'ภูมิธรรม' อุ้ม 'ชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องรอศาลสั่ง ความเห็นกฤษฎีกาไม่ต้องทำตามทุกเรื่อง

2 ก.ค.2567- ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเปิดเผยข้อมูลนายชาญ พวงเพ็ชร ผู้สมัครนายกอบจ.ปทุมธานี ของพรรคเพื่อไทย ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ประทับรับฟ้องในคดีถุงยังชีพ ทำให้ต้องถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ และมีการประทับรับฟ้องแล้วนั้น ขณะนั้นนายชาญไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง ศาลจึงไม่ได้มีคำสั่งอะไรออกมา ถือว่าจบไป ส่วนหนังสือเวียนของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ออกมานั้น ถือเป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา

อย่างไรก็ตาม การที่นายชาญจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ต้องศาลสั่งเท่านั้น มันไม่ได้เป็นไปตามอัตโนมัติอย่างที่กังวลใจกันอยู่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ เป็นสถานการณ์ใหม่ในการดำเนินการ ดังนั้น นายชาญก็ยังมีสิทธิ์ เพราะตอนสมัครยังไม่ขาดคุณสมบัติ ตอนนี้ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันยังไม่มีข้อกฎหมายใดบังคับ ห้าม และยังไม่มีการสั่งจากศาลที่มีผลต่อการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมายของป.ป.ช. ยังไม่ชี้ชัดพอใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังหรอก เพราะศาลยังไม่มีคำสั่งว่านายชาญผิด แค่รับเรื่องมาพิจารณา ดังนั้น ถือว่ายังอยู่ในกระบวนการ หากศาลมีคำสั่งชัดเจนว่าผิดก็จะถือว่าจบ ยังไม่ชัดเจน และตามกระบวนการยุติธรรมเท่าที่ดูหลายเรื่องยังไม่ชัดเจน จึงขึ้นอยู่กับอำนาจศาลที่จะตัดสินใจ วันนี้เพียงประทับรับฟ้อง คือ ปล่อยให้จำเลยมีสิทธิ์ต่อสู้ และตามกระบวนการยุติธรรม ใครที่ถูกดำเนินคดี กฎหมายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องมีการพิสูจน์ทราบชัดเจนว่ามีความผิดก่อน ย้ำว่าตรงนี้ยังไม่มีคำสั่งอะไรชัดเจน เรื่องนี้อย่าพึ่งไปกังวลใจ หรือไปคิดไกล ต้องอยู่ที่ความเป็นจริงและดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณา ส่วนความเห็นที่ระบุว่าหากกลับเข้ามาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ผลที่สุดอย่างไรต้องให้ศาลสั่ง ไม่ใช่คณะกรรมการกฤษฎีกาบอกอย่างนั้นอย่างนี้แล้วทุกคนต้องดำเนินการ ต้องดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมีหลายเรื่องที่เป็นความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้น จึงเป็นดุลยพินิจที่เราไม่ควรไปก้าวล่วง

เมื่อถามย้ำว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ออกมา ยังยึดถือไม่ได้ ต้องรอกระบวนการใช่หรือไม่ เขาปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดเช่นนั้น กระบวนการที่มีการถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยหนึ่ง และกระบวนการนั้นไม่ได้ครบถ้วนตามกฎหมาย อีกทั้งนายชาญไม่ได้อยู่ในวิถีที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ เรื่องดังกล่าวจึงต้องจบตรงนั้น ส่วนกระบวนการในตอนนี้ กกต.พิจารณาแล้วว่าคุณสมบัติไม่ขัด เพราะยังไม่ใช่ผู้ที่ถูกตัดสินแล้วว่าผิด และที่บอกว่าจำเป็นต้องออกเพราะสร้างความเสียหายนั้น เขาไม่จำเป็นต้องออกก็ได้ เพราะเขาเชื่อในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตรงนี้เราอย่าไปวินิจฉัยแทน ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ถึงที่สุดค่อยมาว่ากัน

ถามว่า ในมุมมองของพรรคเพื่อไทย เราคิดว่าต้องมีคำสั่งของศาลใช่หรือไม่ นายชาญถึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่มุมของพรรคเพื่อไทย กฎหมายมันเป็นเช่นนั้น ในเมื่อกฎหมายชัดเจนว่าต้องมีคำสั่งศาล ขณะนี้ศาลยังไม่ได้สั่งอะไร จนนายชาญมีคุณสมบัติไปสมัครได้ และศาลจะสั่งเมื่อไหร่เราก็ยังไม่ทราบ เราต้องรอกระบวนการยุติธรรม

ซักว่า ประเด็นนี้เราทราบก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ รองนายกฯตอบว่า เรื่องนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ เลือกใครมาเขาคงเลือกดีแล้ว แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในพรรคมาก คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่า หากที่สุดแล้วการเข้าบริหารงานของนายชาญต้องเลื่อนออกไป จะส่งผลเสียต่อชาวปทุมธานีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าเรายังไม่รู้เลยว่าจะให้หยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องจินตนาการ เราต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศไทย คือคนจินตนาการไปก่อนที่ศาลจะตัดสิน ตนว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ มีดุลยพินิจออกมา แล้วค่อยดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่พอผลเลือกตั้งออกมาแล้วมีประเด็นนี้เกิดขึ้นทันที นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทยเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วมีเสียงวิจารณ์ ก่อนเลือกตั้งก็มีการใช้โพลที่ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง ตนจึงคิดว่ารอให้กระบวนการที่ถูกต้องดำเนินการจะดีกว่า และไม่ต้องโทษใคร ไปคิดว่าใครกลั่นแกล้งใคร ใครจะมารื้อฟื้น เพราะเรายึดกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'คปท.' ชุมนุมหน้าทำเนียบฯ จ่อปักหลักยาว หาก 'ภูมิธรรม' ได้นั่งประธาน 'JTC'

ที่สะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมรถเครื่อ

'ภูมิธรรม' เมินเสียงต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ด ธปท. ไม่ขาดคุณสมบัติก็เป็นได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกการทำงานของธปท

'ภูมิธรรม' แจง MOU ปี 44 ไม่เกี่ยวเกาะกูด เป็นของไทย 100% เอาให้ชัดจะให้ยกเลิกอะไร

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าในที่ประชุมจะมีการหยิบยกประเด็นการยกเลิกเอ็มโอยู 44 ที่เคยทำในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีพิจารณาหรือไม่

สอน 'เพื่อไทย' หัดเอาอย่าง 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองรักษาสัจวาจา

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพื่อไทย ไม่นิรโทษ มาตรา 112 ไม่แคร์มวลชน แต่แคร์พรรคร่วม