'สว.เปรมศักดิ์' เตรียมยื่นแก้ไขข้อบังคับฯ ชงเพิ่มจำนวนกรรมาธิการ

30 ก.ค. 2567 - ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มการสาธารณสุข กล่าวถึงการเสนอญัตติแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ขอเพิ่มจำนวนคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา จากเดิม 26 คณะ เป็น 28 คณะ ว่า สว.ทั้ง 200 คน มีความตั้งใจ แต่เพิ่งมาใหม่ จึงไม่รู้จะดำเนินการทางการเมืองอย่างไร แต่เวลาไม่รอท่า หากไม่มีคณะกรรมาธิการมาทำงาน จะเสียกลไกของสภาสูง จึงเสนอยกร่างข้อบังคับให้เพิ่มจำนวนคณะกรรมาธิการสามัญ เป็นทั้งหมด 28 คณะ เนื่องจากเห็นว่าหลายคณะกรรมาธิการมีการนำภาระงานหลายอย่างมารวมอยู่ด้วยกัน จึงยกร่างแก้ไขให้มีคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ 1คณะ และมีคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง และสถาบันการเงิน 1 คณะ

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รวมถึงคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ก็เสนอให้แยกเป็นคณะกรรมาธิการการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 1 คณะ และแยกคณะกรรมาธิการการตำรวจ อีก 1 คณะ เพราะลำพังเรื่องตำรวจก็มีปัญหามากมายที่ประชาชนได้รับผลกระทบ

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเพิ่มคณะกรรมาธิการสามัญขึ้นมาเป็น 28 คณะ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะหากไปหวังพึ่ง 38 คณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎร ตนเองเห็นว่า หากรัฐมนตรีของพรรคตนเองอยู่กระทรวงใด พรรคการเมืองนั้นก็จะส่งคนไปรับตำแหน่งในกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง แล้วจะตรวจสอบได้อย่างไร

“กระบวนการตรวจสอบของ สว. น่าจะตรงไปตรงมามากกว่า และยังเสนอยกร่างให้มีกรรมาธิการได้คณะละ 8-18 คน หากมีภาระงานมาก ก็สามารถเชิญบุคคลภายนอกมาเป็นอนุกรรมาธิการได้ด้วย ในร่างข้อบังคับนี้เปิดให้มีอนุกรรมาธิการได้ไม่เกิน 5 อนุกรรมาธิการต่อ 1 คณะกรรมาธิการ และให้มีอนุกรรมาธิการได้ 12 คน” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

ส่วนที่หลายคนมองว่าการเพิ่มจำนวนคณะกรรมาธิการจะเป็นการเพิ่มงบประมาณด้วยนั้น นพ.เปรมศักดิ์ ชี้แจงว่า งบประมาณของสว. เล็กน้อย ทั้งสองสภาใช้งบเพียงเล็กน้อยในการทำงาน เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่ามีความไม่ชอบมาพากลกว่าหรือไม่

นพ.เปรมศักดิ์ ยังเน้นย้ำว่า สว. แต่ละคนมีที่มาอย่างไรไม่สำคัญ ที่ไปสำคัญกว่า อีก 5 ปีจะขับเคลื่อนอย่างไร ให้เรียกความเชื่อมั่นของประชาชน ขอให้กรรมาธิการปลดล็อกการทำงาน ไม่ควรล็อกไปทั้งหมด ตั้งแต่ล็อกผลการเลือก สว. ระดับประเทศที่เมืองทองธานี ยังมาล็อกเก้าประธานกรรมาธิการอีก ขอให้สมาชิกคำนึงถึงคำปฏิญาณ ที่จะทำงานให้ประชาชน ให้วางคนในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ผิดฝาผิดตัว

นพ.เปรมศักดิ์ ชี้แจงต่อว่า การตรวจสอบของฝ่ายค้านเวลานี้เริ่มอ่อนแรงแล้ว ยิ่งมีประเด็นเรื่องยุบพรรคเข้ามาอีก ขณะที่ สว. ยังมีความกระฉับกระเฉง และการตรวจสอบรัฐบาลก็เป็นหน้าที่ของ สว. ตามรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่า ตนเองเป็น สว.สีขาว ไม่เหมือน สว. คนอื่นที่อาจจะมองว่าเพิ่มจำนวนกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อแบ่งเก้าอี้กัน

ส่วน สว. ชุดที่แล้วซึ่งมีสมาชิกถึง 250 คน แต่ก็มีคณะกรรมาธิการน้อยกว่า นพ.เปรมศักด์ มองว่าคณะกรรมาธิการของ สว. ชุดที่แล้วมีจำนวนพอดี หรืออาจจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ แต่ สว. ชุดปัจจุบันมีที่มาหลากหลาย ควรมีโอกาสได้ทำงานในคณะกรรมาธิการที่ตนเองมีความถนัดหรือสนใจ ซึ่งตนเองถือเป็นหัวใจของการทำงานในวุฒิสภา

ขณะที่กรณีของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. กลุ่มอิสระ ที่มีประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษา จะมีการตั้งกลไกมาตรวจสอบ สว. กันเองหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น แต่เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว ขอให้ถึงเวลาก็อาจมีคนเสนอให้ตรวจสอบ เพราะหากปล่อยประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเอาไว้ สภาก็ไม่อาจเป็นที่เชื่อถือได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476

'สิริพรรณ นกสวน' อาจารย์จุฬาฯ ลงสมัครชิงเก้าอี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะหน่วยธุรการ เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน เพื่อมาแทน นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรธน.

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง