6 ส.ค.2567- ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ. … จำนวน 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งวุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้ความเห็นหรือไม่ให้ความเห็นชอบภายใน 20 วันนับแต่วันที่ร่างพ.ร.บ.มาถึงวุฒิสภา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 20 ส.ค. ทั้งนี้ มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ให้ยกเว้นข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญมาพิจารณา แต่ให้ใช้วิธีตั้งคณะกมธ.เต็มสภา เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว 3 วาระรวด
นายเศรษฐา กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศผ่านโครงการเติมเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต อันเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้ จึงต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท
นายเศรษฐา ย้ำว่าประมาณการเงินที่พึงได้มาสำหรับจ่ายตามร่างพ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติมงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีดังนี้ คือ 1.ภาษีและรายได้อื่น โดยเป็นแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการ จำนวน 1 หมื่นล้านบาท, 2.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 1.12 แสนล้านบาท โดยภาวะเศรษฐกิจในปี 2567 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.0-3.0 มีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวเนื่อง การขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการอุปโภค บริโภค การลงทุน และการกลับมาขยายตัวอย่างช้าๆ ของการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัวของการค้าโลก
“ฐานะการคลัง มีหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 มีจำนวน 11.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.78 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่กำหนดไว้ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 มีจำนวน 3.9 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารรายรับและรายจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด” นายกฯ ระบุ
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เมื่อรวมกับกรอบวงเงินเดิมตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท จะทำให้ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 มีงบประมาณรายจ่ายรวม 3.60 ล้านล้านบาท จะมีการขาดดุลเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนไว้ในงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 9.76 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับรายจ่ายลงทุนตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะทำให้มีรายจ่ายลงทุน จำนวน 8.07 แสนล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานทันทีที่นายกฯแถลงหลักการและเหตุผลของร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ได้เดินทางออกจากรัฐสภาไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อทันที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สว. ถกปัญหาแอปกู้เงินผิดกฎหมายบนมือถือ ไม่ใช่แค่ 2 ยี่ห้อดัง ยังมีเกลื่อนบนแอปสโตร์
นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งอยู่ใน กมธ.การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
รัฐสภา ถกแก้ข้อบังคับ 'สว.-รทสช.' รุมค้านเปิดทาง 'คนนอก' ร่วมวงกมธ.แก้รธน.
ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่…) พ.ศ…. เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บั
แรง! 'เจ้าแม่ส้ม' จิก 'แพทองโพย' ให้มูฟออน ไม่ต่างจากชนแล้วหนี แก๊งค์ตบทรัพย์ ให้เลิกแล้วต่อกัน
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล แกนนำพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า ที่ลูกทักษิณบอกให้มูฟออน ไม่ต่างจากชนแล้ว
ข้องใจ! 'นายกฯอิ๊งค์-บิ๊กเพื่อไทย' ทำไมขยันลงพื้นที่ภูเก็ต
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "อุ๊งอิ๊ง หนีกระทู้สภา ไปกระทู้ภูเก็ต" โดยระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
'สว.อังคณา' ตบปาก 'พ่อนายกฯ' พล่อยเหยียดผิว บี้ขอโทษก่อนบานปลาย
'อังคณา' จี้ 'ทักษิณ' ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดผิว ช่วยหาเสียงเป็นสิทธิ แต่ไม่ควรพูดด้อยค่า-ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
'ธนกร' ค้าน 'ปชน.' แก้รธน.สุดซอย เตือนระวังโดนฟ้อง 157 ผิดกราวรูด
'ธนกร' ปักธงค้าน 'ปชน.' ชงแก้มาตรา 256 ชี้ตัดอำนาจ สว. ชัดขัดเจตนารมณ์ รธน. ทำเสียสมดุล 2 สภา หนักข้อสุดซอยเอื้อมแตะหมวด 1-2 พ่วงอำนาจองค์กรอิสระ เตือนระวังถูกฟ้อง 157 เจอผิดกราวรูด