'สุทิน' ผิดหวัง 'วิโรจน์' ไม่ให้คำชมหลังปรับลดกำลังพล จ่อจัดงบแบบใหม่เน้นยุทธศาสตร์ประเทศ

'สุทิน' ผิดหวัง 'วิโรจน์' ไม่ให้คำชม หลังปรับลดกำลังพล แต่บอกลดตามธรรมชาติ ไม่ใช่ฝีมือ รมว.กลาโหม ยันขอให้สบายใจปมตัดเงินทหาร หากพบผิดต้องถูกลงโทษ เผยเตรียมจัดงบฯแบบใหม่ เน้นเอายุทธศาสตร์ประเทศเป็นตัวตั้ง

21มิ.ย.2567- ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เป็นวันที่สอง เวลา 21.00 น. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นชี้แจง โดยกล่าวถึงการอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า "ไม่โกรธกันนะ ท่านวิโรจน์อภิปราย 80% แบบวาระที่ 2 รายละเอียดเยอะ ผมจึงจะตอบแบบวาระที่ 1 หรือแบบรับหลักการ ส่วนเรื่องรายละเอียดรายบรรทัดจะยกไปวาระที่ 2 แต่หากยังไม่สบายใจก็จะให้กองทัพชี้แจง"

นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องที่บอกว่ากองทัพเบิกงบล่าช้า ก็เป็นเรื่องจริง ไม่ถึงตามที่รัฐตั้งเป้าไว้ แต่ในวันนี้เราได้ทะลุเป้าไปแล้ว ถ้าเทียบกับเป้าหมายของรัฐ เราทำได้ตามกรอบ และเกณฑ์ด้วย และมั่นใจว่าเวลาที่ที่เหลือก่อนสิ้นปีงบประมาณนี้ งบประมาณทุกบาทของกองทัพจะใช้ทัน รวมทั้งใช้ในปีนี้ และงบผูกพันด้วยขอให้สบายใจได้

เรื่องต่อมา คือเรื่องโครงสร้างงบประมาณที่ท่านบอกว่าบุคลากรเยอะ จนไม่มีงบไปพัฒนา ก็ยอมรับว่าถูกต้อง แต่งบบุคลากรเยอะเป็นปัญหาของประเทศ ทุกกระทรวงเจอปัญหานี้หมด เราจึงตั้งคณะกรรมการที่คุมการขยายตัวของงบบุคลากรแต่ไม่ได้ผล และวันนี้ขอให้ไปดูว่ามีกระทรวงไหนที่งบบุคลากรลด มีเพียงกระทรวงเดียวคือกระทรวงกลาโหม

“ซึ่งวันนี้ผมตั้งใจจะมารับคำชมจากท่าน เพราะงบปี 67 ท่านเป็นคนท้วงกับผมเองว่า เข้ามาแล้วจะปรับลดกำลังพล พอมาปีนี้ตัวเลขนี้มา ตั้งใจจะมาเอาคำชมจากท่านวิโรจน์ แต่ผิดหวังเลย ท่านไปอีกแบบ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวอีกว่า นายวิโรจน์กลับมาบอกว่าเป็นการลดธรรมชาติ ไม่ใช่ฝีมือรัฐมนตรี ซึ่งควรจะชมตนสักหน่อย เพราะกระทรวงอื่นไม่ลด แต่กลาโหมลดตามที่ท่านอยากเห็นด้วย ปีที่แล้วไม่เห็น ปีนี้เห็นเลย ซึ่งคนมันเกษียณมันจะต้องลดอยู่แล้วทุกกระทรวง จึงไม่รู้ว่าท่านไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ เพราะทุกกระทรวงมีเกษียณแต่ไม่ลด เพราะเมื่อเกษียณก็เอาอัตรานั้นมาบรรจุแทนจึงทำให้งบนั้นไม่ลด แต่ของตนไม่ตั้งแทน จึงทำให้งบลดลง จึงอยากให้นายวิโรจน์ชมตนเสียหน่อยเพราะไม่ใช่การลดแบบธรรมชาติ แต่ตนเองขอไม่ให้เขารับเพิ่มมาบรรจุอีก

"ส่วนที่ถูกปรับลดก็เป็นพวกนายพลทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งลอยๆ ผมก็ไปลดกลุ่มพวกนี้ จึงคาดว่าน่าจะถูกใจท่าน แต่วันนี้กลับมาบอกว่าทำไมถึงไม่รถทุกตำแหน่งหลัก จึงถามว่าถ้ารถพวกตำแหน่งหลัก แล้วใครจะมาทำงานให้ ปัญหาที่เรากำลังพูดกันคือพวกนายพลที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก ไม่ควรมีหรือมีน้อย ตนก็ได้ดำเนินการแล้ว รวมถึงจะให้ได้ชัดที่สุดคือเมื่องบปร 68 ผ่าน โครงการ early retire โครงการ 2 ที่ให้ทั้งเงินและยศด้วย ซึ่งกองทัพได้คุยกันเองว่าอย่าพึ่งประชาสัมพันธ์มาก เพราะจะทำให้คนแห่มาเข้าโครงการเยอะ และยืนยันว่ามี 2 แผนด้วย"

นายสุทิน กล่าวต่อว่า งบ ปี 68 ที่จะผ่านในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เรามั่นใจว่านายพลจะเข้าเยอะ และตอนนั้นนายพลหรือตำแหน่งลอยก็จะลดลง แต่ในขณะที่เรากำลังลดกำลังพลอยู่ในขณะนี้ ตนได้มองหน้ามองหลังแล้วเกิดคำถามว่า มีประเทศไหนบ้างที่รถกำลังพลเหมือนเรา และวันนี้บรรยากาศของโลกก็เริ่มกลับมาสร้างกองทัพกันทั้งนั้น เพราะประเทศยูเครนกับอิสราเอลที่เป็นสัญญาณเตือน รวมถึงทะเลจีนใต้ ซึ่งการปรับลดกำลังพลในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะเป็นนโยบายที่ถูกต้อง แต่หลังจากนี้จะถูกหรือไม่เราก็ต้องทบทวนกันดู

"ฉะนั้น การปรับลดกำลังพลเราก็ดำเนินการเดินหน้าตามที่เราประกาศไว้ แต่ในขณะที่เราลดไปเราก็จะคิดว่าจะเอายังไงต่อไป เพราะตอนนี้ทั่วโลกก็ต่างนำกฎหมายการเกณฑ์ทหารกลับมาเพื่อเพิ่มกำลังพล "

รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ส่วนเรื่องการจัดซื้อโดรน ก็ขอขอบคุณที่ช่วยเตือนตนเองก็พูดกับผู้นำเหล่าทัพตลอด ว่าสงครามในสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่ง 4 เหล่าทัพได้ประชุมกัน และประกาศจุดยืนว่าประเทศไทยจะเดินหน้าพัฒนาโดรน ส่วนที่ท่านไม่สบายใจว่าจะมีจำนวนไม่พอทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ มีเพียงการลาดตระเวน ขอให้ท่านสบายใจได้ว่าวันนี้เรามีเพียงพอ โดยในทุกวันนี้เรามีสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ลงนามกับต่างชาติในการสามารถผลิตโดรนเองได้

ส่วนที่นายชยพล สท้อนดี สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แนะนำแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ แน่นอนว่าตนเคยประกาศอยากตั้งกองทัพที่ 4 หรือกองทัพไซเบอร์ วันนี้เราได้ทำแล้ว โดยยกฐานะไซเบอร์ทางทหาร ดังนั้นการที่นายชยพลพูดถึง จะอยู่ในโครงการศูนย์บัญชาการไซเบอร์ทางทหาร ที่จะศึกษาอย่างเป็นระบบและเดินหน้าสู่กองทัพไซเบอร์

นายสุทิน ยังกล่าวถึง ความมั่นคงทางอาวุธ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เรายืนยันว่าเราเอาจริง โดยศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและสถาบันป้องกันประเทศ เป็นหลักที่เพิ่มงบให้ เพื่อที่จะเร่งวิจัยสู่สายผลิต และการขาย ซึ่งเรามีแผนที่ชัดเจน แต่ตอนนี้เรากำลังนำกฎหมายมาดูเพื่อที่จะแก้กฎหมายทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคในการส่งเสริมเอกชน จึงได้สั่งการว่าภายในปีหน้า ก็จะเริ่มซื้อยุทโธปกรณ์ที่สามารถผลิตได้ในประเทศให้กระทรวงกลาโหม และเราทำซื้อแบบเป็นขั้นบันได แล้วทำเอกชนแข็งแรงไปด้วย

ส่วนเรื่องการหักเงินทหารเกณฑ์ ยอมรับว่าพวกเราไม่สบายใจ เพราะเรามีนโยบายเรื่องการสร้างแรงจูงใจให้คนมาสมัคร การทำแบบนี้มันสวนทาง ซึ่งหากมีการหักเงินแบบที่เป็นข่าวตนจะจะเป็นคนแรกที่เจ็บปวดมากที่สุด จึงได้สั่งให้ไปดูก็พบว่ามีข้อเท็จจริงอยู่บ้างว่ามีการหักแบบนี้อยู่ เป็นค่าเพิ่มเติมที่พลทหารไปตกลงกัน แต่ที่บอกว่ามีค่าดูดส้วมกับค่า Wi-Fi ยืนยันว่าไม่เคยมีแน่นอน ตนก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบย้อนหลังถ้ามีก็คือผิดชัดเจน จะต้องถูกลงโทษ เพื่อที่จะให้ได้รับเงินเดือนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคำสั่งที่สำคัญที่สุด จะหาอะไรก็ต้องให้ได้รับความยินยอมจากทหาร ราคาต้องเป็นธรรม จึงได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาออกไปสอดส่อง

จากนั้น นายวิโรจน์ ได้ลุกขึ้น อภิปรายเพิ่มเติมว่า ตนต้องการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเพราะสำนักงานปลัดกลาโหม มาชี้แจงกับ กมธ.การทหาร ที่ได้รับคำตอบว่าไม่ได้มีการปิดอัตรา ซึ่งหลังจากนี้ ตนก็จะทำหนังสือถึงรมว.กลาโหม ขอหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรชัดๆ ว่า สรุปแล้ว ในตำแหน่งนายพลที่เกษียณ มีการปิดอัตราหรือไม่

นายสุทิน ยังกล่าวถึง การจัดงบกองทัพแบบโควตา ตามเหล่าทัพนั้น มองว่า เป็นปัญหาที่กองทัพพูดคุยมานาน ตอนนี้จากการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด เราได้บรรลุถึงระดับหนึ่ง จะตั้งคณะทำงานจัดงบแบบใหม่หรือแบบแพ็คเกต เอายุทธศาสตร์ของประเทศเป็นตัวตั้ง วิเคราะห์ภัยความมั่นคงว่ามาแบบไหน คาดว่าจะเริ่มในงบปี 2569 ที่จะชั่งนำหนักระหว่างเหล่าทัพใหม่ ไม่แยกกันซื้อ ไม่ต่างคนต่างซื้อ ซึ่งจะทำให้ รบร่วมกันได้ และมีความเป็นไปได้ ที่จะสำเร็จยุคนี้ 1 ยุทธศาสตร์ 1 ยุทธโทปกรณ์ แต่แยกการซื้อ ตามแต่นิติบุคคล ที่จะตอบโจทย์ทุกอย่างให้กับกองทัพของเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ชม 'สุทิน' เข้าใจงานทหาร จวก 'วิโรจน์' พูดเอามัน หนีไม่พ้นพาดพิง 'บิ๊กตู่'

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายงบประมาณปี 2568 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม

'ทวี' แจงปม 'แป้ง นาโหนด' กรมราชทัณฑ์สอบข้อเท็จจริงใกล้เสร็จแล้ว ระดมทุกอย่างแก้ยาเสพติด

'ทวี' แจง ปม 'แป้งนาโหนด' กรมราชทัณฑ์ สอบข้อเท็จจริงใกล้เสร็จแล้ว ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ รับยาเสพติดเป็นโจทย์ใหญ่ ต้องเปลี่ยนเรือนจำเป็นสถาบันปฏิรูปคน-ระดมทรัพยากรทุกอย่างแก้ปัญหา

'จุลพันธ์' ยันไม่ให้เงิน 'กรมบัญชีกลาง 'เป็นอุปสรรค แก้ปัญหา PM 2.5 พร้อมหนุนเต็มที่

'จุลพันธ์' ยัน จะไม่ให้เงินของ กรมบัญชีกลาง เป็นอุปสรรค แก้ปัญหา PM 2.5 ย้ำ รัฐบาล' ให้ความสำคัญ คือการส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือ บอก ไม่ต้องกังวลเรื่องงบขาดพร้อมสนับสนุนเต็มที่

'ภูมิธรรม' เบรก 'สุทิน' ไม่จำเป็นต้องเดินสายชี้แจงงบกลาโหมให้ทุกพรรคทราบ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการเตรียมพร้อมอภิปรายร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี2568 ระหว่างวันที่ 19 -21 มิ.ย.ว่า รัฐบาลกำหนดให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลในสัดส่วนของรัฐมนตรี

'สุทิน' มั่นใจ หุ้นเมีย ไม่ใช่จุดตาย เหตุต่างจากคนอื่นในอดีต ไม่มองถูกถูกเลื่อยขาเก้าอี้

รมว.กลาโหม มั่นใจ หุ้นเมีย ไม่ใช่จุดตาย เหตุต่างจากคนอื่นในอดีต ไม่มองถูกถูกเลื่อยขาเก้าอี้ แค่บังเอิญถูกร้องช่วงนี้ ระบุแล้วแต่จะมองนายกฯ ถูกวางยาหรือไม่ปมตั้ง'พิชิต'

'สส.ก้าวไกล' ป้องนายกฯ ขวาง ศาลรธน.ก้าวล่วง 3 อำนาจ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ (X) ชื่อ Wiroj 77@wirojlak กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี