ก้าวไกลยื่นญัตติด่วน หวังรัฐสภามีมติให้ ครม.ทบทวนคำถามประชามติ เรื่องรัฐธรรมนูญก่อนรัฐสภาแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติเสร็จ 'พริษฐ์' ย้ำคำถามที่เปิดกว้างจะเพิ่มโอกาสที่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะสำเร็จ
04 ก.ค.2567 -ที่อาคารรัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ยื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบการทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยคำถามที่ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ”
นายพริษฐ์กล่าวว่า สาเหตุที่พรรคก้าวไกลยื่นเสนอญัตตินี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปวันที่ 23 เม.ย.2567 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางเกี่ยวกับการทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเห็นว่าควรมีการทำประชามติทั้งหมด 3 ครั้ง และควรให้คำถามประชามติในครั้งที่ 1 เป็นคำถามที่ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์” ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเราสนับสนุนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เรามีความกังวลว่าการตั้งคำถามในลักษณะดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สะดุดและไม่ประสบความสำเร็จ ด้วย 3 เหตุผล คือ
1. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอเป็นการถาม 2 ประเด็นใน 1 คำถาม โดยมีการบรรจุเงื่อนไขหรือรายละเอียดปลีกย่อยในตัวคำถาม ซึ่งอาจทำให้ประชาชนบางคนที่เห็นด้วยกับบางส่วนของคำถาม แต่ไม่เห็นด้วยกับอีกบางส่วนของคำถาม (เช่น เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขเรื่องหมวด 1 และ หมวด 2) มีความลังเลใจว่าควรจะลงมติเช่นไรที่สะท้อนเจตจำนงหรือจุดยืนของตนเอง ทำให้ในบรรดาคนที่อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะลงคะแนนเห็นชอบ เหมือนกันอย่างเป็นเอกภาพ
2. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบปัญหาในเชิงกฎหมาย เพราะในเมื่อเนื้อหาของรัฐธรรมนูญแต่ละหมวดมีความสัมพันธ์กันโดยธรรมชาติ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจมีการยกร่างเนื้อหาบางส่วนในหมวด 3 เป็นต้นไป ที่ทำให้เกิดความจำเป็นทางกฎหมายที่จะต้องแก้ไขบางข้อความในหมวด 1 และ หมวด 2 ให้สอดคล้องกันกับหมวดอื่นๆ แต่การแก้ไขดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้พร้อมๆ กัน หากไม่เปิดให้มีการแก้ไขข้อความในหมวด 1 และหมวด 2 ในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
3. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่สามารถแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองในบริบทปัจจุบันได้ เพราะในเมื่อเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของรัฐธรรมนูญคือการออกแบบกติกาการเมืองที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายท่ามกลางความเห็นที่แตกต่าง การปิดกั้นข้อเสนอจากประชาชนเกี่ยวกับการปรับปรุงเนื้อหาในหมวด 1 และหมวด 2 (ที่ไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรือรูปแบบรัฐ) อาจเพิ่มความเสี่ยงที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่ถูกมองว่าสะท้อนฉันทามติใหม่ของประชาชนทุกคนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ก็ไม่ได้ห้ามเรื่องการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ไว้ รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2560 ก็มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาในหมวด 1 และหมวด 2 มาโดยตลอด
ดังนั้น เพื่อเสนอคำถามประชามติที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว พรรคก้าวไกลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. ประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9(4) เพื่อเสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยคำถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ” ซึ่งเงื่อนไขเรื่องการไม่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและรูปแบบรัฐ เป็นเงื่อนไขที่ถูกล็อกไว้อยู่แล้วในรัฐธรรมนูญมาตรา 255
นายพริษฐ์กล่าวว่า เข้าใจว่ารัฐบาลมีจุดยืนที่ต่างกับพรรคก้าวไกลในเรื่องการล็อกหมวด 1 และหมวด 2 แต่หากรัฐบาลเลือกใช้คำถามประชามติตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ และประชามติดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากประชาชน ขั้นตอนถัดไปคือการที่คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกรัฐสภาจะต้องเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับรายละเอียดการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา (เช่น จำนวน ที่มา และอำนาจของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)) ซึ่งในขั้นตอนนี้ หากรัฐบาลประสงค์ รัฐบาลสามารถเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ได้ว่า สสร. มีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกหมวด ยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งก็สอดคล้องกับรายละเอียดของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเข้าสู่รัฐสภา ดังนั้น การเลือกคำถามประชามติที่พรรคก้าวไกลเสนอในวันนี้ จะทำให้รัฐบาลยังคงเลือกที่จะล็อกหมวด 1 และหมวด 2 ได้เช่นเดิมตามจุดยืนของรัฐบาล แต่จะช่วยลดความเสี่ยงที่ประชามติรอบแรกจะไม่ผ่าน
นายพริษฐ์กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่พรรคก้าวไกลต้องเสนอญัตตินี้เป็นญัตติด่วน เพราะหากย้อนกลับไปวันที่ 23 เมษายน 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติว่าจะไม่เดินหน้าจัดทำประชามติครั้งแรกและประกาศคำถามประชามติอย่างเป็นทางการ จนกว่าการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติจะแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อวานนี้ในการประชุมนัดแรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ ทางคณะกรรมาธิการได้กำหนดว่าจะพิจารณาร่างแก้ไขให้เสร็จในชั้นกรรมาธิการภายในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนจะกลับเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2567
ดังนั้น เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้พิจารณาและลงมติเรื่องคำถามประชามติให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการ ทันเวลาก่อนที่ร่างแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติจะประกาศบังคับใช้ และก่อนที่ ครม. จะประกาศคำถามประชามติอย่างเป็นทางการ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องเสนอญัตตินี้เป็นญัตติด่วน เพราะหากเสนอเป็นญัตติทั่วไปก็อาจจะต้องรอเวลาอีกหลายเดือนหรือเป็นปีก่อนจะได้รับการพิจารณา
“พรรคก้าวไกลหวังว่าญัตติดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรค และจากสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบความสำเร็จ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กป้อม' ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย พปชร. ในสภาฯ
นางกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไดัลงนามคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 2 /2568 เรื่อง
'ชาล็อต' ให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจปมถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน
'ชาล็อต ออสติน' เข้าให้ข้อมูล กมธ.ตำรวจ ปมถูกหลอกสูญเงิน 4 ล้าน 'ชัยชนะ' ยันตำรวจให้ความสำคัญทุกคดี ไม่เกี่ยวเป็นคนดังหรือไม่
รื้อปมคดีแตงโมเดือด! กมธ.กฎหมายผวาก้าวล่วงอำนาจศาล
โต้เดือดหวิดวอล์กเอาท์! 'อัจฉริยะ' รื้อปม 'คดีแตงโม' ไม่สำเร็จ เหตุ 'กมธ.กฎหมาย' ชี้ไม่พบหลักฐานใหม่ ห่วงก้าวล่วงอำนาจศาล
'ธนกร' ค้าน 'ปชน.' แก้รธน.สุดซอย เตือนระวังโดนฟ้อง 157 ผิดกราวรูด
'ธนกร' ปักธงค้าน 'ปชน.' ชงแก้มาตรา 256 ชี้ตัดอำนาจ สว. ชัดขัดเจตนารมณ์ รธน. ทำเสียสมดุล 2 สภา หนักข้อสุดซอยเอื้อมแตะหมวด 1-2 พ่วงอำนาจองค์กรอิสระ เตือนระวังถูกฟ้อง 157 เจอผิดกราวรูด
'เท้งเต้ง' บอกอย่าเพิ่งหมดหวังสัญญาจะคงเส้นคงวาเหมือนเดิม!
'เท้ง' อวยพรปีใหม่ 68 ปลุกคนไทยอย่าทิ้งความหวัง ย้ำไม่เช่นนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ยืนยันฝ่ายค้านทำหน้าที่สม่ำเสมอ สัญญาจะคงเส้นคงวาเหมือนเดิม แย้มเปิดเวทีซักฟอกรัฐบาลภายใน มี.ค. แน่
ฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าดาวดับคู่
สื่อสภาตั้งฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' – 'เนวิ(น)เกเตอร์' สภาสูง 'วันนอร์' รูทีนตีนตุ๊กแก – ประธานวุฒิฯ 'ล็อกมง' – ผู้นำฝ่ายค้านฯ 'เท้งเต้ง' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าคู่ 'ดาวดับ' ยกขันหมาก 'พท.-ปชป.' เหตุการณ์แห่งปี