กมธ.เติมงบแจกหมื่นฝั่งเสียงข้างน้อย แฉเอกสาร จาก 'คลัง' ชี้ประเมินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังประเมินใหม่ ทำเศรษฐกิจโต 0.9% ไม่ตรงกับรัฐบาลแถลงจะโต 1.8%
31 ก.ค.2567 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22แสนล้านบาท ในวาระสอง ในเวลา 11.00 น. นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่าในส่วนของการประเมินผลกระทบในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จับโป๊ะได้ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เมื่อ 30 ก.ค. ได้ตั้งคำถามต่อผู้แทนกระทรวงการคลัง ถึงสาเหตุของการประเมินผลกระทบของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กลับไปอยู่ที่ 1.2% - 1.8% ซึ่งผู้แทนกระทรวงการคลังชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ตัวเลขดังกล่าวขึ้นกับ 4 เงื่อนไข คือ แหล่งที่มาของเงิน เงื่อนไขของโครงการ จำนวนผู้เข้าร่วม และพฤติกรรมการใช้จ่าย
นายสิทธิพล กล่าวด้วยว่าประเด็นที่ต้องขีดเส้นใต้ คือ แหล่งที่มาของเงินที่คำนวณมาจากเงินอัดฉีดใหม่เข้าระบบเศรษฐกิจ ไม่ได้มาจากการนำเงินที่ใช้จ่ายภายใต้ภารกิจอื่น หมายความว่าตัวเลขที่ 1.2%-1/8% เป็นสมมติฐานว่าเป็นเงินใหม่ทั้งหมด ดังนั้นตัวเลขดังกล่าวจึงมีปัญหา 2เรื่อง คือ แหล่งที่มาของเงิน ที่ชัดเจนแล้วคือไม่ใช่เงินใหม่ทั้งหมด เพราะใช้จากงบเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท และในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท รวมเป็นเงิน 2.7แสนล้านบาท คิด 60% ของ 4.5 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1.7แสนล้านบาท เป็นเงินเก่าโยกงบจากโครงการเดิม
นายสิทธิพล กล่าวด้วยว่า ปัญหาสองตามเอกสาร คือ การขัดกับระหว่างสิ่งที่กระทรวงการคลังชี้แจงในกรรมาธิการ และรัฐมนตรีแถลงเมื่อวันที่ 26 ก.ค. พบว่า เป็นตัวเลข 1.2%-1.8% เป็นตัวเลขที่ประเมิน 10 เม.ย. ไม่ตรงกับปลัดกระทรวงการคลังและผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังให้ข้อมูลกับ กมธ. ที่ระบุว่า เดิมผลการประเมินโครงการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว 1.8% แต่จากการประเมินใหม่ผลคือส่งผลคือโครงการส่งผลต่อเศรษฐกิจ 0.9%
“ตามเอกสารทั้ง 2 ฉบับระบุวันที่ 10 เม.ย. แต่ตัวเลขไม่ตรงกัน เพราะฉบับหนึ่งระบุว่า 1.2%-1.8% อีกฉบับ 0.9% ตกลงมีการทบทวนหรือไม่ ทำไมแถลงข่าวล่าสุดจึงไม่บอกตัวเลขกับประชาชน แสดงว่าต้องมีตัวเลขที่ไม่ตรง ทั้งนี้จีดีพีที่บอกว่าจะโต 1.2%-1.8% คำนวณจากวงเงิน 5 แสนล้านบาทและกู้เงินทั้งหมด รวมถึงเงินจาก ธกส. แต่ปัจจุบันวงเงินลดเหลือ 4.7แสนล้านบาท และเม็ดเงินใหม่ไม่เยอะเท่าเดิม ดังนั้นไม่มีทางกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่โฆษณาได้ ทั้งนี้ ได้ถามสภาพัฒนาเศรษฐกิจ ประเมินผลกระทบใหม่หรือไม่ ซึ่งผู้แทนระบุว่า เดิม 0.3% แต่สมมติฐานเม็ดเงินใหม่ต้องกลับไปประเมินใหม่ แต่ผลกระทบจะน้อยลง ซึ่งผมขอให้รัฐบาลชี้แจงตัวเลขดังกล่าว และการกระตุ้นเศรษฐกิจในจำนวนเท่าไร คุ้มกับงบประมาณที่ประเทศต้องใช้หรือไม่ ปัญหาตอนนี้คือกลับไปกลับมา แต่ที่แน่ๆ คือ น้อยลง และเสี่ยงไม่คุ้มกับงบประมาณ” นายสิทธิพลอภิปราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สิทธิพล' ซัด 'แพทองธาร' เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยต่างชาติแย่งงานคนไทย
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายนายกฯกำลังปล่อยให้ผู้ประกอบการต่างชาติทำลายเศรษฐกิจไทยไม่ว่าจะเป็น การทำลายงานคนไทยทั้งที่หลายอาชีพสงวนไว้เพื่อคนไทยเท่านั้น ทำลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
'ธนกร' แนะฝ่ายค้านซักฟอกอย่าเน้นวาทกรรม
'ธนกร' แนะฝ่ายค้านใช้เวลาคุ้มค่า อย่าเน้นวาทกรรม มองเหมาะสม28+7 ชม.ซักฟอก 2 วัน ชี้ โอกาสดีรัฐบาลได้แจง ปชช. พร้อมลุยงานเต็มที่ต่อเนื่องจนครบเทอม
'สุรเชษฐ์' จี้หาสมุดพกสุริยะ 'เจ๊มน' โต้ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ
'สุรเชษฐ์' ตั้งกระทู้ถาม 'ถนนพระรามสองสยอง' จี้ 'สุริยะ' แสดงสปิริต อย่าทำตามลูกน้องที่ประกาศ ชี้คนอยากเห็นสมุดพก รมต.มากกว่า 'มนพร' บอกไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ ย้ำ 'รัฐบาล-คมนาคม' ใส่ใจแก้ปัญหา
ถกปมตัดชื่อคนนอกศึกอภิปรายอีกรอบช่วงบ่ายพิลึก! วิโรจน์ชงให้พา 'ทักษิณ' เข้าสภา
'ณัฐพงษ์' จี้ 'วันนอร์' ขอความชัดเจนหากตัดชื่อ'ทักษิณ'ออกจากญัตติ วันอภิปรายพาดพิงคนภายนอกได้ 'ประธานสภา'ลั่นไม่ได้ ขณะที่ 'วิโรจน์' แนะทำหนังสือถึง 'นายกอิ๊งค์' ให้พ่อเข้าชี้แจงด้วยได้
'เพื่อไทย' อ้างหน้าตาเฉย นโยบายเรือธงแจกเงินหมื่น เฟส 3 ต้องทดสอบระบบก่อน
“ชนินทร์” แจงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 แจกคนอายุ 16-20 ปีเป็นการทดลองระบบ
'ณรงเดช' บี้ถามปัญหาข้าว 'พิชัย' โบ้ยอยู่คนละพรรคกับ 'นฤมล'
'สส.ประชาชน' ลุกถาม 'พิชัย' ถ้าปรับเก้าอี้ จะยังอยู่หรือไม่ หลังจัดการปัญหาข้าวไม่ได้ สงสัย 'นายกฯเจนวาย' ไม่สนใจชาวนา 'พิชัย' ลุกย้อน บอกเช็กข้อมูลให้ดี อยู่คนละพรรคกับ 'นฤมล'