15 ก.ค.2567-นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ราชประชาสมาสัยเพื่อให้ได้วุฒิสภา” ระบุว่า ประชาชนไทยทุกท่าน คงได้รับทราบที่กกต. ให้การรับรองสว.200คน ท่ามกลางข้อครหาว่าเป็นสภาฮั้ว อยู่ภายใต้สังกัดสีค่าย ของพรรคการเมือง ด้วยหลักการของสว. ต้องเป็นกลางทางการเมือง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติพรรคการเมือง ต้องมีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะเหนือกว่าส.ส. เนื่องจากวุฒิสภาต้องทำหน้าที่ กลั่นกรองกฏหมาย ตรวจสอบและถ่วงดุลย์ ให้กำเนิดองค์กรอิสระ เช่นกกต. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ
การที่สว.สังกัดค่ายสีต่างๆ ยอมมีโอกาสได้องค์อิสระสังกัดค่ายสีของพรรคการเมืองด้วย ขนาดที่ผ่านมาก็ยังได้ข่าวปปช.วิ่งได้ กกต.รับเงิน ศาลรัฐธรรมนูญมีการวิ่งเต้น การที่พรรคการเมืองเข้ามาครอบงำสว. และองค์กรอิสระ จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นองค์กรกกต. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำสั่งจากพรรคการเมือง นี่จึงเป็นปัญหาประชาธิปไตยของประเทศไทย
ตามที่กล่าวมา เราจึงได้เห็นพรรคการเมืองพยายามควบคุมสว.ให้ได้ ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนรมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการให้สว.เป็นกลาง มีประสบการณ์และมีวุฒิภาวะ
ก่อนหน้านี้ สว.มีการเลือกตั้งตามจังหวัดต่างๆ ก็เกิดสภาผัวเมีย เพราะใช้ฐานเสียงเดียวกันกับส.ส. ส่วน สว.แต่งตั้งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย สว.กลุ่มอาชีพเลือกไขว้ ก็เกิดสภาฮั้วสังกัดสีการเมือง ต้องขอย้ำว่า ตราบใดที่ปล่อยให้สว. ถูกแทรกแซงจากพรรคการเมือง เท่ากับว่า กระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลย์ถูกทำลาย จะทำให้ประชาธิปไตยถึงทางตันในที่สุด ทำอย่างไรจึงจะได้สว.ที่เป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้พรรคการเมือง ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะเหนือส.ส. การที่จะยกภารกิจ ให้กกต.คัดกรองคุณสมบัติ และให้ประชาชนตัดสินใจ ได้รับการพิสูจน์หลายครั้งว่าทำไม่ได้
ในประเทศไทย มีองค์กรที่เป็นกลางทางการเมือง มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ การวิ่งเต้นยากมาก เพียงองค์กรเดียวที่ประชาชนเชื่อถือ นั่นคือองคมนตรี เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยสมบูรณ์ ทั้งหลักสิทธิเสรีภาพ การเลือกตั้ง ระบบตรวจสอบถ่วงดุลย์ เป็นไปตามหลักการ ของประเทศประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องให้องคมนตรีคัดกรอง คุณสมบัติบุคคลจากกลุ่มอาชีพต่างๆ สองเท่าของแต่ละกลุ่มอาชีพ และมอบให้กกต.ไปจัดเลือกตั้ง จบด้วยการตัดสินใจของประชาชน โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง เพื่อให้ได้สว.สมเจตนารมณ์ และปิดกั้นการแทรกแซงจากพรรคการเมือง ได้องค์กรอิสระที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เป็นที่พึ่งของพรรคการเมือง
“กระบวนการให้ได้มาซึ่งสว.แบบนี้ ไม่ใช่การถวายคืนพระราชอำนาจ แต่นี่คือราชประชาสมาสัย ตามรัฐธรรมนูญ เพราะจะต้องเสนอแก้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปตามหลักการแก้รัฐธรรมนูญ พวกเราจะรวบรวมรายชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อ เสนอแก้รัฐธรรมนูญ วิธีการให้ได้มาซึ่งสว. ที่เป็นกลางทางการเมือง ไม่อยู่ภายใต้พรรคการเมือง มีประสบการณ์และมีวุฒิภาวะ ด้วยแนวทางราชประชาสมาสัย ให้ประชาธิปไตยของชาติมีความยั่งยืน ติดตามเร็วๆนี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' ยก 3 ข้อ ถามรัฐบาลตอบไม่ได้พังแน่!
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่าถ้าตอบไม่ได้รัฐบาลพังแน่
ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ
แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง
เปิดขั้นตอน 'กกต.-ศาลรธน.' ก่อนเชือด"เพื่อไทย-พรรคร่วม"
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสำหรับ "พรรคเพื่อไทย" เข้ามาแบบไม่ให้เว้นวรรคได้พักกัน โดยล่าสุด นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้มายื่นร้องขอให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม
'เพื่อไทย' ย้อนแย้งปากด่ารัฐธรรมนูญเผด็จการแต่เอาประโยชน์เต็มๆ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปากด่ารัฐธรรมนูญเผด็จการ แต่เอาประโยชน์เต็มๆ
'หมอวรงค์' เปิดเบื้องลึก! ทำไมไม่ควรนิรโทษกรรมคดี 112
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไมจึงไม่ควรนิรโทษกรรมคดี 112" โดยระบุว่า
'หมอวรงค์' ชี้นิรโทษกรรมจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี