"สมชาย แสวงการ" ขอบคุณศาลธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ "เศรษฐา" พ้นนายกฯ และครม.สิ้นสภาพ ชี้เป็นบรรทัดฐาน ให้คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต-ไม่มีลักษณะต้องห้าม
14 ส.ค.2567 - เวลา 15.50 น. ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะหนึ่งในผู้ร้องคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี ระบุหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 ให้นายเศรษฐา ทวีสินพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและครม. สิ้นสภาพทั้งคณะว่า ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพวกเรามีความเคารพและเชื่อมั่นในหลักนิติธรรม ตามที่ศาลธรรมนูญชี้ขาดว่า นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะความไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการนำรายชื่อนายพิชิต ชื่นบาน ขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่่ามีปัญหาตั้งแต่ต้น
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่รู้ในฐานะผู้บริหารประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรีต้องรู้และรับผิดชอบ ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่ง พวกเราในฐานะผู้ร้อง คืออดีตสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 40 คน ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ และในฐานะอดีตสมาชิกวุฒิสภาได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนทุกประการ และยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งจากใครทั้งสิ้นแต่เป็นการทำหน้าที่ของอดีตวุฒิสภาตามขั้นตอน และข้อกฎหมาย
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ตนเชื่อมั่นว่า ไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง และจะสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีก็เพียงแค่พ้นไป ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรีตามบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว ซึ่งคนที่เหลืออยู่ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทั้งนั้น ทั้งนี้มองว่าอย่าเพิ่งไปพูดถึงคนนอก เพราะแคนดิเดทยังเหลืออีกหลายคน ส่วนการที่จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็อยู่ฝ่ายการเมืองจะเลือกกัน
เมื่อถามว่าอาจจะมีประชาชนกังวลเรื่อง การขับเคลื่อนนโยบาย Digital wallet นั้น นายสมชาย กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่มีความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาลใหม่ต่อไป พร้อมมั่นใจว่าการเมืองไทยจะไม่เกิดความวุ่นวายหลังจากนี้ และถือว่าเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐาน ให้กับฝ่ายการเมือง ตามที่ศาลธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยชัดเจนถึงเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ในเรื่องการยกระดับมาตรฐานจริยธรรมของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี
“การเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม หรือประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ การเมืองต้องไม่มาถึงจุดต่างตอบแทน และการจะให้ใครเป็นรัฐมนตรี ก็ตามต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และเดินตามมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกองค์กร และมั่นใจว่า ได้ทำหน้าที่ของอดีตวุฒิสภา”นายสมชาย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง
ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง