23 มิ.ย.2567-นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงโฉมหน้าวุฒิสภาชุดใหม่ 2567 ที่จะมีการเลือกระดับประเทศกันวันพุธที่ 26 มิ.ย.นี้ โดยประเมินว่า หลังการเลือกสว.เสร็จสิ้นลงคงมีการร้องเรียนกันแน่ แต่กกต.คงใช้วิธีการเดิมคือ รับรองการประกาศรายชื่อไปก่อน แล้วค่อยไปสอยทีหลัง ซึ่งอันนี้จะเป็นปัญหาเพราะว่าที่ผ่านมา กกต.ก็ใช้วิธีการแบบนี้กับการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศที่ผ่านมาล่าสุด แล้วปรากฏว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา กกต.ไม่ได้ทำหน้าที่ในส่วนนี้ได้แบบในเชิงประจักษ์ให้คนเห็นเลย ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการร้องเอาผิดมาตรา 157 ตามมา ในเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ฯ ก็คือใช้วิธีการผลักปัญหาให้ไกลตัวเอาไว้ แล้วทิ้งปัญหาเอาไว้แล้วก็ทำลืมๆกันไป ผมเข้าใจว่า กกต.คงใช้วิธีการแบบนี้คือประกาศไปก่อน โดยอ้างว่าจะสอยทีหลังแล้วก็ไม่สอย แต่ดูแล้วคงมีคนไปร้องเรียนเยอะ เพราะมันผิดสังเกตุหลายๆ อย่าง มีสัญญาณบางอย่างที่เห็นได้
นายโอฬาร ประเมินว่า สำหรับภาพรวมของสว.ชุดใหม่หลังจากนี้ เมื่อดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่า สว.ที่จะเข้าไป ก็จะมีกลุ่มหลักๆ คือ หนึ่ง ตัวแทนของกลุ่มอำนาจเก่า มีเข้าไปแน่นอน สอง ตัวแทนกลุ่มทุนที่มีอิทธิพลเหนือรัฐ สาม กลุ่มตัวแทนของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมือง ก็จะแบ่งเป็นพรรคแดง กับพรรคส้ม สี่ คือสัดส่วนของสว.สายประชาชน ที่อาจจะเป็นสัดส่วนที่น้อย ซึ่งหากถามว่าทำไมต้องมีส่วนนี้ด้วย ก็เพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรม ให้เห็นว่า ยังมีสว.จากประชาชน แต่จะมีสักประมาณ 10-20 คน เพื่อที่จะได้ไม่ให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
เมื่อถามถึงว่า บางคนก็มองไปข้างหน้าเรื่องตำแหน่งต่างๆในวุฒิสภาแล้วเช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ อาจจะมาเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ นักวิชาการผู้นี้ ยอมรับว่า ก็อาจมีความเป็นไปได้ เพราะโดยคุณสมบัติ และโดยลักษณะจังหวะก้าวทางการเมืองของนายกฯตัวจริง และเขาก็อยู่ในสถานะน้องเขย และยังเคยเป็นอดีตนายกฯ มีพรรคการเมืองสนับสนุน ที่ก็ทำให้มีโอกาสมากที่จะเป็นประธานวุฒิสภา ที่ก็เป็นวิธีการในสไตล์การเดินจังหวะทางการเมืองของนายทักษิณ ที่ต้องการกุมสภาพต่างๆให้ได้ คือบางคนไปมองสว.ชุดใหม่เพียงแค่ว่าจะเข้าไปโหวตเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือไปเลือกผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะแม้สว.ชุดใหม่จะโหวตเลือกนายกฯไม่ได้ แต่สามารถปลดนายกฯได้ ผ่านองค์กรอิสระเช่น ป.ป.ช.หรืออย่างตัวอย่างกรณีกลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นคำร้องคดีนายเศรษฐา ทวีสิน ในเวลานี้
“นายทักษิณ เขาฉลาด คือเขาเห็นแล้วว่าตอนนี้พื้นที่การเมือง ไม่ว่าอย่างไรเสีย ดูจากผลโพล์ต่างๆก่อนหน้านี้ พื้นที่ซึ่งยึดครองการเมืองคือก้าวไกลกับเพื่อไทย เพียงแต่หลายคนไปมองว่า เพื่อไทยกับก้าวไกล เวลานี้คือฝ่ายตรงข้ามกัน แต่ถามว่าในอนาคตหากก้าวไกลได้ส.ส.มาอันดับหนึ่งหลังเลือกตั้ง ใครจะจับมือกับก้าวไกล ถ้าไม่ใช่เพื่อไทย เพราะก้าวไกลไม่มีทางได้สส.สามร้อยเสียงขึ้นไป และหากสองพรรค คุมสว.ได้มันก็จบ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐสภา ถกแก้ข้อบังคับ 'สว.-รทสช.' รุมค้านเปิดทาง 'คนนอก' ร่วมวงกมธ.แก้รธน.
ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่…) พ.ศ…. เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บั
อ.แก้วสรร ออกบทความ ‘ความรับผิดชอบ’ ในคดีชั้น 14
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบ”ในคดีชั้น ๑๔ โดยมีเนื้อหา ดังนี้
เปิดแนวรบใหม่! 'ทักษิณ' เหน็บ 'นิด้าโพล' อยู่ตรงข้าม เจาะจงเรื่อยๆ เจาะจงมากเลย
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลโพลร
หวั่นเวชระเบียน'ทักษิณ'จุดชนวน รพ.ตำรวจอึมครึม คปท.ยกระดับ!
ขีดเส้น 15 ม.ค.นี้ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ได้ส่งหนังสือถึง พล.ต.ท.นพ.นพศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ จัดส่งเอกสารทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เวชระเบียนการรักษาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กระทั่งออกจาก รพ.ตำรวจ โดยมี นพ.อมร ลีลารัศมี อดีตกรรมการแพทยสภา เป็นประธานอนุกรรมการสอบ
ป.ป.ช. ตั้งที่ปรึกษาองค์คณะไต่สวน คดีเอื้อทักษิณนอนชั้น 14 ให้แจ้งคืบหน้าทุก 1 เดือน
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เ
'รมว.ยธ.' แนะ 'รพ.ตำรวจ' โชว์โปร่งใส ส่งเวชระเบียน 'ทักษิณ' ให้ ป.ป.ช.
'รมว.ยธ.' แนะ รพ.ตำรวจ ส่งเวชระเบียนรักษา 'ทักษิณ' ให้ ป.ป.ช. สร้างความโปร่งใสมีธรรมาภิบาล อ้างกรมราชทัณฑ์ให้ความร่วมมือตลอด