
13 ส.ค.2567-ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคไทยภักดี นำโดยนายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการมีสาขาพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จากระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองย้อนหลัง โดยนายทศพล กล่าวว่า วันนี้เราขอให้กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 2 ประเด็น ที่เกี่ยวเนื่องกับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล และพรรคประชาชน ประเด็นที่ 1 จากการตรวจสอบข้อมูลของกกต. ณ ปัจจุบันพบว่าพรรคถิ่นกาขาวทำวิไล มีสาขาพรรคเพียง 3 สาขา คือ ภาคกลาง 2 สาขา และภาคเหนือ 1 สาขา ซึ่งอาจสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 91 (3) ที่บัญญัติว่าพรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองเมื่อภายหลังจากที่ดำเนินการครบตามมาตรา 33 (2) มีจำนวนสาขาพรรคการเมืองเหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขาเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี
วันนี้ตนจึงมาขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองของกกต.ตรวจสอบฐานข้อมูลย้อนหลังว่าพรรคถิ่นกาขาวชาวิไลหรือพรรคประชาชน มีจำนวนสาขาในแต่ละปีเท่าไหร่ในแต่ละภาค ซึ่งถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2560 นับตั้งแต่พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ หากมีสาขาไม่ครบ 4 ภาคเป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นหน้าที่ของกกต.ที่จะดำเนินการมีคำสั่งให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพ ซึ่งการที่มีข้อมูลระบุว่าปัจจุบันได้มีการอัพเดทแล้วมีสาขาพรรคครบ 4 ภาคนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่อยากให้กกต.ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปเป็นรายปีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ประจักษ์ชัด
นายทศพล กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 ได้รับข้อมูลว่าวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลได้จัดประชุมใหญ่ โดยมีมติเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน ตราสัญลักษณ์พรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อีกทั้งเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินให้กับพรรค โดยเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการรับบริจาคของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามข้อ 42 ของระเบียบกกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2563 ที่ให้อำนาจหัวหน้าพรรคและเหรัญญิก เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์ โดยมีหลักฐานสำคัญประกอบการเปิดบัญชีคือ หนังสือรับรองรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคจากกกต. โดยวงเล็บว่าเพื่อการบริจาค ซึ่งการรับรองจากกกต.มีระยะเวลาในการดำเนินการ ไม่ใช่ว่าประชุมวันนี้แล้วมีหนังสือรับรองไปเลย
ยกตัวอย่างพรรคไทยภักดีที่มีการจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 28 เม.ย. จนถึงวันนี้ เราก็ยังไม่ได้รับหนังสือรับรองจากกกต.รับรองคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาผ่านมาแล้ว 3 เดือน ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พรรคประชาชนจะได้รับหนังสือรับรองกรรมการบริหารพรรคจากกกต. เราจึงเรียนถามนายทะเบียนพรรคการเมืองว่ากกต. ได้ให้การรับรองชื่อพรรค ตราสัญลักษณ์พรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่กับพรรคประชาชนแล้วหรือไม่ เพื่อมีหนังสือประกอบหลักฐานกับธนาคารพาณิชย์แต่ทั้งนี้เป็นไปไม่ได้
จึงเรียนถามว่าได้ให้การรับรองไปแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ให้การรับรองก็ให้กกต. ตรวจสอบการรับบริจาคเงินดังกล่าวจากประชาชนว่าเป็นไปตามข้อ 42 หรือไม่ และที่สำคัญอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้เข้าใจผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาจะเป็นหน้าที่ของกกต.ในการตรวจสอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แสวง' ยันเลือกตั้ง 8 ก.พ. วันเดียวทั่วประเทศ อาจเลื่อนเฉพาะหน่วยที่ยังเป็นพื้นที่สีแดง
"แสวง" ยืนยันเลือกตั้ง 8 ก.พ. วันเดียวทั่วประเทศ แม้ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด วางแผนแบ่งโซนสีจัดเลือกตั้ง หน่วยไหนกระทบเลื่อนลงคะแนนหน่วยนั้น พร้อมประสานฝ่ายมั่นคงประเมินสถานการณ์รายวัน เลงใช้เลือกตั้งอบต.ในพื้นที่สู้รบเป็นโมเดล
'จาตุรนต์' ห่วงปชช.ไม่รู้ออกเสียงประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง หวั่นไม่ผ่านเสี่ยงแก้ใหม่ได้ยาก
'จาตุรนต์' ห่วง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ออกเสียงประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง อัด กกต. เฉื่อย-เนือยไม่ให้ข้อมูล หวั่น ไม่ผ่านเสี่ยงแก้ใหม่ได้ยาก ยันพรรคการเมืองเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้ได้ ไม่ห้ามชี้นำ เชื่อหากเป็นเกมการเมืองอาจมีคนไปกระซิบไม่ให้คนสนใจ เตรียมทำชุดข้อมูลให้ผู้สมัคร สส.เพื่อไทย ให้ความรู้ประชาชน
กกต.กทม.คุมเข้ม รับสมัครสส.เขต ที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น
กกต.กทม.พร้อม 90% เปิดศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น รับสมัคร สส.กทม. 33 เขต 27-31 ธ.ค.
ตั้งทีมสอบประชานิยม/44ส้มระทึก
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัด "อินฟลูฯ-ยูทูบเบอร์" สมัคร สส.
กกต. ขึงขัง! สกัดขายฝัน 'ประชานิยม' ตั้ง คกก.คุมเข้มนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69
กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัดอินฟลู-ยูทูปเบอร์ สมัคร สส.ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่เป็นเจ้าของ-ถือหุ้นสื่อ เป็นผู้ใช้สื่อ
ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป

