'เศรษฐา' แพลมแผนทัวร์นอกงวดต่อไป 'อินเดีย-แอฟริกา-ตุรกี'

'เศรษฐา' พอใจเดินสายยุโรป นายกฯอิตาลีรับปากเตรียมเดินทางเยือนไทย ก.พ.2568 เที่ยวภูเก็ต เจรจาอียูหนุนยกเว้นวีซ่าเชงเก้น แจ้งข่าวดีเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มิลานดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ เล็งเยือนอินเดีย-แอฟริกา -ตุรกี

22 พ.ค.2567 - ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจบภารกิจการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการและกิจกรรมคู่ขนาน ว่า การเยือนประเทศอิตาลีครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย เพราะมีการกำหนดชั้นตอนชัดเจน ว่าอนาคตจะมีขั้นตอนอย่างไร จะทำอะไรบ้าง ซึ่งตนพอใจมากในภาพรวมตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา และเชื่อว่าความเป็นกลางทางด้านการเมืองของไทยทำให้ไทยมีเสน่ห์ อีกทั้งเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะเรื่องของธุรกิจที่จะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเข้ามา อิตาลีต้องมั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศไหน ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศไทย ทำให้มีคนอยากเดินทางมาอยู่ที่นี่

นายเศรษฐา กล่าวว่า หารือทวิภาคีกับนางจอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี ในโอกาสการเยื่อนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ ว่า ถือเป็นโอกาสดี เพราะนอกจากจะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นประธานกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) ซึ่งตำแหน่งนี้สามารถโน้มน้าวประเทศสมาชิกได้หลายๆ เรื่อง ตนโดยมีการหารือทวิภาคีแบบสองต่อสองในบรรยากาศพูดคุยแบบสบายๆ เริ่มต้นด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยได้นำเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเก้น ที่ไทยได้หารือในเรื่องนี้กับประเทศสมาชิกยุโรปอยู่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาคนไทยที่เดินทางไปอิตาลีไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้หลบหนี และไม่ได้ก่อปัญหาให้ประเทศอิตาลีจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือไทย

นายเศรษฐา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอิตาลีเป็นคนแรกของยุโรปที่ได้สอบถามว่าทำไมถึงอยากได้วีซ่าฟรีเชงเก้น นอกเหนือจากความสะดวกสบายแล้วมีประเด็นอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกว่านอกจากจะมีความสะดวกสบายในการเข้าหากันแล้วก็จะทำให้มีการลงทุน และมีการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน ซึ่งการขอวีซ่าฟรีเชงเก้น 1 ครั้ง มีความยากลำบากและใช้เวลานาน หากจะต้องการให้มีการค้าขายระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป(อียู) จึงจำเป็น ต้องมีความสะดวกสบายในเรื่องนี้ ซึ่งนายก รัฐมนตรีอิตาลีได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันอย่างเต็มที่ รวมถึงการเจรจากการค้าเสรี (FTA) หากบริษัทเอกชนในอิตาลีต้องการไปลงทุนในประเทศไทยเพื่อขยายฐานการผลิตและกระจายสินค้าไปทั่วโลก เรื่อง FTA เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนเรื่องของความมั่นคง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้ออาวุธ และการพัฒนากองทัพร่วมกัน ได้มอบหมายให้ทูตทหารประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของอิตาลี นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพัฒนาระบบการฝึกซ้อม และเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยส่วนเรื่องอุตสาหกรรมการออกแบบ เรื่องแฟชั่นและดีไซน์ ก็มีการพูดคุยในเรื่องนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เพราะว่าประเทศอิตาลีไปไกลในเรื่องนี้มาก สำหรับเรื่องของพลังงาน ทางอิตาลีให้ความสนใจในเรื่องของการจัดทำพลังงานสะอาด และการค้นหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะลิ้งค์กับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA)

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ทางการอิตาลีเป็นฝ่ายหยิบยกขึ้นมาเสนอคือเรื่องของแรงงานที่ต้องการให้ไทยส่งแรงงานเฉพาะฤดูที่เกี่ยวกับการเกษตรเข้ามาทำงานที่ประเทศอิตาลี สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของชาวไทย ซึ่งจะทำให้มีรายได้สูงมาก และเป็นอีกทางเลือกให้กับเกษตรกรชาวไทย นอกเหนือจากการไปประเทศอิสราเอล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะรับไปดูต่อในเรื่องนี้

นายเศรษฐา กล่าวว่า การพูดคุยกับนายกฯอิตาลี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที รวมเวลารับประทานอาหารร่วมกัน ถือเป็นเรื่องดีๆ เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าร่วม โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ที่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อยู่ร่วมวงอาหารด้วย ส่วนเรื่องของการขยายสนามบินทางอิตาลีก็มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่อาจเข้ามาเสนอตัวมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และทางนายก รัฐมนตรีอิตาลีก็ได้เสนอว่า ทั้งสองประเทศควรมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ชัดเจน และมีการเซ็น MOU อยู่ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน และเอกชนกับรัฐบาล

นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนกันยายน แต่ช่วงเวลานั้นติดการประชุม G7 จึงตัดสินใจว่าอาจมีการเดินทางเยือนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2568 พร้อมเชิญชวนให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพราะทราบว่าไม่เคยเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย และทราบว่ามีลูกสาวอายุ 7 ขวบชื่นชอบการท่องเที่ยว

นายกฯ เปิดเผยถึงข่าวดีอีกหนึ่งอย่างว่า จะมีการเปิดเที่ยวบินกรุงเทพ-มิลาน ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม และ ช่วงฤดูหนาวจะมีการเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพ-โรม ซึ่งคาดว่าสายการบินแห่งชาติของอิตาลี ก็น่าจะสนใจในเรื่องนี้ และยอมรับว่า ในอดีต 10-20 ปีที่ผ่านมา เรื่องของการค้าขายระหว่างสองประเทศ ไทยควรทำได้ดีกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งฝรั่งเศสและอิตาลี กังวลอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยหรือไม่ ก่อนตัดสินใจมาลงทุนในไทย นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวก็รู้สึกแปลกใจ ที่ผู้นำทั้งสองประเทศไม่พูดถึงการเมืองไทย แต่พูดถึงเรื่องธุรกิจ และเขามีความมั่นใจในประเทศไทยสูงมาก

เมื่อถามว่าแสดงว่า ณ วันนี้ เขามีความมั่นใจ ในประเทศไทยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเรื่องของขบวนการทั้งหมด ของการได้มาซึ่งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีความชอบธรรม ซึ่งตรงนี้มันจบแล้ว การที่เราเดินทางไปยังหลายๆประเทศ และได้เห็นถึงการไปปรากฏตัวในเวทีโลกหลายเวที ทุกคนเห็นว่าประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทำธุรกิจ เรื่องเหล่านี้สำคัญ และไม่มีโอกาสและจังหวะไหนดีที่สุดเท่าจังหวะนี้แล้ว

เมื่อถามว่าจากการพบกันกับนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ภาพที่ออกมาดูเหมือนนายกรัฐมนตรีมีความสนิทสนมและเป็นกันเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจ โดยนายกรัฐมนตรีอิตาลีแม้เป็นสุภาพสตรึ แต่เป็นคนที่พูดจาได้ชัดเจน อีกทั้งมีฝ่ายที่เกี่ยวข้องมานั่งคุยกับฝ่ายเรา ถือเป็นนิมิตหมายอันดี

“ผมคงไม่คอยถึงเดือนกุมภาพันธ์สักสองสัปดาห์คงต้องมีการติดตาม โดยให้เอกอัคราชทูตไทยประสานติดต่อ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากจบการเดินทางครั้งนี้แล้ว มีแผนที่จะเดินทางเดือนประเทศไหนอีก นายกฯ กล่าวว่า คาดว่าน่าจะไปประเทศอินเดีย ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่มา 4 เทอมแล้ว มีความเชี่ยวชาญในหลายด้านและชื่นชอบประเทศไทย นอกจากนี้ยังคิดว่าจะเดินทางเยือนแอฟริกาเพื่อเปิดตลาดค้าขาย เกี่ยวกับเรื่องอาหารและสินค้าการเกษตร รวมถึงประเทศที่เป็นประตูสู่ทวีปยุโรป คือ ตุรกี ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 ขึ้นไตรมาส 4

“แต่จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงของวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมจะยังไม่เดินทางไปไหน แต่จะลงพื้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งมีหลายโครงการ จะไปตรวจงานและติดตามให้ทุกโครงการ ดำเนินไปด้วยดี”นายกฯกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล

นายกฯ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

เทพไท แนะคอการเมืองจับตา 'เศรษฐา' ตกเก้าอี้ 'อนุทิน' เสียบแทน

นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า จับตา เศรษฐา เดี้ยง อนุทิน เสียบ

ยกระดับผลผลิตทางการเกษตร 6 เดือนแรก ส่งออกข้าวได้ 4.79 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 17.98%

นายกฯ ชื่นชมการทำงานยกระดับผลผลิตทางการเกษตร ยอด 6 เดือนแรกของปี 2567 ส่งออกข้าวได้ 4.79 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 17.98% รวมมูลค่าการค้าถึง 1.1 แสนล้านบาท