‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

แฟ้มภาพ

30 มิ.ย.2567-นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีมีการสั่งการด่วนให้ รมว.มหาดไทยศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) โดยจะปรับแก้กฎหมายให้ชาวต่างชาติเช่าที่ดินได้นานขึ้นจาก 50 ปี เป็น 99 ปี และถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด เพิ่มสัดส่วนจาก 49% เป็น 75%ว่า เรื่องนี้เป็นที่น่าสงสัย โดยเฉพาะท่าทีของผู้นำรัฐบาลคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่ ตนไม่อยากให้เกียรติภูมิของนายกรัฐมนตรีต้องถูกครหาว่าเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องระมัดระวังเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

นายสรรเพชญ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายต้องการให้ต่างชาติเช่าที่ดินที่มีระยะเวลากว่า 99 ปี ซึ่งระยะเวลานานขนาดนี้ไม่มีความแตกต่างอะไรกับเรื่องการขาย เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครที่อยู่ขนาดนั้น อีกทั้งระยะเวลากว่า 99 ปีก็มากเกินความจำเป็น นอกจากนี้เรื่องของสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) จาก 49% เป็น 75% นั้น เรื่องนี้ก็มีความน่าเป็นห่วงไม่น้อย เพราะนโยบายนี้ต้องการให้ภาคอสังหาริมทรัพย์สามารถขายห้องชุดในโครงการใหญ่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น แต่ก็มีห้องชุดอีกไม่น้อยที่ยังต้องการขายและสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ก็ยังสามารถให้ชาวต่างชาติซื้อได้อยู่

ถามว่ามีเสียงคัดค้านนโยบายดังกล่าวเพราะจะทำให้เกิดโรงแรมเถื่อนมากขึ้นจากการปล่อยคอนโดให้เช่ารายวัน นายสรรเพชญ เห็นว่า นอกจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการสร้างความรบกวนให้กับลูกบ้านคนอื่น ๆ โดยตนได้ยกตัวอย่างกรณีทุนจีนตู้ห่าวที่เหมาซื้อเกือบทั้งโครงการสร้างความรำคาญจนคนไทยต้องย้ายบ้านหนี โดยตนขอตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลมีความกังวลว่าภาคอสังหาริมทรัพย์กำลังขายไม่ออกซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการชำระหนี้ธนาคารไม่ได้ตามกำหนดซึ่งนี่เป็นผลให้รัฐบาลพยายามบีบให้แบงค์ชาติลดอัตราดอกเบี้ยใช่หรือไม่ ?

นายสรรเพชญ กล่าวทิ้งท้ายว่า มาตรการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดนั้นเป็นเรื่องที่สะท้อนความแหลมคมในการบริหารจัดการภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่เพียงพอ ตนจึงเสนอว่า หากจะกระตุ้นเศรษฐกิจจริง และบรรเทาความซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ขายไม่ออกรัฐบาลควรหาแนวทางใหม่ ๆ ที่มักจะถูกมองข้าม อย่างเรื่องการปรับเปลี่ยนค่าสวัสดิการบ้านพักข้าราชการให้เป็นทางเลือกที่สามารถเลือกเช่าซื้อหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้มากขึ้น ซึ่งมองว่าเป็นแนวทางที่ดีกว่าการตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อก่อสร้างบ้านพักในทุก ๆ ปี

“เมื่อครั้งพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านก็มีการออกมาคัดค้านนโยบายขยายเพดานต่างชาติซื้อบ้านในไทยของรัฐบาลชุดที่แล้วและมองว่าอาจถูกครหาว่าเป็นรัฐบาลขายชาติได้มาวันนี้พรรคเพื่อไทยกลับมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องนี้ราวกับว่าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน ในขณะนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมีอำนาจในการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินน่าจะพิจารณาเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนอย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ศิริกัญญา' ปูดรัฐบาลวางแผนยึดการบินไทย

“ศิริกัญญา” ชวนจับตา “รัฐบาล” วางแผนยึด “การบินไทย” ส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่ม 2 คน กุมเสียงข้างมาก คลังจ่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ์ ถามเอาเงินจากไหน ไม่พ้นต้องควักเงินภาษี

'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.

'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที

'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"

'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน