23 ก.ค.2567 - เมื่อเวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวุฒิสภา เพื่อเลือกประธาน ถึงกรณีที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นนายบุญส่ง น้อยโสภณ ว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ถือว่าเหนือความคาดหมายหรือไม่ ว่า ไม่ หากสังเกต ทั้งนายมงคล สุรัจสัจจะ ว่าที่ประธานวุฒิสภา, พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ ว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และนายบุญส่ง ทั้งสามท่านก็เสนอชื่อกันเอง ตนก็ไม่ได้แปลกใจอะไร แต่รู้สึกดีใจที่ได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดแทนประชาชน เรื่องการเมืองภาคพลเมือง สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก กฏหมายของประชาชนที่เข้าชื่อ ว่าในฐานะวุฒิสภาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
เมื่อถามว่า คาดว่าจะได้กี่คะแนน จากการประเมิน นางอังคณา กล่าวว่า ถ้าพูดถึงคะแนน ในกลุ่มของตนก็ได้ไม่ต่างกัน ประมาณไม่เกิน 20 เสียง ส่วนคิดว่าตัวเลขออกมาน้อยหรือไม่นั้น ไม่กระทบจิตใจ เพราะผ่านอะไรมาเยอะ แต่ประหลาดใจ เพราะรอบเลือกระดับประเทศ ก็ไม่ต่างอะไรจากครั้งนี้ คนที่มีคะแนนสูงก็สูงไปเลย
ส่วนควรจะมีการถอดบทเรียน เนื่องจากต่อไปจะเป็นการชิงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการหรือไม่นั้น นางอังคณา กล่าวว่า เหมือนถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ว่าคนที่เป็นคนกำหนดจะเป็นคนชี้นำตลอดไปหรือไม่ หรือจะฟังเสียงจากคนข้างนอกหรือประชาชนบ้างหรือไม่ ส่วนตัวแต่ไม่ได้กังวล เราอยู่ตรงไหนก็ทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เสียงที่เป็นเอกภาพขนาดนี้ จะทำให้ทางกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ทำงานยากหรือไม่ นางอังคณากล่าวว่า หากมีกฎหมายประชาชนเข้ามา หรือมีอะไรที่รัฐบาล หรือพรรคการเมืองไม่เห็นด้วย ก็กังวลว่าเสียงจะเทไปทางที่ไม่เห็นด้วยหมด สิ่งที่ทำให้เห็นชัดเจนในวันนี้ คือความไม่เป็นอิสระ อย่างช่วงที่มีการเลือกเข้ามา เราก็รู้ในระดับหนึ่งว่า มีการจัดตั้งอย่างเข้มแข็ง แต่วันนี้แสดงให้เห็นว่า วุฒิสภามีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คะแนนจะเทไปให้คนใดคนหนึ่งจนมากแบบนี้
ส่วนจะกดดันให้การทำงานตลอด 5 ปี ยากขึ้นหรือไม่นั้น นางอังคณากล่าวว่า ไม่เคยรู้สึกกดดัน แต่เรารู้สึกว่า อาจจะทำงานได้ยากขึ้นในประเด็นที่สำคัญๆ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเราเชื่อว่าถูกต้อง ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ได้ทำแล้ว อะไรที่ยังทำไม่ได้ ก็จะต้องชี้แจงกับประชาชน
“วันนี้ทำให้เห็นชัดเลยว่า วุฒิสภาไม่มีความเป็นอิสระจริงๆ”
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ถ้าดูตัวบุคคลก็จะเห็นว่า แต่ละคนเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่สิ่งที่ดีใจคือ วันนี้เราได้รู้ว่า มีใครบ้างที่ยังเดินอยู่กับเรา ถือว่าดี จะได้ประมาณตนได้ว่า ต่อไปหากเราจะทำอะไร คงต้องทำงานหนักขึ้น
ส่วนมีอะไรจะฝากไปถึงประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาทั้งสองหรือไม่นั้น นางอังคณากล่าวว่า ทั้ง 3 คน คงต้องตอบคำถามประชาชน ตอนนี้คงปกปิดอะไรไม่ได้แล้วว่าทุกคนเป็นอิสระ เพราะสิ่งที่เห็น บอกกับเราว่าความเป็นอิสระของ สว. ไม่มีจริง
ทั้งนี้ การเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ผลปรากฏว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว.ได้ 167 คะแนน นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ได้ 18 คะแนน นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต สว. ได้ 8 คะแนน และนายปฏิมา จีระแพทย์ สว. ได้ 4 คะแนน งดออกเสียง 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดชื่อ 18 กมธ.วิสามัญ แก้ข้อบังคับประชุมรัฐสภา 'สว.พันธุ์ใหม่' ได้ 1 ที่
จากที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 415 เสียง ไม่เห็นด้วย 185 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมเห็นสมควรรับหลักการแห่งร่างข้อบังคับการประชุม ฉบับที่ ... พ.ศ. ... จากนั้นตั้ง กมธ.วิสามัญ จำนวน 18 คน โดยแบ่งเป็นสส.13 คน สว. 5 คน
'สว.อังคณา' ตบปาก 'พ่อนายกฯ' พล่อยเหยียดผิว บี้ขอโทษก่อนบานปลาย
'อังคณา' จี้ 'ทักษิณ' ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดผิว ช่วยหาเสียงเป็นสิทธิ แต่ไม่ควรพูดด้อยค่า-ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
'สว.พันธุ์ใหม่' พร้อมโหวตแก้รธน. มาตรา 256 หักอำนาจวุฒิสภา เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภากลางเดือนมกราคมนี้
ฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าดาวดับคู่
สื่อสภาตั้งฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' – 'เนวิ(น)เกเตอร์' สภาสูง 'วันนอร์' รูทีนตีนตุ๊กแก – ประธานวุฒิฯ 'ล็อกมง' – ผู้นำฝ่ายค้านฯ 'เท้งเต้ง' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าคู่ 'ดาวดับ' ยกขันหมาก 'พท.-ปชป.' เหตุการณ์แห่งปี
สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา
‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน