เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล


1 ก.ค.2567 - นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค ก.ก. ยังมีความนิยมเป็นอันดับ 1 ขณะที่พรรค พท.รั้งท้าย จะต้องมีการปรับยุทธศาสตร์อะไรหรือไม่ ว่า สิ่งที่ทำอยู่ก็ถือว่ามาในแนวที่ถูกทางแล้ว แต่ทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา ผลโพลก็คือผลโพล ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เรานำมาไว้เตือนใจตลอดเวลา

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าพรรค พท. โดยเฉพาะน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ก็ทำงานอย่างเต็มที่ และผลโพลนั้นเราก็จะนำมาเป็นข้อมูลที่จะปรับใช้ เพราะจริงๆ ผลโพลก็ไม่ได้บอกว่าเราต้องเปลี่ยนด้านไหนบ้าง ต้องเสริมด้านไหนอีก ฉะนั้น การบ้านของเราคือสิ่งที่เรายังขาดอยู่เราก็ต้องเข้าไปเสริมสิ่งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็มีการระบุว่าจะต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ทุกอย่างต้องมีการปรับอยู่แล้ว เพราะการทำงานของเรายังมีความห่างระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามเสริมเพื่อจะให้เชื่อมต่อกันมากขึ้น และขณะนี้รัฐบาลก็พยายามที่จะนำสิ่งต่างๆ ที่สัญญาไว้กับประชาชนมาทำให้เป็นรูปธรรมออกไปมากที่สุด

ถามต่อว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกประมาณ 3 ปี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคพท. จะสามารถพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ประชาชนกลับมาเลือกอีกครั้งได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า มั่นใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เรากำลังทำ ประชาชนจะเห็น และปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน เรามีผลงานเยอะ แต่ทุกอย่างที่เราเห็นเช่น เรื่องของผลโพลก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง และปฎิเสธไม่ได้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาล แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้รับการแก้ปัญหา

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนจะช้าจะเร็วอย่างไรก็ขอให้ประชาชนเข้าใจนิดหนึ่งว่าเราเข้ามาซ่อม มันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่ามันดีอยู่แล้ว แล้วเรามาทำให้พัง แต่หากย้อนกลับไปดูจริงๆ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมากระทั่งพรรค พท. เรายังไม่เคยได้สร้าง แบบปะติดปะต่อหรือจริงจังเลย เราเข้ามาเราก็เข้ามาซ่อม เมื่อดีขึ้นเราก็ถูกปฏิวัติมาถึงสองรอบ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจและให้เวลารัฐบาลปฎิบัติหน้าที่

“ฝากถึงสื่อมวลชนและนักวิชาการที่ตอนนี้ออกมาพูดกันจนประชาชนเชื่อสิ่งที่พวกคุณพูดกันหมดแล้ว แต่เมื่อไม่เป็นเหมือนที่คุณพูดก็ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบ ฉะนั้น นักวิชาการก็กลับไปทำงานของตัวเอง ไม่ใช่ออกมาพูดเป็นต่อยหอยเลยว่ามีดีลเช่นนั้นเช่นนี้ ทั้งที่คนอยู่ในวงในจริงๆ ผมเองก็งงว่าพูดเป็นฉากเลย แต่เราเองก็ไม่มีโอกาสออกไปตอบโต้ จึงขอฝากว่าขณะนี้ประเทศชาติและประชาชนต้องการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเมืองก็ว่ากันไปการเมือง แต่อย่านำมาปนกัน ผมอยากให้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่” นายสรวงศ์ กล่าว

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีก็ลงพื้นที่เต็มที่เพื่อไปรับฟังปัญหาของประชาชน ไม่เช่นนั้นก็ฟังแค่ส่วนกลาง ฟังแค่ราชการ การแก้ปัญหาก็ไม่ตรงจุด ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าพรรค พท. ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร และสส.ทุกคน เราทำงานเต็มที่ และมั่นใจว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 3 ปีกว่านี้เราจะทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจและผลงานของพรรค พท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' โวย 'กูรูไพศาล' ปั่นกันสนุกเลย แต่คนที่ตายคือผม ยืนยันไม่จับมือก้าวไกล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี)

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 16)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

'พิธา' อัด กกต. อย่าสองมาตรฐานคดียุบพรรค เชื่อ ก้าวไกล มีสิทธิรอด

'พิธา' บอก ยังไกลไปเยอะ หาก 'ก้าวไกล' รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ 'กกต.' มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด

ผลสำรวจนิด้าโพลชี้ ประชาชนหนุน 'พิธา' นั่งนายก ส่วน 'เศรษฐา' มาเป็นอันดับ 3

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง

จ่อสอบผู้สมัครสว.กว่า4หมื่นคน

เลขาฯ กกต.ยกคำพิพากษาศาลวินิจฉัยสมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพไม่ผิด สิทธิการรับสมัครเป็นคนละส่วนกับเอกสารรับสมัครเป็นเท็จ