'ภูมิธรรม' เผยหลัง 'แพทองธาร' เป็นนายกฯต้องหารือพรรคร่วมฯเรื่องนโยบาย-โควตารมต.

'ภูมิธรรม' เผยหลัง 'แพทองธาร' ขึ้นเป็นนายกฯต้องหารือพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยนโยบาย สัดส่วนโควตารัฐมนตรีต้องคุยกันใหม่ ดูตามความเหมาะสม-สถานการณ์ ยันว่าที่นายกฯมีศักยภาพ ดูดซับการเมืองมานาน เชื่อไม่มีปัญหาการนำทัพ

16ส.ค. 2567 - ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภา เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า ถึงเวลานี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามเดิม โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นตรงกัน ตั้งแต่การพูดคุยและการแถลงข่าวร่วมกัน ได้มีการแสดงท่าทีทางการเมืองออกมาอย่างชัดเจนแล้ว และวันนี้ก็ถือเป็นโอกาสและบทบาทของพรรคเพื่อไทย และเป็นสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อตัวบุคคล ซึ่งเป็นตัวบุคคลที่มีศักยภาพ มีความสามารถ ที่จะมาเดินเรื่องงานต่อเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนและประเทศ ที่กำลังประสบอยู่ค่อนข้างหนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่าในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะยังคงได้เก้าอี้เท่าเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เดี๋ยวคงต้องรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อได้รับการโหวตจากสภาแล้วก็จะเป็นสิทธิ์ของท่านในการพิจารณาและพูดคุยกัน เมื่อถามว่าโดยมารยาททางการเมืองแล้วควรจะเป็นโควตาเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่มีโควตาเดิมหรอกครับ เมื่อรัฐบาลเก่าสิ้นสุดลงแล้ว รัฐบาลใหม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำหรือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะได้มาพูดคุยและหารือกันกับหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่สนับสนุน”

เมื่อถามย้ำว่าเท่ากับเป็นการล้างบางใหม่เลยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าพึ่งไปพูดอย่างนั้นเลย เพราะส่วนตัวยังไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะคิดอย่างไร ก็ต้องรอท่านพิจารณา เมื่อถามว่า ยังคงเป็นเงื่อนไขต่อไปหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าทางพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันในเก้าอี้สัดส่วนเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ว่าเป็นความเห็นของใคร แต่โดยมารยาทแล้วเราก็ต้องพูดคุยตามปกติ คือการเลือกผู้นำคนใหม่ที่คิดว่าทุกฝ่ายยอมรับได้ และทุกฝ่ายยอมรับว่ามีศักยภาพที่จะทำงาน ส่วนรายละเอียดต่อไปคงต้องไปทีละขั้น วันนี้เราเสนอชื่อเราก็ยังไม่แน่ใจว่าสภาจะตัดสินใจอย่างไร การที่จะพูดอะไรไปก่อนที่สภาตัดสินใจดูว่าจะไม่มีมารยาททางการเมือง

"ถ้าวันนี้สภาตัดสินใจ เลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ขั้นต่อไปก็ต้องให้เวลากับ น.ส.แพทองธาร เข้ามาและนั่งพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนจะเป็นอย่างไรมีอะไรเป็นแบบไหน คิดว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะทำให้ทุกฝ่ายคิดร่วมกัน และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และหารือกันว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีความเหมาะสมว่าจะเป็นอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มาจากคนที่นามสกุลชินวัตร หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าจะเปลี่ยนผ่านประเทศไปได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าจะเป็นคนใหม่หรือนามสกุลชินวัตรหรือไม่ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นไปในด้านลบ ที่ผ่านมาตระกูลชินวัตรได้ทำงานให้กับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ได้ใช้ศักยภาพและบุคลากรของตระกูลสนับสนุน ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องของรายบุคคล นายกรัฐมนตรีแต่ละคนต่างก็มีลักษณะพิเศษ มีคุณลักษณะของแต่ละคน วันนี้ น.ส.แพทองธาร เสนอตัว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสาธารณะชนจะตัดสิน

“ สิ่งสำคัญน.ส.แพทองธาร ไม่ได้เพิ่งจะเข้ามาอยู่การเมือง ความจริงได้ดูดซับสถานการณ์ทางการเมืองและประเด็นทางการเมือง รวมทั้งสภาวะทางการเมืองต่างๆยาวนานตั้งแต่ 8 ขวบ ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าท่านเห็นประสบการณ์ทางการเมือง ด้วยการริเริ่มการตั้งพรรคไทยรักไทยตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาอยู่ในบรรยากาศทางการเมือง ตามคุณพ่อไปปราศรัยในทุกส่วน สามารถรับฟังอะไรต่างๆได้มาก และหลังจากตัดสินใจที่จะเข้ามาสู่การเมือง ได้เปิดตัวมาเมื่อเดือน ต.ค.66 ที่จังหวัดขอนแก่น เดิมเราก็ยังเป็นห่วงว่าท่านเพิ่งเข้ามา นักข่าวเองก็สอบถามกันอย่างละเอียด แต่ท่านก็สามารถตอบได้ดีมาก มีวุฒิภาวะทางการเมือง มีวุฒิภาวะที่จะตอบในประเด็นต่างๆได้ชัดเจน และหลังจากนั้นได้แสดงบทบาทจนเป็นที่ยอมรับของพรรค เมื่อเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคได้ปฎิบัติหน้าที่ดูแลพรรคได้อย่างดีไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติเลือกขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จึงเห็นด้วยความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนก็สนับสนุน ผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติต่อไป“ นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่าวัยวุฒิของน.ส.แพทองธาร จะทำให้เกิดปัญหาการนำทัพ ของรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ส่วนตัวคิดว่านักการเมืองทุกวันนี้แต่ละพรรคการเมืองมีวุฒิภาวะทางการเมือง ทุกอย่างที่น.ส.แพทองธาร มานั้น มาตามกระบวนการทางการเมือง อายุหรือวัยไม่ได้เป็นปัญหา วันนี้ถ้าไปดูผู้นำโลก อย่างที่ตนได้ไปเจอกับนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน อายุเพียง 40 ปีต้นๆ หรือรัฐมนตรีทางการค้าอายุก็ยังไม่มาก 40 กว่าทั้งนั้น วันนี้เทรนของโลกและเทรนประเทศไทยเราไม่ได้ดูว่าผู้นำจะอยู่ที่อายุหรือวัย แต่อยู่ที่ศักยภาพความสามารถ การเข้าถึงประชาชน และการยอมรับของประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่าเมื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นโยบายต่างๆจะยังคงเดิมหรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอการพูดคุยกันของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งน.ส.แพทองธาร จะต้องหารือก่อนที่จะมีการแถลงนโยบายใหม่ เพราะวันนี้เราถือว่าต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อถามย้ำว่า หากไม่สามารถทำต่อได้จะทำให้พรรคเพื่อไทยเสียความน่าเชื่อถือหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ยังไม่ไปถึงตรงนั้นว่าจะทำหรือไม่ทำ ดังนั้นอย่าเพิ่งไปพิจารณาขอให้รอดูนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการจัดทำนโยบายและแถลงนโยบายต่างๆทุกครั้งก็จะเป็นอย่างนี้ ซึ่งต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลและเห็นพ้องร่วมกันก่อนว่าต้องการนโยบายอะไรบ้าง เพื่อที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน

เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่ว่านายทักษิณออกมาท้วงติงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวได้ยินครั้งแรกจากสื่อมวลชนเช่นกัน และยังไม่เคยได้ยินจากปากของนายทักษิณ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้