'พิธา' หลั่งน้ำตาแห่งความดีใจบอกปี 2570 จะกวาด 270 ที่นั่ง

'พิธา' หลั่งน้ำตาความดีใจ ลาประชาชนในฐานะนักการเมือง ย้ำอย่าชินชากับระบบที่คนทำรัฐประหารได้เป็นรัฐมนตรี ตั้งเป้าปี 2570 กวาด 270 ที่นั่ง

08 ส.ค.2567 - เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. 2567 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยปิดท้าย ที่บริเวณลานกิจกรรมพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า พวกเขาทำอะไรพวกเราไม่ได้ เราจะไม่ชินชากับการเมืองแบบนี้ เป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตที่ตนได้มีโอกาสรับใช้ประเทศชาติ รับใช้พี่น้องประชาชน ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมพรรคมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล เป็นความรู้สึกที่จะไม่มีวันลืม

"วันนี้ยืนต่อหน้าพี่น้องประชาชน ขออำลาพวกท่านในฐานะนักการเมือง ผู้แทนราษฎร และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และพร้อมกลับมาในฐานะประชาชนที่สู้ไปพร้อมกับทุกคน แม้ว่าเขาจะตัดผม แต่เขาตัดผมออกจากประเทศไทยและประชาชนไม่ได้“

ทำให้แฟนคลับที่มารอให้กำลังใจต่างตะโกนว่า ”นายกฯ พิธา“ เสียงดังลั่น ก่อนที่นายพิธา จะปาดน้ำตา และบอกว่า ”เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ“ จากนั้นนายพิธา จึงทำสัญลักษณ์มือเป็นรูปหัวใจ

นายพิธา กล่าวต่อว่า อยากบอกกับพี่น้องประชาชนให้มีความมั่นใจ เพื่อน ๆ ที่สู้กันมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจะสามารถทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีได้อย่างแน่นอน พี่น้องประชาชนจำได้หรือไม่ วันที่ทุกคนคิดว่าเราแพ้ เราชนะในเกมที่ถูกดีไซน์ให้พวกเราแพ้ เราชนะได้เพราะพวกท่านเชื่อในตนเองว่า ทุกคนมีอำนาจเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ จงจำความรู้สึกวันนั้นไว้

“แม้ไม่มีผมในทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา หรือการเมืองไทย แต่ผมยังอยู่ในใจของพี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนยังเชื่อมั่นในพลังของตนเอง ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่นอน“ นายพิธา กล่าว

นายพิธาขอว่า อยากให้พี่น้องประชาชนฟังคำของตนเองเอาไว้ เขาอยากได้อะไร เราจะไม่ให้พวกเขาเด็ดขาด ยุบพรรค ยุบโลโก้ ยุบสีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขายุบตามหลังของเราสำเร็จเมื่อไร เท่ากับยกประเทศไทยใส่พานเงินให้เขาทันที

นายพิธา กล่าวต่อว่า เศร้า เสียใจได้แค่วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้เราจะก้าวต่อไปเพื่อรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เรื่องที่สำคัญที่สุดเราจะชินชากับเรื่องแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด พร้อมย้ำว่า นี่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ เพราะได้ทำเต็มที่แล้ว

นายพิธา กล่าวอีกว่า ห้ามประชาชนชาชินโดยเด็ดขาด ระบอบที่คนทำรัฐประหารได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรี แต่คนที่ประชาชนเลือกมาถูกแบนจากการเมือง เราจะชนะจนกว่าเขาจะยอม ปี 2570 อย่างน้อยที่สุดต้องได้ 270 เสียง ถึงวันนั้นพิธา จะเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์การเมืองไทย พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคสุดท้ายที่โดนเลือกมาโดยประชาชน และถูกทำให้หายไปโดยไม่กี่คน เมื่อเรามีพลังมาก ๆ ขนาดนั้นก็ยกกฎหมายไปเลยว่า ต่อไปนี้จะไม่มีการยุบพรรคต่อไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และที่สำคัญที่สุดจะไม่มีการทำรัฐประหารอีกต่อไป ให้อำนาจสูงสุดมาเป็นของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนนายพิธาจะขึ้นเวที ได้สวมกอดนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรอง แนะ กต. เร่งทำความเข้าใจ 'ทูตต่างชาติ' อย่าก้าวก่ายกิจการภายในประเทศ

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ต่างชาติอย่าก้าวก่าย" ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

'ไอติม' เพ้อหนัก! นโยบายที่ถูกปิดปากไม่ให้พูดถึง จะยิ่งได้รับการสนับสนุนมากกว่าเดิม

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่เวลาที่เราต้องเสียใจ หากมีใครที่ต้องเสียใจ คนนั้นคือคนที่รู้อยู่แก่ใจว่าการยุบพรรคการเมืองในลักษณะแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย

'ชัยธวัช' ลั่นไม่เคยทำอะไรผิดซัดถูกรวมหัวยุบพรรคแต่ยุบความฝันไม่ได้

'ชัยธวัช' ปลุกมวลชนร่วมเดินหน้าสู้อำนาจเก่า ชี้ยุบ 'ก้าวไกล' ได้ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงอนาคตได้อีก ยันยังพร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่ทุกคนไปสู่อนาคตด้วยกัน

'ปิยบุตร' ปลุกสาวกส้มบอกยุบพรรคเรื่องสิวๆ ปี 2570 กลับมาเป็นรัฐบาลแน่นอน

'ปิยบุตร' ชี้ยิ่งยุบ 'ก้าวไกล' พรรคยิ่งโตหนึ่งเท่าตัว ย้ำเจตนารมย์ต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ชวน สส.พรรคร่วมรัฐบาล โหวตแก้ พ.ร.ป. พรรคการเมือง