มธ. จัดเสวนาเลือก สว. “ปริญญา” แนะ กกต. แก้ระเบียบเลือกสว. เปิดให้สังเกตการณ์เพื่อความโปร่งใส ด้าน “พิชาย” คาใจสว.เลือกกันเอง เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างไร ขณะที่ “โอฬาร” อัดการได้มาซึ่งสว.ขัดหลักประชาธิปไตย พร้อมเห็นตรงกัน ยกร่างรธน.ใหม่ โล๊ะสว.ได้
17 พ.ค.2567 - เวลา 13.30 น. ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์นิติศาสตร์ จัดเสวนาวิชาการ “การเลือก สว. และประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กับอนาคตประชาธิปไตยไทย” เนื่องในงานรำลึก 32 ปี พฤษภาประชาธรรม 2535 โดยมีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อ.นิติศาสตร์ มธ. นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อ.คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อ.รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นายวันวิชิต บุญโปร่ง อ.คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และนายปุรวิชญ์ วัฒนสุข อ.คณะรัฐศาสตร์ มธ.
นายปริญญา กล่าวว่า จะต้องจัดทำรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับ การเลือก สว. ที่จะมีขึ้น จะเป็นบันไดสู่ความเป็นประชาธิปไตย แต่ก็ห่วงระบบการเลือกมีปัญหา เพราะเป็นระบบที่มีปัญหามากที่สุด และกกต.ออกระเบียบที่ไม่เอื้อให้คนทั่วไปที่ไม่มีพรรคพวก ไม่มีประโยชน์จูงใจคนอื่นมีโอกาสเป็นสว.ได้ แต่ยังมีเวลาที่จะสามารถแก้ระเบียบกกต. เกี่ยวกับผู้สังเกตการณ์โดยกกต. ควรประกาศให้ชัดเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ และเห็นควรให้มีการบันทึกภาพหรือไลฟ์สด ทางออนไลน์เพื่อเห็นกระบวนการในการเลือก ให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและอยากให้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเพิ่มเติม นอกเหนือจากแนะนำผ่าน กระดาษA4 เพราะเป็นการจำกัดสิทธิ
นายปริญญา กล่าวอีกว่า เชื่อว่าวันที่ 2 ก.ค. จะประกาศรายชื่อสว. 200 คนได้ยาก พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมและสมัครเข้าสู่กระบวนการเลือก นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเชิญชวน ให้คนเข้ามาสมัคร สว. สามารถทำได้ แต่การจ่ายเงินให้ไปสมัครสว.เป็นสิ่งที่กกต. ชี้ว่าอาจฮั้วกัน และเห็นว่าการเชิญชวนให้เลือกใครโดยไม่ได้รับผลประโยชน์สามารถทำได้แต่กกต.ชี้ว่าทำไม่ได้
นายพิชาย กล่าวว่า การกำหนดให้เลือกกันเอง ตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญ ผู้ปฏิบัติทั้งหลายและนักวิชาการเห็นว่า ต้องสมัครก่อน แล้วจึงเลือกกันเอง ประชาชนทั่วไปถ้าไม่สมัครไม่มีสิทธิ์เลือก คำถามคือ จะเรียกสว. ว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยได้หรือไม่ เพราะในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าสส. และสว.คือผู้แทนปวงชนชาวไทย อย่างไรก็ตาม ตนได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่า วันที่ 2 ก.ค.นี้ เราจะได้สว. 200 คนแน่นอน
นายพิชาย กล่าวอีกว่า เราอาจไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีสว.ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะเท่าที่มีสองสภา ประสิทธิภาพในการพิจารณากฎหมายก็ไม่ดี หากพูดว่าไทยไม่เคยมีระบบสภาเดียว ก็พูดไม่ถูก เพราะไทยมีสภาเดียวแบบครึ่งๆกับสองสภามาแล้ว ขณะนี้วุฒิสภาหมดหน้าที่หมดความชอบธรรม ไม่มีความจำเป็นใดๆ วุฒิสมาชิกมีความโน้มเอียงผูกติดอยู่กับผู้มีอำนาจในขณะนั้นเสมอ เหมือนเป็นการเพิ่มเสียงให้รัฐบาล อย่างไรก็ตาม สว.ที่กำลังจะเลือกเชื่อว่าดีกว่าสว.ชุดคสช.คัดสรรแน่นอน
นายโอฬาร กล่าวว่า คนพฤกษภาทมิฬพยายามหาทางออก แต่สุดท้ายเรายังอยู่ในวงจรอุบาทว์เช่นเดิม ตอนนี้เราเห็นความขัดแย้ง เห็นสัญญาณรัฐประหาร และเสถียรภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ การได้มาซึ่งสว. ขัดกับหลักการประชาธิปไตย ทั้งในแง่การมีส่วนร่วมของประชาชน แม้ยึดโยงจากกลุ่มอาชีพก็จริง แต่ออกแบบให้ซับซ้อนเพื่อให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกยากต่อการเข้าถึง เท่ากับเป็นการกีดกั้นการมีส่วนร่วมทางการเมือง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กับคนที่พร้อมที่มีกลไกลได้สว.200 คน และ
ในแง่โอกาสและความเสมอภาค แต่ความจริงผู้สมัครที่จะได้สิทธิเลือกต้องจ่ายค่าสมัครก่อน 2,500 บาท ถามว่าทำไมไม่ 5 บาท 3บาท 7บาท รวมถึงในแง่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่รับรองตัวเองได้ แต่พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. กำหนดรับรองตัวเองไม่ได้ ถามว่าสิทธิ์ความเป็นคนอยู่ที่ใด
นายโอฬาร กล่าวต่อว่า การเลือกสว. เป็นโอกาสของกลุ่มคนมีเงิน มีชื่อเสียง และกลุ่มคนที่มีเครือข่าย ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ประชาชนทั่วไปที่อยากจะเข้าไปมีส่วนแบ่งในอำนาจในฐานะสว. ในสถานการณ์การเมืองแบบนี้ฐานที่มั่นสุดท้ายของขั้วอำนาจเก่า คือสว. เพราะถ้าหลุดจากสว.นี้ไปจะนำสู่การเปลี่ยนแปลงสู่โครงสร้างใหญ่ๆ
นายวันวิชิต กล่าวว่า การเลือกสว.ครั้งนี้เป็นภาวะการเชื่อมจิตครั้งสุดท้ายกับคณะรัฐประหาร ที่พยายามทำให้เห็นว่ามีความพยายามรักษาอำนาจ สร้างความซับซ้อนสร้างเงื่อนไขและสร้างปริศนาทางความคิด ว่าการได้มาซึ่งสว. 200 คน ทั้งนี้ตกใจที่มีผู้สนใจสมัครน้อย ประชาชนยังไม่ตื่นตัว ส่วนข้อสงสัยว่ามีสว.ไว้ทำไม ส่วนตัวเห็นว่ามีสว.ไว้จอดรถทัวร์ สิ่งที่อยากเห็นหลังจากนี้ ไม่ใช่เพียงการรณรงค์ ในแวดวงวิชาการแต่ต้องทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของสว.ชุดนี้ คือความว่างเปล่า และเวลาพัฒนาประเทศ แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้ประชาชนตื่นรู้ และมีคำตอบว่าสว.ไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว
นายปุรวิชญ์ กล่าวถึงการเลือกสว. 20 กลุ่มอาชีพว่า ยัง หาเหตุผลรองรับไม่ได้ว่า ใช้เกณฑ์ใดในการแบ่ง ไทยถือเป็นประเทศแรกในโลก และส่วนตัวพยายามหาคำตอบว่าทำไมต้องใช้วิธีการเลือกกันเอง ซึ่งเชื่อว่าอยู่บนพื้นฐานความไม่ไว้วางใจประชาชนจึงมีกระบวนการซับซ้อนซ่อนเงื่อนใช้วิธีเลือกไขว้ เป็นการทำให้งงอย่างจงใจ สว.ชุดใหม่มีความสำคัญในการกำหนดและตัดสินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังเคยมีข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญถึง 26ครั้ง การเลือก สว. ครั้งนี้ จึงเป็นการเดิมพันมากที่สุดและเป็นเหตุผลที่ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากไทยจะมีสองสภา แต่อำนาจต้องไม่เยอะ หรือถ้าจะยกเลิกสภาสูงก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้ ข้อมุลวิชาการพบว่าการร่างรัฐธรรมนูญ หมวดที่ว่าด้วยรูปแบบของสภา เป็นหมวดที่ถกเถียงกันยาวนานมากที่สุด และทั่วโลกมี 78 ประเทศเป็นระบบสองสภา และอีก 112 ประเทศเป็นสภาเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล้มแชมป์6สมัย! ‘วัฒนา ช่างเหลา’ กวาด 330,922 คะแนน นั่ง นายกอบจ.ขอนแก่น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น รายงานสรุปผลการเลือกตั้ง นายกอบจ.ขอนแก่น (อย่างไม่เป็นทางการนับคะแนน 100%)
ลุ้น! ผลนับคะแนนเลือกตั้ง นายกอบจ.ขอนแก่น มีร้องเรียนแล้ว 1 เรื่อง
ปิดหีบเลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น แล้ว รอลุ้นใครได้เป็นพี่ใหญ่ท้องถิ่น ขณะที่ กกต.เผย รับเรื่องร้องเรียนแล้ว 1 เรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงแบบผิดกฎหมายรอตรวจสอบตามขั้นตอน
กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง
ร้อง กกต. สอบ 'นายก อบจ.' แห่ลาออกก่อนครบวาระ ทำสิ้นเปลืองงบจัดเลือกตั้งใหม่
นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ราชกิจจาฯ ประกาศ 'พรรคเพื่อประชาชน' สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง พรรคเพื่อประชาชนสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
กกต.ชงศาลรธน.ฟัน 'สมชาย เล่งหลัก' พ้น สว. 'หมอเกษ' ลุ้นสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ยังไม่ได้มีการพิจารณารายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติของพญ.เกศกมล