งแห่งที่ และอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงองค์กรอิสระ ให้มีความเหมาะสมเป็นไปตามหลักสากล จะมีการปรับปรุงโทษและกติกาที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นได้ง่ายแต่ตายได้ยาก และมีความยืดโยงกับฐานสมาชิกพรรค เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับระบอบประชาธิปไตยในประเทศ ทำอย่างไรที่มีการทบทวนมาตรฐานจริยธรรม ให้เป็นเรื่องความรับผิดรับชอบทางการเมืองของนักการเมืองให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่องค์คณะไม่กี่คนเป็นผู้ตัดสิน

"เชื่อว่าเราเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 ปีต่อจากนี้ ในรัฐสภาชุดนี้ ในวาระที่เรามีร่วมกัน เราสามารถผลักดันให้มันเกิดขึ้นได้ และในการเลือกตั้งปี 2570 ไม่ว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนนำเสนอนี้ จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้กับระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้ได้รับฉันทามติจากการเลือกตั้ง จากอำนาจสูงสุดของประชาชน ให้สามารถดำเนินนโยบายแก้ไขกฎหมายบริหารประเทศ เพื่อตอบเจตจำนงประชาชนได้อย่างดีที่สุด"

นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า การลงมติของพรรคประชาชนต่อจากนี้ เราจะลงมติไม่เห็นชอบ เพราะเราต้องการสงวนจุดต่างใช้หลักการเดียวกันกับที่เราได้โหวตเลือกนายเศรษฐาไปเมื่อปีที่แล้ว ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ เราเคารพท่าน และผมก็เชื่อว่า ทุกท่านจะเคารพในความเห็นของพวกเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนวาระร่วมอื่นๆ ก็อยากให้ทุกท่านช่วยกันเดินหน้าต่อไป

จากนั้น เวลา 11.11 น. ที่ประชุมได้เข้าสู่วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลสมควรได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

โดยเริ่มนับองค์ประชุม มีสมาชิกแสดงตน 482 คน จากจำนวน สส.ทั้งหมด 493 คน จากนั้นได้ให้ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขานชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นรายบุคคลตามตัวอักษร โดยให้สมาชิกขานว่าเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียงเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่มี 314 เสียงยืนยันพร้อมโหวตสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ มีมติเป็นเอกฉันท์งดออกเสียง ส่วนพรรคประชาชนแสดงจุดยืนไม่โหวตสนับสนุนให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครัฐบาล โดยจะโหวตไม่เห็นชอบ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' เผยหลัง 'แพทองธาร' เป็นนายกฯต้องหารือพรรคร่วมฯเรื่องนโยบาย-โควตารมต.

'ภูมิธรรม' เผยหลัง 'แพทองธาร' ขึ้นเป็นนายกฯต้องหารือพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยนโยบาย สัดส่วนโควตารัฐมนตรีต้องคุยกันใหม่ ดูตามความเหมาะสม-สถานการณ์ ยันว่าที่นายกฯมีศักยภาพ ดูดซับการเมืองมานาน เชื่อไม่มีปัญหาการนำทัพ

'อดีต40สว.' ผู้ร้องถอดถอน 'เศรษฐา-พิชิต' เชื่อมั่นในหลักกฎหมาย พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนอดีต40ส.ว.ผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน และนายพิชิต ชื่นบาน ให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี โพสต์ข้อความว่า

อย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน! รีบจองล้างจองผลาญ 'พรรคประชาชน'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่า“ติเรือทั้งโกลน” จ้องเล่นงานพรรคประชาชน จนเกิดกระแสสงสาร