ทางเลือกใหม่ ยื่น กกต. สอบ พรรคประชาชน หลังพบพิรุธหลายอย่าง!

13 ส.ค.2567 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ นายราเชนทร์ ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ เข้ายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอให้มีการตรวจสอบพรรคประชาชน กรณีการเปลี่ยนผ่านจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมาเป็นพรรคประชาชน

นายราเชนทร์ กล่าวว่าที่ตนเห็นว่าไม่ชอบมาพากล คือการใช้ชื่อพรรคว่าพรรคประชาชน นั้นได้ยื่นเรื่องต่อกกต. เพื่อขอใช้ชื่อนี้หรือไม่ และทางกกต.อนุญาตแล้วใช่หรือไม่ ตามที่กฎหมายกำหนด ในการนำเข้าที่ประชุมใหญ่เปลี่ยนชื่อพรรค ตั้งหัวหน้าพรรค เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค เปลี่ยนโลโก้พรรค เปลี่ยนคณะกรรมการนโยบาย และเปลี่ยนบัญชีธนาคารในนามของพรรคการเมืองใหม่ นี่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำตามอย่างชัดเจน

ส่วนตนเห็นว่า ศาลรัฐธรรนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2567 จากนั้นวันที่ 9 ส.ค. ก็มีการประกาศพรรคใหม่เลย ซึ่งตนมองว่ามันรวดเร็ว มีการเตรียมการ มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ในส่วนความสมบูรณ์ของพรรคถิ่นกาขาวก่อนหน้านี้เป็นหน้าที่ของกตต.ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ

หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ กล่าวว่าตนมองว่าพรรคประชาชนไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประเด็น ในการรับบริจาควันนี้ เงินที่รับไปนั้นเข้าบัญชีใคร เข้าบัญชีของพรรคถิ่นกาขาวหรือไม่ แต่กลับมีการประชาสัมพันธ์ว่า เป็นการบริจาคให้พรรคประชาชน ถือว่าเป็นการหลอกลวง ผิดเงื่อนไขหรือไม่ กกต.ต้องเร่งตรวจสอบ ซึ่งตนเคยพูดก่อนหน้านี้ว่า หากดำเนินการในลักษณะนี้เข้าประเด็นว่าเป็นพรรคการเมืองเถื่อนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ตนตั้งพรรคการเมืองพรรคแรกภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตนใช้คำว่า” พรรคทางเลือกใหม่” แต่กกต.เชิญตนเข้าไปให้ข้อมูล ว่าใครอนุญาตให้เป็นพรรคการเมือง เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน กกต.จึงแจ้งให้ตนใช้ได้เพียงคำว่า “กลุ่มการเมืองใหม่” จนกว่าจะมีประชุมใหญ่ของพรรค แล้วก่อนประชุมใหญ่ต้องมายื่นเรื่องขอใช้ชื่อพรรคการเมืองใหม่ก่อน แล้วแจ้งต่อกกต.ว่าจะประชุมใหญ่และรายละเอียดของการประชุม เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

"แต่พรรคประชาชนที่วันนี้มีการรับบริจาคไปแล้ว มีการรับเข้าบัญชีของพรรคถิ่นกาขาวฯ หรือพรรคประชาชน เรื่องนี้ กกต.ต้องตรวจสอบโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และหลงผิด เพื่อให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย"

เมื่อถามว่า เห็นว่าไม่ควรใช้ชื่อว่าพรรคประชาชนหรือไม่ นายราเชนทร์ กล่าวว่า ในประเด็นนี้ไม่สมควร เพราะเมื่อใช้แล้วเกิดประเด็นขึ้นมา สร้างความแตกแยก เชื่อว่า เมื่อก่อนนี้ก็มีความพยายามใช้คำว่า “ประชาชน” แต่ไปใช้คำว่า พรรคพลังประชาชน วันนี้ก็มีการแปลงเปลี่ยนเป็นรวมพลังประชาชน กำลังยื่นขออนุญาตจากกกต. แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคส้มกลับลำ ดัน 'เท่าพิภพ' เสียบแทน อดีตผู้สมัครสส.สีเทา ชิงเก้าอี้เขตบางพลัด-บางกอกน้อย

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีตสส.พรรคประชาชน โพสต์ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด พร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพ

'กกต.' สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 9 วัน เกือบ 7 แสนราย

กกต. สรุปตัวเลขผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือเลือกต้องล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร

เปิดเบื้องหลัง 'ปชน.' เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กทม.เขต 33 โดนหมายจับพัวพันเครือข่ายค้ายา

เปิดเบื้อหลังเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย เนื่องจากพรรคประชาชนตรวจสอบพบว่าผู้สมัครถูกออกหมายจับในคดีอาญา

'สมชัย' บอกชัด เบอร์พรรค-เบอร์คน คนละเบอร์อย่าด่า 'กกต.' ฝ่ายเดียว ต้องด่าใครบ้าง

ความวุ่นวายสับสนในเรื่องเบอร์พรรคกับเบอร์ผู้สมัครเขตของพรรคเป็นคนละเบอร์ ทำให้เป็นความยากลำบากแก่ประชาชนในการจดจำ ลำบากต่อ พรรคในการหาเสียง

'เทพไท' วิเคราะห์เทคนิคการจัดลำดับ 'ปาร์ตี้ลิสต์' 5 พรรคใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้ง

การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคมีสไตล์การจัดลำดับแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นคล้ายคลึงกันคือ ในบัญชีลำดับท้ายของปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนที่มีบทบาทและคนที่มีชื่อเสียงหลายคน