30 มิ.ย. 2567 – นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 โพสต์เฟซบุ๊กระบุความเห็นถึงรายชื่อสว.ชุดใหม่ ว่า เขาคือใครและเราคือใครในประเด็นวุฒิสมาชิกชุดใหม่ ผมขอให้ความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เกี่ยวกับวุฒิสมาชิกชุดใหม่ หลังจากฟังเสียงรอบข้างมาระยะหนึ่ง
1.ผมเห็นว่าควรมีวุฒิสภามาช่วยกลั่นกรองกฏหมาย และจะดีที่มาจากสาขาอาชีพต่างๆ แม้ในครั้งนี้จะมีปัญหาอยู่บ้างในระบบขั้นตอนของการได้มาตามกฏหมายในครั้งนี้ ที่เมื่อเราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วค่อยแก้ไขในโอกาสต่อไป แต่ก็ถือว่าแนวนั้นมาถูกทางแล้ว
2.ผมไม่เห็นด้วยกับการมีวุฒิสมาชิกมาจากการแต่งตั้ง แม้เคยเห็นการแต่งตั้งวุฒิสมาชิกที่ดีที่สุดในสมัยท่านนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา โดยคณะกรรมการที่เป็นอิสระ แม้แต่คนที่ท่านเสนอเห็นว่าเหมาะสม แต่ยังต้องถูกกรรมการคัดออก หรือผมเคยได้รับมอบหมายให้ทาบทามบุคคลมาเป็นวุฒิสมาชิกภาคเกษตรท่านหนึ่งในภาคใต้ ผมโทรไป ลูกสาวบอกว่าพ่อไม่อยู่ไปตัดยางในสวนกลับเย็นๆ เขาเป็นเกษตรกรธรรมดาได้เป็นวุฒิสมาชิกในครั้งนั้นด้วย ผ่านมา20กว่าปีแล้ว เขายังทำงานให้เกษตรกรอยู่จนปัจจุบันเพราะเขาเป็นตัวแทนอาชีพเกษตรกรจากรากหญ้าจริงๆ
3.ผมไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกโดยตรง เพราะจะเกิดปัญหาตัวแทนประชาชนซ้อนกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้แทนประชาชนกันแน่ และที่สำคัญจะถูกแทรกแซงและครอบงำโดยตรงจากฝ่ายการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ใช่การเข้ามาเกี่ยวข้องโดยอ้อมเหมือนครั้งนี้
4.ผมไม่เห็นด้วยกับการไปด้อยค่าวุฒิสมาชิกชุดนี้ เพราะผมคิดว่าเราเป็นแค่บุคคลคนหนึ่งในสังคมนี้ เราไม่มีสิทธิที่จะไปให้ความเห็นเช่นนั้น เราด่าว่าวุฒิที่มาจากหอคอยงาช้าง หรือมาจากการแต่งตั้ง แต่พอเราได้จากกลุ่มที่มาจากอาชีพต่างๆ และบ้างก็มาจากรากหญ้าโดยตรง เราก็ไปด้อยค่าเขาอีก คำถามกลับมาที่ต้วเราเองว่าเราเป็นใคร สูงส่งแค่ไหนถึงมีสิทธิให้ความเห็นเช่นนั้นได้
5.ผมอยากให้ กกต. ไปดำเนินการตรวจสอบไปตามกฏหมายที่เขามีหน้าที่และอำนาจไม่ใช่ตามที่เราอยากให้เป็นไป จากนั้นให้วุฒิสมาชิกที่ผ่านการตรวจสอบทำหน้าที่ของเขากันไปก่อนกันถึงค่อยมาใช้สิทธิว่ากล่าวเขาตามที่ควรเป็น เพื่อบ้านเมืองไม่ใช่เพื่อความสะใจของเราเอง
6.ผมแค่เป็นคนที่มองโลกตรงไปตรงมาในแง่ดี เพราะผมเองคิดว่าผมก็แค่คนๆหนึ่งที่ทำงานทางการเมืองแม้จะยาวนาน แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ฝ่ายไหนที่สูงส่งกว่าใคร ผมเคารพทุกๆคนที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง และผมไม่ชอบการยกตนข่มท่าน ว่าใครดีกว่าใคร เพราะมันวัดกันที่ใครจริงใจกับประเทศชาติและประชาชนมากกว่าใคร ซึ่งมันวัดกันยากมาก ต้องใช้เวลาพิสูจน์คนทางการเมือง
เราควรจะให้เวลากับท่านสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้กันสักระยะหนึ่ง โดยไม่ดูถูกความเป็นเพื่อนร่วมชาติผู้เสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่กันไม่ดีกว่าหรือ? ครบปีแล้วค่อยมาว่ากล่าวกันก็ยังทันครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สว. ถกปัญหาแอปกู้เงินผิดกฎหมายบนมือถือ ไม่ใช่แค่ 2 ยี่ห้อดัง ยังมีเกลื่อนบนแอปสโตร์
นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งอยู่ใน กมธ.การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
'นิกร' แนะรัฐถอดบทเรียน ยอดตายบนถนนพุ่ง 8% ชี้ประเด็นสำคัญ ขับเร็ว ไม่ใช่เมาแล้วขับ
นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงาน บริหารจัดการ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเ
'นิกร' เชื่อแก้รธน. มาตรา 256 ฉบับพรรคส้ม โอกาสผ่านยาก เหตุหักอำนาจ สว.
นายนิกร จํานง เลขานุการกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และหมวด 15/1
ฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าดาวดับคู่
สื่อสภาตั้งฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' – 'เนวิ(น)เกเตอร์' สภาสูง 'วันนอร์' รูทีนตีนตุ๊กแก – ประธานวุฒิฯ 'ล็อกมง' – ผู้นำฝ่ายค้านฯ 'เท้งเต้ง' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าคู่ 'ดาวดับ' ยกขันหมาก 'พท.-ปชป.' เหตุการณ์แห่งปี
สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา
‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน