'ปลอดประสพ' อัดเลือกสว. อัปลักษณ์ที่สุดในศตวรรษ

29 มิ.ย.2567 - ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าการเลือกตั้งสว.ที่อัปลักษณ์ที่สุดในศตวรรษ

การเลือกตั้งสว.ใหม่หลังจากที่รอคอยมานานถึง 9 ปีก็มาถึงจนได้ และจบลงอย่างทุลักทุเลและทุเรศที่สุด ในสายเกษตรและประมง มีลูกน้องและลูกศิษย์ติดเข้ามาถึงระดับจังหวัด 3 คน เป็นอดีตข้าราชการระดับ 10 หนึ่งคน 9 สองคนโดยมีการศึกษาระดับปริญญาเอก 2 คน ในสายสิ่งแวดล้อมก็ยังมีอีก 4 คนเป็นระดับ 10หนึ่งคนที่เหลือระดับ 9 ทุกคนจบปริญญาโทหมด ในจำนวนทั้งหมด 7 คนนี้ สุดท้ายได้มาคนเดียวคือคุณชีวภาพ ชีวะธรรมศิริ หรือที่ผมเรียกว่า ต้อย เขาเคยเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้และผู้ตรวจราชการกระทรวงทส. เขาลาออกก่อนเกษียณถึง 8 เดือนเพื่อเตรียมการเป็นสว. ซึ่งก็โชคดี (มาก) ที่สุดเขาได้เป็นสว.ของจังหวัดสิงห์บุรี ผมเชื่อมั่นว่า เขาจะทุ่มเททุกอย่างให้กับส่วนรวม เพราะเห็นเขามาแต่เด็ก

ผมพยายามทำความเข้าใจกับการออกแบบการเลือกตั้งครั้งนี้ในประเด็นคุณวุฒิการศึกษาว่า เกิดอะไรขึ้น คือไม่กำหนดระดับปริญญาตรีเป็นเกณฑ์ต่ำสุด ทำให้ผู้ที่ได้เป็นสว.ในครั้งนี้จำนวนไม่น้อยจบ ป.7 หรือมัธยมต้น ส่วนคุณสมบัติซึ่งมันควรจะหมายถึงความเชี่ยวชาญ (หากคิดแบบผู้ที่เจริญแล้ว) จะเห็นว่ามันโหล่ยโถ้ยเหลือเกิน อะไรกันครับ เป็นผู้เชี่ยวชาญขับรถ เป็นผู้เชี่ยวชาญเสียงตามสาย เป็นผู้เชี่ยวชาญขายผักขายปลา ขายเครื่องสำอางค์ มันจะไหวหรือครับในยุคAIซึ่งเขาไปถึงดาวอังคารกันแล้ว ขนาดผมมีปริญญาเอกอยู่ในกระเป๋าถึง 3 ใบ เป็นนักการเมืองมาเกือบ 20ปี เป็นประธานกรรมาธิการมาแล้ว 2 คณะ และเป็นกรรมธิการอีกกลายสิบคณะจนจำไม่ได้ เวลาประชุมผมยังไม่เข้าใจในเรื่องสารัตถะและครรลองของกฎหมายได้อย่างแจ่มแจ้งเลย เมื่อวานนี้ผมทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ มีการถกเถียงกันจนหาที่ลงไม่ได้ ผมปวดหัวจนความดันขึ้นต้องเรียกหมอมา แล้วพวกคุณเป็นใคร ที่จะมาทำหน้าที่แบบนี้ หรือคุณนึกว่า มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ลูกศิษย์ผมที่สมัคร ได้มาเล่าให้ฟังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีการจัดตั้งกันขนานใหญ่อย่างออกหน้าออกตา มีการเสนอเงินทองในช่วงสุดท้ายของการเลือกไขว้ ให้ถึงหัวละ 1 ล้านบาท มีการชวนให้ไปร่วมสัมนาที่โรงแรมเกือบ 20 แห่ง (มีจุดสำคัญ 3 แห่ง) ออกค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก และแถมpocket money สำหรับการแลกเปลี่ยนการลงคะแนน มีทั้งจริงและทั้งปลอม วันสุดท้ายถามว่า จะเอายังไง ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะส่งโผมาให้ 5 ชื่อซึ่งเตรียมเผื่อไว้แล้วกันพลาดถึง 3-400คน (ทำไมรวยกันจัง) ขนาดผมยังรู้ กกต.ซึ่งถ้าตาไม่บอดหูไม่หนวกก็ควรจะรู้มากกว่าผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะคิดว่า คุณซูเอี๋ยกับผู้ร่างกฎหมายมาแต่ต้น

สุดท้ายผมอยากจะยืนยันในฐานะผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในสายสิ่งแวดล้อมที่ผมเป็นทั้งปลัดกระทรวงและอธิบดีถึง 4 กรมว่า ไอ้ที่ได้มาผมรู้จักแค่คนเดียว ส่วนสายเกษตรที่ผมเคยเป็นอธิบดีมา 3 กรมและเป็นรองปลัดกระทรวง กลับจะหาคนที่รู้จักสักคนยังชั้นยากเลยครับ แล้วอย่างนี้ที่พูดว่า ต้องการหาตัวแทนสาขาอาชีพ มันก็ไม่ใช่สิครับ พูดเสียสวยหรูแต่พออ้าปากเห็นแต่หนอน ผมขอจบแบบนี้ครับ กกต. ต้องทำงานหนักเพื่อใช้หนี้บาปในครั้งนี้ คุณต้องคัดนักหลอกลวงต้มตุ๋นออกไปให้หมด ซึ่งผมเชื่อว่า อาจมีถึง 100 คน ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้ลาออกเสีย ถ้าเป็นภาษาอังกฤษเขาจะพูดว่า You better go to hell!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทพไท' เรียกร้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม รวมคดี 112 ด้วย

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พรบ.นิรโทษกรรม:ปรองดองจริงหรือ?" ระบุว่ากรณีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.

กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'

“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง

ดร.เสรี ถามลั่น มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เกิดขึ้นกี่โมง?

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาอดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทำงานไม่เป็น ไม่เห็นผลงานเชิงประจักษ์ใดๆ ที่หาเสียง

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 45: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 อันเป็นพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร