20 มิ.ย.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า อัยการสูงสุดไม่คัดค้านการประกันตัวของทักษิณ ชินวัตร คดี ม.112 จึงเป็นสิ่งน่ากังวลของบ้านเมือง เพราะไร้หลักการยึดถือเป็นแบบอย่างในคดีแบบเดียวกัน
อีกทั้งกล่าวว่า คดี ม.112 ของทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ประกันตัว แม้เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่มีข้อยกเว้นบางกรณีคือ เคยหลบหนีคดี และเคยผิดสัญญากับศาล รวมทั้งเคยทำผิดซ้ำๆ ในเรื่องเดียวกัน โดยตามหลักแล้วอัยการต้องคัดค้านการประกันตัว หากไม่คัดค้านคงไม่มีหลักหาความแน่นอนได้เลย ดังนั้น เมื่อทักษิณ ได้ประกันตัวย่อมกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของบ้านเมือง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวลของประเทศขณะนี้ คือ การยื่นขอประกันตัวคดี ม.112 อีก 12 คดี แต่ได้รับมาหนึ่งคดีจึงเป็นข้อเปรียบเทียบเช่นกัน ทั้งที่ผู้ต้องคดีเหล่านั้นไม่มีพฤติการณ์หลบหนีคดี ส่วนกรณีทักษิณ อัยการไม่ทักท้วงพฤติการณ์หลบหนีคดี และการไม่คัดค้านโดยอ้างอายุมาก ซึ่งคนธรรมดามากมายติดคุก ยังไม่เกี่ยวอายุมากเลย
นายจตุพร กล่าวว่า ถัดจากนี้ไป ทักษิณ จะเลี้ยงหลานหรือจะเคลื่อนไหวทางการเมืองในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น ใครคิดเกมนี้โดยหวังผลถึงการเลือกตั้งปี 2570 แต่ตนคาดว่า เป็นการทำลายฝ่ายอนุรักษ์นิยมย่อยยับ ส่วนฝ่ายประชาธิปไตย เสียงความนิยมของพรรคเพื่อไทยจะไหลออกไปสู่พรรคก้าวไกลมากขึ้นแม้จะถูกยุบพรรคก็ตาม
"ทักษิณ ติดคุกผมก็ไม่เดือดร้อน หรือไม่ติดคุกผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่กระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองหลักมันอยู่ตรงไหนกับนักโทษที่เคยหลบหนีคดีและยังไม่ยำเกรงต่อพระบรมราชโองการ ดังนั้น สิ่งเหล่่านี้ต่างหากที่ต้องคิดตระหนักให้มาก สิ่งที่ต้องคิดคือคนที่ตระบัดสัตย์มาตลอด แล้วคณะดีลเชื่อหรือว่าอนาคตจะรักษาคำพูด"
พร้อมทั้งกล่าวว่า ส่วนปัจจุบันกรณีทักษิณ สิ่งที่แพ้คือ กระบวนการยุติธรรม และกองทัพบกในฐานะผู้ฟ้องคดี ม.112 อ้างว่า ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวต่ออัยการแล้ว ยังเชื่อถือกันได้ด้วยเหรอ เพราะระดับกองทัพบกถ้ายื่นคัดค้านจริงมีหรืออัยการสูงสุดจะไม่รับฟัง
“คณะดีลล่าสุดจะปล่อยให้บ้านเมืองอยู่โดยไม่มีหลักการยุติธรรมอย่างนี้เหรอ แสดงว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมกลับเชื่อฟังคนตระบัดสัตย์ แต่ฝั่งประชาธิปไตยกลับเกลียดคนตระบัดสัตย์ เพราะต่อสู้มาตั้งแต่พฤษภาทมิฬ 35 แล้ว”
ส่วนการเลือกตั้ง สว.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า แม้ศาล รธน.วินิจฉัย พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สว.ไม่ขัด รธน.ก็ตาม แต่การเลือกตั้งขณะนี้มีการร้องเรียนมากมายและยังมีกลุ่มบุคคลยอมจ่ายค่าสมัครโดยไม่หวังเลือกตั้งเอง ดังนั้น ต้องการให้บ้านเมืองอยู่ในลักษณะเช่นนี้หรืออย่างไร เพราะสะท้อนจะเกิดปัญหาขึ้นอีกมากมายในอนาคต
นายจตุพร กล่าวถึงพรรคก้าวไกลว่า ต้องสรรเสริญจิตใจไม่ยอมพ่ายแพ้ และต่อสู้ด้วยกระบวนการทางกฎหมายในข้อหายุบพรรคซึ่งอยู่ในการพิจารณาของศาล รธน. ถึงที่สุดตนประเมินว่า คงยากที่จะหลุดรอดไปได้
สำหรับนายเศรษฐา ต่อสู้การถอดถอนจากนายกฯ โดยส่งพยานเพียงคนเดียวให้การต่อศาล รธน.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า การส่งเลขาธิการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นพยานคนเดียว ย่อมเป็นความเขี้ยวของนายวิษณุ เครืองาม เพราะต้องการตัดการรับรู้ของนายกฯ กรณีถามกฤษฎีกาถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี แต่ถามไม่ครบทั้งมาตรา ดังนั้นจึงสรุปว่า นายกฯ ไม่รู้เรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จตุพรชี้ รัฐบาลพ่อเลี้ยง ขาดพ่อก็จบ ไม่มีคนเกรงใจ
“จตุพร” ชำแหละรัฐบาลพ่อเลี้ยง สะท้อนนายกฯ ยังละอ่อนการเมือง ฉะพ่อก้าวร้าว อาละวาดตบจูบทำเสมือนเป็นนายกฯ ตัวจริง ส่วนลูกแค่ร่างทรง เชื่อขาดพ่อรัฐบาลก็จบ จับตาเชือด “พีระพัง” หลังปีใหม่ ระบุขวางผลประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด ซัดสหายใหญ่ ทำตัวเป็นแมวเสียศักดิ์ศรีคุมกลาโหม ชมฉายา “อนุทิน- รมต.น้ำ” รู้เท่าทันสถานการณ์บังคับให้เล่นเป็น อยู่ได้ ชี้นายกฯ แพทองโพย เอาแต่อ่านทำภาพลักษณ์ผู้นำหายหมด
ไม่เอาไว้ทำพ่อ! 'ทักษิณ' ขู่ฟ่อ ต่อไปนี้ใครเล่นงาน จะเล่นกลับหมด บางคนให้ตังค์ใช้ พอไม่เลี้ยงโดนมันกัด
ช่วงเย็นวานนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปราศรัยหาเสียงช่วยนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหาร
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
'ทักษิณ' ปราศรัยเดือด ไม่ทนพวกเห่าหอน ซัดมาซัดกลับ เหน็บพรรคส้มขี้โม้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดย ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย
'เต้น' ปราศรัยเชียงใหม่ ขออย่าเปลี่ยนใจ ถามเลือกตั้ง สส. ทำไมเพื่อไทยได้แค่ 2 คน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
'ทักษิณ' อวย 'แพทองธาร' เก่งกว่าตัวเองสมัยเริ่มต้น ปัดเขียนสคริปต์ให้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้กับรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บุตรสาว ว่า สงสัยสื่อมวลชนเห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.)