'เศรษฐา' ขนรัฐมนตรีลงพื้นที่อุบลราชธานี

29 มิ.ย.2567 - ที่จังหวัดอุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังบริเวณสี่แยกคําน้ําแซบ อำเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามโครงการก่อสร้าง “แยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงที่ 231 และ ทางหลวงหมายเลข 226 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์

นอกจากนี้ยังมี สส.พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ อาทิ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี เขต 1 น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี เขต 3 น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี เขต 7 น.ส.ธัญญารีย์ สันตพันธ์ สส.อุบลราชธานีเขต 6

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังนำ สส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมลงพื้นที่กับนายกฯด้วย อาทิ นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษเขต 8 พรรคภูมิใจไทย นายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ เขต 3 พรรคภูมิใจไทย น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี เขต 8 พรรคภูมิใจไทย นายสุทธิชัย จรูญเนตร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 5 พรรคภูมิใจไทย และนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญเขต 1 พรรคภูมิใจไทย

เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับและถ่ายรูปร่วมกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ขณะที่บางคนได้ทวงถามถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ จากนั้นนายกรัฐมนตรีฟังบรรยายสรุปการดำเนินโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมายังศาลาประชาคมบ้านผึ้งออก ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ และได้ซื้อลอตเตอรี่ที่แม่ค้านำมาขายหลังโอดครวญว่าช่วงนี้ขายไม่ค่อยดี โดยนายกรัฐมนตรีตั้งใจจะซื้อหมายเลข 27 ซึ่งตรงกับเลขทะเบียนรถ แต่ปรากฏว่าที่แผงดังกล่าวไม่มี จึงให้คณะทำงานเป็นคนจัดการ โดยระบุว่าเลือกหมายเลขอะไรก็ได้เพราะไว้ใจ

จากนั้นนายกฯรับฟังปัญหาในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขการเกิดอุทกภัย โดยนายกฯได้สอบถามเรื่องปริมาณและสถานการณ์น้ำในปีนี้ของอุบลราชธานีจะเยอะกว่าปีที่แล้วหรือไม่ และกำชับว่าเมื่อปีที่แล้วน้ำไม่ท่วม ปีนี้น้ำก็ต้องไม่ท่วม ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า “ปีนี้เอาอยู่”

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้มอบพันธุ์ปลา จำนวน 120,000 ตัว ให้กับประชาชนในพื้นที่ และมอบพันธุ์โคกระบือเพื่อการเกษตร ตามพระราชดำริ จำนวน 60 ตัว ก่อนกล่าวกับประชาชน โดยได้แนะนำรัฐมนตรีที่ร่วมลงพื้นที่ทั้งหมด พร้อมระบุว่า ที่กล่าวรายชื่อทุกคนมายาว มีหลายท่านมา พี่น้องคงรู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นปึกแผ่น มีรัฐมนตรี รองนายกฯจากทุกพรรค ขาดพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเดียว ที่มาวันนี้เห็นความสำคัญของปัญหาพี่น้องชาวอุบลฯครบทุกมิติไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกษตรกร ซึ่งวันนี้ได้มีการมามอบโคกระบือและพันธุ์ปลารวมถึงปัญหาของน้ำถือเป็นเรื่องใหญ่สุดสำหรับชาวจังหวัดอุบลฯ เรื่องของถนน ซึ่งช่วงเช้าได้ไปดูการก่อสร้างถนน เพื่อลดอุบัติเหตุทำให้การจราจรไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ได้ดูเรื่องวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การหล่อเทียนแห่เทียนพรรษา หากเป็นไปได้จะกลับมาอีกในวันที่ 20 - 21 ก.ค.นี้ เข้าใจว่าเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่มาก มีคนมาเป็นแสนคน และมีชาวต่างชาติมาด้วย จึงอยากจะสนับสนุนให้เป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่เกิดความภาคภูมิใจของชาวอุบลราชธานีทุกท่าน

นายกฯกล่าวว่า และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วปัญหาใหญ่ของจังหวัดอุบลฯนอกเหนือจากปัญหาเรื่องยาเสพติดแล้ว รัฐบาลได้มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ได้เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ดและจะทำให้เป็นจังหวัดสีขาวให้ได้ภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ และเราจะมาเอานโยบายและหลักการทำงานมาทำให้จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดสีขาวในโอกาสต่อไป

นายกฯ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่สำคัญที่มาที่นี่ซึ่งได้มา 2 ครั้งแล้วระหว่างนี้ได้มีการพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัสและนายอนุทิน เกี่ยวกับน้ำท่วม ที่ท่วมแล้วท่วมอีก และน้ำแล้งที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างทั้งหมด เรารู้หากมีท่วมมีแล้งเศรษฐกิจก็ไม่ดี พี่น้องก็เดือดร้อน รัฐบาลสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ วันนี้เรามีนโยบายระยะสั้น กลาง ยาว ครบวงจร ทำให้จังหวัดอุบลราชธานีและอีสานตอนล่างจะไม่ท่วมไม่แล้งตลอดไป ทั้งนี้ปีที่แล้วถือเป็นปีแรกของหลายๆปี ซึ่งปริมาณน้ำไม่ท่วม ถึงท่วมก็ท่วมน้อยกว่าปีอื่นและเป็นปีแรกที่เราไม่ได้มาใช้เงินอย่างเดียว แต่มีการใส่ใจ จึงให้ร.อ.ธรรมนัส และอธิบดีกรมชลประทาน สำนักนายกฯ มหาดไทย ให้ความสำคัญก่อนจะถึงหน้าฝนใหญ่เดือนต.ค. ซึ่งจะมีการปล่อยน้ำ ต้องบริหารจัดการน้ำก่อนทำให้จังหวัดอุบลฯน้ำไม่ท่วมหรืออาจจะมีท่วมบ้างก็ต้องเล็กน้อย ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนของภาครัฐบาลที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

เปิดคำวินิจฉัยส่วนตน ประธานศาลรธน. 1 ใน 4 ตุลาการ : ความเป็นรมต.ของ 'เศรษฐา' ไม่สิ้นสุดลง

สืบเนื่องจาก ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพา

โถ! อ้าง 'ชัยเกษม' วืดนายกฯ ชี้ชัด 'นายใหญ่' ไม่ได้ครอบงำเพื่อไทย

'วิสุทธิ์' ไม่กังวลปมร้องยุบเพื่อไทย กรณี 'ทักษิณ' ครอบงำพรรค ชี้หากสั่งได้จริง 'ชัยเกษม' นั่งนายกฯ ไปแล้ว อ้างแนะนำได้ ขึ้นอยู่ พท. จะทำตามหรือไม่

ชัยชนะยกแรก“ทักษิณ” บ้านป่าฯแตก-ผู้เฒ่ากระอัก

พลิกสถานการณ์กลับมาชนะสำหรับ “นายใหญ่เพื่อไทย”-ทักษิณ ชินวัตร หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกฯ ถูกสอยปมตกเก้าอี้ จากการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ในเรื่องความซื่อสัตย์และจริยธรรม

'อนาคตไกล' เตือนนายกฯอิ๊งค์ ระวังซ้ำรอย 'เศรษฐา' แนะต้องรอบคอบแต่งตั้งรมต.

นายภูษิต มิ่งขวัญ รักษาการเลขาธิการพรรคอนาคตไกล หยิบยกคดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ในสาระสำคัญเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต