'เผ่าภูมิ' ยกดิจิทัลฯ เป็นเหรียญ 2 ด้านที่มองไม่ตรงกันใน 5 ข้อ

'เผ่าภูมิ' ชี้ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เป็นเหรียญ 2 ด้าน ยัน รบ.มีมาตรการอัดเม็ดเงินจริง

17 ก.ค.2567 - นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเหมือนเหรียญ 2 ด้านที่มองไม่ตรงกัน 5 ด้านคือ 1.เศรษฐกิจประเทศยังไม่ต้องการกระตุ้นอย่างหนัก แต่รัฐบาลมองว่า มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.การกู้เงินมาใช้จ่าย ที่มองว่ามีการกู้เงินเต็มเพดานแล้ว แต่ความจริงหนี้สาธารณะประเทศไทยอยู่ที่ 64% นั้น มาจากการใช้คำนิยามที่เข้มข้นกว่ามาตรฐานสากล และไอเอ็มเอฟเพราะนับหนี้สาธารณะในส่วนที่สากลไม่นับคือ รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นภาระต่อรัฐบาล ถ้าเรานับหนี้สาธารณะตามคำนิยามสากลแล้ว หนี้สาธารณะประเทศไทยอยู่แค่ 58.4% ยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีปัญหาใดๆ

3.การมองว่าผลตอบแทนได้ไม่คุ้มเสีย ยกตัวเลขว่า ลงทุน 5 แสนล้านบาท แต่ได้ผลตอบแทนแค่ 3.5 แสนล้านบาท เป็นการมองที่ผิดพลาดทางวิชาการ การคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ได้มีแค่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังมีเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ข้อมูลพื้นฐานประชาชนจะเข้ามาอยู่ในระบบ ทำให้มาตรการภาครัฐหลังจากนี้สามารถตรงไปช่วยเหลือประชาชนได้โดยตรง ต้องเอาไปรวมอยู่ในการประเมินความคุ้มค่าของโครงการด้วย 4.การมองว่า เอื้อประโยชน์รายใหญ่ แต่รัฐบาลมองว่า การกำหนดรัศมีการใช้เงิน 4กิโลเมตร เพราะต้องการให้เงินไหลเข้าชุมชน ไม่เข้าสู่เมืองใหญ่ ทุกเงื่อนไขทำให้เงินลงสู่ชุมชนมากสุด และ 5.การไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆร่วมด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลมีทั้งมาตรการอัดเม็ดเงินจริง และการอัดเม็ดเงินลักษณะสินเชื่อ แต่มีผลทางเศรษฐกิจคล้ายกัน

เพิ่มเพื่อน