'รังสิมันต์' รับสภาพคงสู้คดียุบพรรคยากขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นตาย

'โรม' รับคงสู้คดียากขึ้น หลังศาล รธน.นัดชี้ขาดยุบก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ย้ำความสำคัญอยู่ที่กระบวนการ ยกพยานปากสำคัญควรได้ขึ้นไต่สวน ยันพรรคไม่ได้ล้มล้างการปกครอง

17 ก.ค. 2567 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญยุติการไต่สวนคดียุบพรรคก้าวไกล และนัดลงมติพร้อมฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาโดยตลอด คือเราคิดว่าการเปิดไต่สวนจะนำข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล เข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่การที่จะทำให้คดีนี้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด ซึ่งเมื่อวานนี้นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้แถลงข่าวว่า มีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรในเรื่องพยาน และเรามีข้อโต้แย้งอย่างไรในปัญหาของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจมา ซึ่งเราพบว่ามีกระบวนการในการเร่งรัด และมีความสุ่มเสี่ยงมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการเร่งรัดนี้ก็ทำให้พรรคก้าวไกลไม่มีสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

“จากที่เห็นเอกสารข่าวในวันนี้ แน่นอนว่าเราเองคงต้องบอกตรงๆ ว่า การต่อสู้คดีของเราที่ต้องการจะนำพยานหลักฐานเข้าไปสู่กระบวนการการพิจารณาของศาล คงทำไม่ได้ ยอมรับว่า คงทำให้การต่อสู้คดีของเรายากขึ้น อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถบอกได้ว่าผลของคำวินิจฉัยของศาลในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะเป็นอย่างไร แต่เราหวังว่า ผลตรงนี้จะสร้างความยุติธรรมให้กับพรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน”

ส่วนการนัดหมายในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ คิดว่าเร็วเกินไปในการเตรียมการหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าคงไม่ได้ไปดูว่าฉุกละหุกหรือไม่ แต่ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือเรื่องของกระบวนการมากกว่า เนื่องจากพยานปากสำคัญของเราอย่าง ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน ที่เราต้องการให้ขึ้นเป็นพยานของพรรคก้าวไกล เป็นพยานปากสำคัญมาก เนื่องจากท่านเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้นคิดว่าเนื้อหาสาระแบบนี้ กระบวนการแบบนี้ พยานปากสำคัญแบบนี้ เราไม่สามารถมองข้ามได้เลย ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้เราเองก็อยากให้กระบวนการดำเนินไปในลักษณะที่ฟังกันทุกฝ่าย และรับฟังโดยละเอียด แต่แน่นอนว่า เมื่อกระบวนการไม่เป็นไปอย่างที่เราหวัง ก็คงต้องกลับไปคุยกันในพรรค ซึ่งเข้าใจว่าภายในพรรคเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

"ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องการล้มล้างการปกครอง ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ต้องการเซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่มีการกล่าวหา เราเป็นพรรคการเมืองที่เคารพในระบอบประชาธิปไตย ต้องการเห็นประเทศของเราเป็นประชาธิปไตย ด้วยจุดมุ่งหมายเหล่านี้ เรายืนยันว่า เราไม่ได้ต้องการทำลายการปกครองแน่นอน"

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต้องยืนยันว่า คำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เลย แต่จะต้องเป็นการแก้ไขที่ถูก ต้องซึ่งก็มีกระบวนการและขั้นตอนของมันอยู่ และคำวินิจฉัยของศาลในรอบที่แล้ว ก็คือสั่งให้ยุติการกระทำ ซึ่งจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการกระทำอะไรเพิ่มเติม เชื่อว่าคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ประชาชนทุกคนคงเฝ้ารอ และต้องดูว่าสุดท้ายจะสอดรับกับเหตุผลที่ยอมรับกันได้มากแค่ไหน ทั้งนี้ กระบวนการต่อไปของพรรคภายหลังวันที่ 7 สิงหาคม ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไร แต่คิดว่าเดี๋ยวคงจะต้องมีการคุยกัน เดาว่าหัวหน้าพรรคก็คงเพิ่งทราบ จึงยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ และเชื่อว่าจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่นโรมเตือนสติตำรวจอย่างรีบปิดคดี 6 ศพชาวเวียดนาม

'โรม' หวัง ผลสอบ 'พบศพชาวต่างชาติ' โปร่งใส เตือน 'ตำรวจ' พึงสังวรณ์หากรีบปิดคดีให้เรื่องเงียบ จะสูญเสียศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม-ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้

'ไอลอว์' ร้อง กมธ.ความมั่นคงฯ ตรวจสอบ 'เพกาซัสสปายแวร์' ละเมิดสิทธิประชาชน

'ไอลอว์' ร้อง กมธ.ความมั่นคงฯ ตรวจสอบ 'เพกาซัสสปายแวร์' ละเมิดสิทธิประชาชน หลังเคยยื่นในสภาชุดที่แล้ว แต่เรื่องเงียบ ด้าน 'โรม' จ่อบรรจุวาระเข้าที่ประชุม กมธ.-เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง

'ศิริกัญญา' บอกรัฐบาลคอพาดเขียงเพิ่มงบ 1.22 แสนล้านส่อผิดกฎหมายอื้อ

'ศิริกัญญา' ชี้ดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงขัดกฎหมายหลายมาตรา ท้าใช้เสียงข้างมากในสภาแก้ กม. ก่อนแล้วค่อยทำโครงการ ซัด ครม.-นายกฯคาดพาดเขียง กระตุกสติพรรคร่วมอาจกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

อย่าหนีสภา! ‘โรม’ ดักคอนายกฯ จะตั้งกระทู้ถาม แบก์ไทยถูกใช้หนุนสงครามในเมียนมา

'โรม' เตรียมตั้งกระทู้ถาม 'นายกฯ' ปมแบงก์ไทยถูกใช้หนุนสงครามในเมียนมา ขอให้มาตอบด้วยตัวเอง แสดงบทบาทนำแก้ปัญหา สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ