'พีระพันธุ์' ยันเป็นรัฐมนตรีพลังงานแต่ปัญหาหมักหมมมาก่อนนั่งเก้าอี้!

'พีระพันธุ์' ย้อน 'ศุภโชติ' ยัน เป็น 'รมว.พลังงาน' มีหน้าที่กำหนดภาษี แต่คลังเป็นคนเก็บ เหตุกฎหมายกองทุนฯ ตัดอำนาจออก ต้นตอรัฐบาลติดหนี้กว่าห้าหมื่นล้าน ชี้เป็นปัญหาหมักหมมตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง

25 ก.ค.2567 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องราคาพลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้าของนายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า ก่อนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ก็ไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป ไม่รู้เรื่องว่าอะไรคืออะไร ถึงเวลาก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไปเติมที่ปั๊มขึ้นราคาเท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น ปัญหาจะแก้ด้านขวาก็มาเจอด้านซ้าย พอมาเป็นรัฐมนตรีเห็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นประเด็น รวมถึงภาระกองทุนน้ำมันที่กำหนดเอาไว้กว่า 40 ปี ไม่มีใครคิดจะปรับปรุงแก้ไข ใช้แต่กองทุนน้ำมัน ได้รู้ว่าค่าน้ำมัน 38-40 บาทต่อลิตร เพราะไทยมีเนื้อน้ำมันผสม 2 สูตร คือแก๊สโซฮอล์กับไบโอดีเซล ราคาอยู่ที่ 21 บาท

นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า ส่วนภาษีน้ำมัน ถ้าจะช่วยประชาชนก็ต้องเก็บพอสมควร แต่ถ้าต้องการหารายได้เข้ารัฐก็ต้องเก็บเยอะ ทำอย่างไรจึงจะอยู่ในความพอดี ในอาเซียนมีแค่ 3 ประเทศที่เก็บภาษี คือ ไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม ไทยเก็บสรรพสามิต 5.99 บาท อีกทั้งต้องเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น 60 สตางค์ ราคาอยู่ที่ 6.50 บาท รวมทั้ง vat และเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน ประชาชนต้องแบกภาระสองต่อ ทำให้ทำให้ราคาน้ำมันแพงถึงเกือบ 40 บาท

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน คือการกำหนดภาษี แต่ไม่ได้เก็บ คนเก็บคือกระทรวงการคลัง กฎหมายกองทุนน้ำมันที่ออกมาใหม่ ตัดอำนาจออกเหลือแต่ใช้เงิน นี่คือสาเหตุทำให้หนี้กองทุนน้ำมัน รัฐบาลเป็นหนี้กว่า 50,000 ล้านบาท เพราะไม่สามารถกำหนดเพดานภาษีได้ ปัญหาที่ผ่านมามัวแต่ใช้เงินยัน ไม่คิดวิธีอื่น คิดเหมือนท่านว่าไม่คิดกันบ้างหรือไง และวันนี้กำลังคิดและกำลังทำ เราทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีกฎหมาย ท่านต้องดูกฎหมายกองทุนน้ำมันมีอำนาจตรงไหนให้กระทรวงพลังงานหรือรัฐมนตรีพลังงานทำได้ ไม่มีเลย พูดเปรียบเทียบมาตลอดจะขึ้นราคาต้องขออนุญาต

จากนั้น นายศุภโชติ ลุกขึ้นตอบกลับว่า เพิ่งทราบว่าท่านจะแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่มั่นใจว่าการเข้าไปแทรกแซงราคาเป็นผลดีหรือผลเสียกับประชาชนมากกว่ากัน ต้องขอดูรายละเอียดก่อน และมาถกกันทีหลัง สำหรับประเด็นที่สองเรื่องค่าไฟแพงขึ้นถึง 4.60 บาท หรือ 6 บาทต่อหน่วย ค่าไฟจริงๆอยู่ที่ 4.10 เพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้จากมาตรการในอดีต หนี้ก้อนนี้ 100,000 กว่าล้านบาท หากยังใช้กลไกเดิมๆ หนี้อาจจะขยายไปถึง 150,000 ล้านบาท จึงอยากจะถามว่า จะเอาอย่างไรกับหนี้เก่า แล้วหนี้ใหม่ในอนาคตที่กำลังจะเพิ่มขึ้น

“ขอเสนอให้รัฐมนตรี กล้าคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะขอแบ่งงบกลางมา 30,000-40,000 ล้านบาท แทนที่จะเอาเงินตรงนี้ไปทำดิจิทัลวอลเล็ต เอามาลดค่าไฟลดค่าครองชีพให้กับประชาชน อย่าให้เอางบกลางไปทำนโยบายของพรรคเขาเพียงคนเดียว แบ่งมาบ้าง ตนจำว่าตอนพรรคท่านหาเสียง เคยหาเสียงว่าจะลดค่าไฟให้กับประชาชน งบกลางควรจะเป็นของทุกพรรคร่วมรัฐบาล ควรแบ่งมาลดค่าไฟมาตามนโยบายที่หาเสียง รัฐบาลถึงจะไปต่อได้ หรือถ้าพรรคใหญ่ดึงดันไม่ให้ใช้งบกลาง ตนแนะนำให้หันหลังกลับมาคุยในพรรครวมไทยสร้างชาติ คุยกับนายทุนพลังงานเจ้าของโรงไฟฟ้า เรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน เชื่อว่ารัฐมนตรีมาถึงตรงนี้ท่านเข้าใจว่าประชาชนต้องจ่ายเงินฟรีให้กับโรงไฟฟ้าที่สร้างแล้วไม่ได้เดินเครื่อง ขอแนะนำให้คุยกับนายทุนพลังงาน เพราะรูปที่ออกมาจากเขาใหญ่แสดงให้เห็นว่าพวกท่านสนิทกันดี ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ถึงเวลาหรือยังที่จะใช้อำนาจรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแก้ไขปัญหา“

ด้านนายพีระพันธุ์ ชี้แจงต่อว่า เป็นปัญหาที่หมักหมมก่อนเป็นรัฐมนตรี ได้ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและอัยการ ดูสัญญาว่าจะปรับลดหรือแก้ไขอะไรได้บ้าง เพราะการไฟฟ้าเป็นหน่วยงานของรัฐไม่ใช่เอกชน ไม่จำเป็นต้องหากำไรเข้าบริษัท แบ่งปันให้ผู้ถือหุ้น แต่ต้องมีเงินนำส่งรัฐบาล ซึ่งเห็นตรงกับท่านต้องมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนไฟฟ้าถูก มอบนโยบายให้ผู้ว่าฯ คนใหม่ไปคิดมาแล้ว

นายศุภโชติ ยังได้ถามต่ออีกว่า การแบกหนี้เหมือนระเบิดเวลา ค่าไฟ-น้ำมันเป็นผลพวงมาจากการวางแผนที่ผิดพลาดในอดีต เกิดจากการสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น เพื่อความเป็นธรรม ปัญหานี้ นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ก่อเพราะปัญหามีมาก่อนที่ท่านจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง แต่ร่างแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน ท่านทำผิดพลาดเหมือนเดิม ภายใต้การบริหารของท่าน

“ท่านกำลังทำให้ประเทศนี้มีโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น เพิ่มขึ้น 8 โรงใน 13 ปี ร่างแผนนี้กำลังนำพาประเทศไปในทิศทางที่เลวร้าย ค่าไฟแพงขึ้น ลดการปล่อยมลพิษไม่ได้ ท่านต้องทำงานเพื่อประเทศชาติไม่ใช่เพื่อเอาใจในทุนพลังงาน ตนยังสงสัยว่าใครคือรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานที่แท้จริง ช่วยยืนยันกับสภาและประชาชนว่าท่านคือรัฐมนตรีของประเทศไทย กำลังทำงานเพื่อประชาชน”

นายพีระพันธุ์ ชี้แจงด้วยว่า ร่างแผนดังกล่าวไม่ได้เป็นคนร่างเป็นเพียงแค่ผู้กำกับ แต่แผนจะกำหนดค่าไฟให้อยู่ที่ 3.80-3.90 บาท แผนรูปแบบใหม่ต้องนำเทคโนโลยี และหน่วยงานหลักต้องคิดจะทำอย่างไรให้ค่าไฟถูกลง ท้ายที่สุดตนเองก็ต้องจ่ายค่าไฟ พร้อมย้ำว่า รัฐมนตรีพลังงานชื่อ พีระพันธุ์ ถ้าท่านเป็น สส. แล้วไม่ทราบ ต้องกลับไปทบทวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลดุ! ซัดปฏิญญาเขาใหญ่ถาม 'พีระพันธุ์' ทำงานรับใช้ใครแน่

'ศุภโชติ' จี้ 'รมว.พลังงาน' แก้ปัญาราคาน้ำมัน-ค่าไฟแพง แนะใช้ความกล้าคุยพรรคร่วมรัฐบาล ดึงงบกลางช่วยแฉแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ส่อซ้ำรอยความผิดพลาด ยกปฏิญญาเขาใหญ่ ถาม'พีระพันธุ์' ทำงานรับใช้ใครแน่

เด็กก้าวไกลข้องใจสภาสกัดกั้นปลาหมอคางดำทอด!

'ณัฐชา' เข็นปลาหมอคางดำทอดแจกนักข่าว ประชด 'พิเชษฐ์' ไม่ให้เก็บรีแอค สส.หลังชิม หวั่นตั้งกระทู้ด่วนเป็นหมัน ลั่นตายเป็นตายให้รู้กันไปว่าจะส่งต่อระบบนิเวศแบบนี้ให้คนรุ่นหลัง

'อนุทิน' ย้ำไม่เคยคิดแทนที่นายกฯ ลั่นทำวันนี้ให้ดีที่สุด

'อนุทิน' เผย ครม.ทุกคน ให้กำลังใจ 'เศรษฐา' ผ่านเหตุการณ์ 14 ส.ค. ด้วยดี หลังศาล รธน. นัดชี้ชะตา ขออย่ามองผลทางลบ บอกไม่เคยคิดมาแทนนายกฯ ย้ำทุกคนทำงานเข้ากันดี

เสี่ยหนูมั่นใจ! กฎหมายกัญชาเสนอเมื่อไหร่ผ่านฉลุยแน่

'อนุทิน' เชื่อการออก พ.ร.บ.คุมกัญชาฉลุย มั่นใจ 'นายกฯ - พรรคร่วม 314 เสียง' หนุน ลั่นเป็นชัยชนะประชาชน พร้อมถ่อมตัวมี 71 เสียงไม่ขอแข่งพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่บอร์ดป.ป.ส. ไม่ต้องประชุมแล้ว