12 ก.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่า กลุ่ม สว.ของตนมีชื่อว่า สว.สีขาว ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับกับ นางนันทนา นันทวโรภาส เพราะกลุ่มของเขาเรียกว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่
โดยกลุ่ม สว.สีขาวของตน เป็น สว.ที่มาจากทั่วประเทศ ซึ่งสนใจเข้าร่วมหลังจากได้รับการคัดเลือกแล้ว จึงมาอยู่ด้วยกัน ยืนยันว่า ไม่มีพรรคการเมืองใด สีใด หรือใครบงการสนับสนุนทั้งสิ้น เรามาด้วยความรักในอุดมการณ์ เพื่อต่อสู้ทางการเมืองอย่างเป็นอิสระจริงๆ
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนขอเรียนว่า การที่ใครมีที่มาอย่างไร ตนไม่ติดยึด แต่อยากขอเรียกร้องให้สลายสี แล้วมาทำงานเพื่อประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญบอกอยู่แล้วว่า สว.ต้องเป็นอิสระ ปราศจากพรรคการเมือง วันนี้ สว.จะต้องร่วมกันฝ่าฟันเรื่องต่างๆ ในวุฒิสภาตลอด 5 ปี ขอให้นำอุดมการณ์และประสบการณ์ที่ทุกคนมี มาช่วยประเทศฝ่าฟันสิ่งต่างๆ ที่ต้องแก้ไขร่วมกันให้ดีที่สุด
ส่วนได้มีการพูดคุยถึงการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาบ้างหรือไม่ นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การช่วงชิง การแก่งแย่ง พวกเราไม่ประสงค์อย่างนั้น เพียงแต่ขั้นตอนกว่าจะรายงานตัวเสร็จ จนเข้าสู่การประชุมเพื่อเลือกประธานวุฒิสภา มีเวลากำกับอยู่ ตนคิดว่า การมุ่งไปที่การชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ไม่น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของ สว.ชุดนี้ แต่ควรให้เป็นไปตามเวลาที่เหมาะสมดีกว่า
"ท่านใดที่เป็นตัวเก็ง ก็เป็นตัวเกร็งมาแล้วหลายคน เพราะฉะนั้น อย่าไปเก็งมาก เดี๋ยวจะเกร็งซะก่อน"
เมื่อถามว่า กลุ่ม สว.สีขาว มีจุดยืนเหมือนกันอย่างไร นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่จำกัดส่วนสูง และน้ำหนัก แต่จำกัดว่าต้องเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน เน้นที่ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน บางคนอาจจะถูกปรามาสและด้อยค่า แต่ตนคิดว่า ทุกคนมีค่า สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ เราไม่ได้เน้นหนักว่าจะต้องมีปริมาณเท่าไหร่ เพราะ สส. 1 คน ก็ทำให้สภาป่วนได้ อย่าไปมองว่าต้องมี สว.เป็นร้อยคน เพราะร้อยคนอาจจะทำงานเดินสภาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความร่วมมือของสมาชิก
ส่วน สว.สีขาวมีใครบ้างนั้น ตนจะเปิดเผยในการประชุมที่จะมีการอภิปรายและลงมติ เพราะพวกตนเป็นการร่วมกันทางอุดมการณ์ ไม่ใช่ร่วมกันเพื่อต่อรองตำแหน่ง หรือต่อรองผลประโยชน์ และการที่ สว.ทั้ง 200 คน มีกลุ่ม ก็อาจจะทำงานลำบาก แต่เป็นความจำเป็นของระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้องมีความเห็นต่าง เพียงแต่การเป็นกลุ่มนั้น ขออย่างเดียวอย่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง หรือเงาทะมึนมาสั่งว่า จะต้องเอาองค์กรอิสระคนนี้ เอากฎหมายแบบนี้ เพราะถ้าสวนทางกับประชาชน ถึง สว.กลุ่มนั้น จะมีปริมาณเท่าไหร่ ก็อยู่ไม่ได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า เริ่มมีการทาบทาม สว. ให้ไปอยู่กลุ่มการเมือง ด้วยการเสนอเงินเดือน รถ หรือคนติดตามให้ นายแพทย์เปรมศักดิ์ได้รับการทาบทามหรือไม่ นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็มีคนไลน์และโทรศัพท์มาบอก แต่ตนตอบกลับไปว่า เงินตนมีเยอะแล้ว ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร เพราะตนเป็นลูกน้องมาแล้ว 6 พรรคการเมือง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองก็มีกฎเหล็กข่มขืนใจสมาชิกกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นเขาไม่ลงทุน และเมื่อสมาชิกไม่ทำตามทางการเมือง ก็อาจจะถูกขับออกจากพรรค หรือเป็นแกะดำ ตนจึงคิดว่า น่าจะขจัดเงาทะมึน โดยการร่วมกันทำงานอย่างเป็นอิสระ ถ้ายังไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เอาริสแบนด์สีขาวไปสวมก็ได้ ให้ค่อยๆ สลายเงาทะมึน โดยตอนนี้ ก็มีคนมารับริสแบนด์ไป 10 กว่าคนแล้ว
ทั้งนี้ คนที่ไลน์มาหาตน มีข้อเสนอมาเยอะ แต่ไม่อยากระบุ และไม่ทราบว่าคนอื่นเห็นแล้วจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบว่า มีการส่งคนมาดักตรงจจุดรับใบรับรองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนบางคนเปลี่ยนใจจากการเป็นอิสระไปก็มี แต่ตนคิดว่าการเปลี่ยนใจไม่เป็นอิสระนั้น ต้องคิดให้ดี บางทีก็ไม่คุุ้ม เพราะอยู่ 5 ปี เป็นอิสระ ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี น่าจะดีกว่า ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่ทำให้เราภูมิใจได้
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หาก 5 ปีผ่านไป จะทำอย่างไรให้เราลงจากเวทีนี้ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะเงินและสิ่งของ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ สำหรับตนจิ๊บจ๊อยมาก ส่วนรถที่เขาให้ ตนไม่ว่าเป็นอัลพาร์ดหรือไม่ แต่น่าจะไม่ใช่สามล้อ
"รถอัลพาร์ดของผมก็มี ผมมีพร้อมทุกอย่างแล้ว อย่าเอามาอ่อยเลย ผมผ่านเรื่องนี้มาเยอะแล้ว การมีปลอกคออยู่ในค่าย เขาลงทุนเท่านี้ เขาคาดหวังเรายิ่งกว่านี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราต้องประกาศออกไปว่า เราไม่มีสังกัด"
ส่วนประเมินว่า สว.อิสระ จะถูก สว.กลุ่มการเมือง กลืนไปใน 5 ปีหรือไม่ นายแพทย์เปรมศักดิ์ ย้อนถามว่า ทำไมไม่คิดว่าเราจะกลืนเขาบ้าง การเป็น สว.อิสระมันดี ไม่มีใครอยากได้การกักขัง อยากจะมีอิสระกันทั้งนั้น ดังนั้น ตนคิดว่า ใน 5 ปี อาจจะมีวิกฤตบางอย่าง ที่ทำให้สมาชิกเห็นว่า การเป็นอิสระดีกว่าการถูกจองจำหรือกักขัง บังคับให้อยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง แม้กลุ่มอิสระจะลงมติแล้วแพ้ แต่จะชนะใจประชาชน ย้ำว่า ค่าตอบแทนของ สว. รัฐสภาให้มาคุ้มแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรับลาภที่มิควรได้จากที่ใดอีก
เมื่อถามว่า มองว่า บุคคลที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภา ควรมีลักษณะอย่างไร นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า อันดับแรกต้องสุขภาพดี ถ้าสุขภาพไม่ดี เดินยังต่อเท้าตัวเอง นั่งอยู่บนบัลลังก์ ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง แล้วการประชุมจะมีคุณภาพได้อย่างไร บางคนเป็นแล้วสามวันดีสี่วันไข้ ต้องหามเข้าโรงพยาบาล เราอยากเห็นอย่างนั้นหรือ อยากเห็นประธานวุฒิสภาต้องเส้นเลือดฝอยในสมองแตกหรือ
สำหรับที่มีการบอกว่า โผเป็นคนนั้นคนนี้ ตนคิดว่า ถ้าไม่ดีพอ อย่ามาเสี่ยง เพราะงานวุฒิสภา เป็นงานที่หนัก ใช้ความคิด ใช้เวลาพอสมควร รวมถึงความรู้ ความสามารถ และแนวทางการทำงานด้วย บางทีอาจจะมองว่า เสียงข้างมากตัดสินปัญหาทุกปัญหา แต่ไม่ใช่มีเสียงข้างมาก แล้ว จะไล่ทุบให้ได้ตามใจทุกอย่าง บางทีทุบไปอาจจะถูกบูมเมอแรงสะท้อนกลับก็ได้ ตนจึงอยากเห็นประธานวุฒิสภา ที่เป็นกลาง ไม่สังกัดกลุ่มใด มาแบบอิสระ แบบสีขาว ได้ยิ่งดี ไม่ต้องคำนึงถึงใคร นอกจากประชาชน เพราะตนคิดว่า การดูแลการประชุมไม่เหมือนกับการเป็นประธานที่ประชุมในกองทัพ หรือกรมกองในหน่วยราชการ เพราะนั่นท่านประชุมกับลูกน้อง แต่ สว.ทั้ง 200 เสียง หากมีคนที่อภิปรายแล้วท่านควบคุมไม่ได้ จะแก้ปัญหาอย่างไร ดังนั้นหากไม่มีทักษะในการประชุม ตนคิดว่าประธานเจ๊งเอาง่ายๆ
ส่วนคิดว่าคนที่เป็นประธานวุฒิสภาจะสามารถเข้ามาสลายกลุ่ม ใน สว.ได้หรือไม่นั้น นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าเขามาจากกลุ่ม เขาก็ไม่สลาย มีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทุกวันนี้ยังได้ยินว่ามีการดูดเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเกินพอดี แต่อย่าลืมว่าการที่มีอะไรมากเกินไป เช่น การรับประทานอาหาร กินมากไปก็ท้องแตก จึงคิดว่าให้มันพอดีๆ ดีกว่า ดังนั้น การเป็นประธานวุฒิสภาที่ดี ไม่มีกลุ่ม ไม่มีมุ้ง ดีที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต. ยื้อ 'หมอเกศ' เลื่อนถกคุณสมบัติจบดอกเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้มีการพิจารณารายงานผลการตรวจสอบกรณีพ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถูกร้องว่ากระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงเกียรติคุณ
กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง
‘หมอเปรม’ แฉมีจนท.รัฐ ใช้ กม.หาประโยชน์กับประชาชน ที่ใช้โดรนเพื่อการเกษตร
หมอเปรม แฉมีเจ้าหน้าที่รัฐใช้กฎหมายหาประโยชน์กับประชาชนที่ใช้โดรนเพื่อการเกษตร จี้รัฐบาลแก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค รมว.ดีอียันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ให้การใช้โดรนเกิดประโยชน์สูงสุดในทุกภารกิจ
ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'
'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ
สว. ห่วงบีอาร์เอ็นฉวย 'คดีตากใบ' โหมไฟใต้ วอนหน่วยมั่นคงป้องเหตุร้าย
'สว.' ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ ชี้บีอาร์เอ็นฉวยคดีตากใบโหมไฟใต้ วอนหน่วยความมั่นคงบูรณาการปกครองรับมือ ป้องเหตุร้ายสถานที่ราชการ-ร้านค้า-ปั้มน้ำมัน-ชุมชนไทยพุทธ
เคาะแล้ว 14 กมธ.ร่วมกันฝ่ายวุฒิฯ ถกร่างกม.ประชามติ
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาตั้งกรรมาธิการ(กมธ.)ร่วม