เอาแล้ว 'เรืองไกร' จี้ 'เศรษฐา' เชิญ สตง.ตรวจข้าว 10 ปี

'เรืองไกร' ขอนายกฯ เชิญ สตง. ตรวจสต็อกข้าว อคส. 10 ปียังดีอยู่จริงหรือไม่ตามที่ 'ภูมิธรรม-ชัย' อวดอ้าง

08 พ.ค. 2567 - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ออกมากล่าวอ้างว่า สต็อกข้าวขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่เก็บมานานกว่า 10 ปี ยังดีอยู่ และมีการกินโชว์สื่อมวลชน รวมทั้งให้พิธีกรบางรายการนำไปกินโชว์อีกนั้น เรื่องนี้คนที่รู้บัญชีคงไม่เชื่อถือ เพราะข้าวสารเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีการเสื่อมสภาพ และงบการเงิน อคส. ก็มีการหักค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้ทุกปี

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อไปดูในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ในส่วนสินค้าคงเหลือ ซึ่งแสดงอยู่ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 8 จะพบข้อมูลสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ในส่วนโครงการรัฐบาลที่มีนัยสำคัญ 2 รายการ คือ สินค้าที่ตรวจนับได้ (ปกติ/ข้าวเปียกน้ำ) จำนวน 1,644.25 ล้านบาท ซึ่งมีการ หัก ค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้เป็นจำนวน 902.41 ล้านบาท และสินค้าที่ตรวจนับไม่ได้ จำนวน 3,836.68 ล้านบาท มีการ หัก ค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้เป็นจำนวน 2,653.65 ล้านบาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีสต็อกข้าวตามที่นายภูมิธรรมและนายชัยนำมากล่าวอ้าง ประกอบไปด้วยสต๊อกสินค้าเกษตรภายใต้การดูแลของรัฐบาล ปัจจุบันยังคงเหลือเพียง ข้าวในโครงการรับจำนำปี 2556/2557 จ.สุรินทร์ ดังนี้ 1. คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ 2. คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ”

นายเรืองไกร กล่าวว่า การออกมาโชว์ว่า ข้าวในสต็อกดังกล่าวยังดีอยู่และกินได้นั้น จึงไม่ใช่หลักฐานทางบัญชีที่น่าเชื่อถือได้ว่าข้าวในสต็อกดังกล่าวรวมทั้งสองคลังจำนวน 145,590 กระสอบ จะดีอยู่จริงหรือไม่ กรณีจึงควรเชิญให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบข้าวทุกกระสอบก่อนที่จะมีการนำไปประมูลขายด้วย ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่า ข้อมูลที่แถลงข่าวกล่าวอ้างออกมานั้นถูกต้องกับสต็อกข้าวสารที่มีอยู่จริงและตรงตามเอกสารทางบัญชีของ อคส. โดยมี สตง. เข้าไปตรวจสอบรับรองได้

“วันนี้จึงส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกฯ เชิญ สตง. เข้าไปตรวจสอบเอกสารทางบัญชีและร่วมตรวจนับสต็อกข้าวทุกกระสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจได้ว่า ข้าวในสต็อกคงเหลือ ณ ปัจจุบัน ของ อคส. ก่อนที่รัฐบาลจะนำไปเปิดประมูลขายนั้น เป็นข้าวสารในสต็อกที่ถูกต้องตรงกันกับบัญชีสินค้าคงเหลือของ อคส. หรือไม่ ข้าวสารในสต๊อกดังกล่าว มาจากข้าวเปลือกตามใบประทวนของเกษตรกร รายใด มีการนำไปสีแปรสภาพเมื่อใด มีการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐไปกี่ครั้ง ในราคาเท่าใด ใครเป็นผู้ประมูลไป เงินที่ประมูลได้มีการนำส่งให้ ธ.ก.ส. ครบถ้วน หรือไม่ ในแต่ละรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ของ อคส. มีการตรวจนับสต็อกข้าวทั้งสองคลังได้ หรือไม่ มีการหักค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้ในแต่ละปีเป็นจำนวน เท่าใด และมีการรักษาคุณภาพข้าวโดยวิธีรมยาหรือวิธีอื่นใดมาทั้งหมดกี่ครั้ง แต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่าย เท่าใด ปัจจุบัน สต๊อกข้าวในคลังทั้งสอง ยังดีอยู่และกินได้จริงตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกรัฐบาลแถลงข่าวหรือไม่”

นายเรืองไกรกล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าข้าวที่เก็บมา 10 ปี ยังดีอยู่จริง อาจหมายความว่า ข้อมูลข้าวสารที่เป็นสินค้าคงเหลือในงบการเงิน อคส. ที่ผ่านมาร่วม 10 ปี อาจจะเชื่อถือไม่ได้ ใช่หรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' รับลูก 'เศรษฐา' ดึงเจ้าสัวช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย

“ภูมิธรรม”รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท. ซีพี ไทยเบฟ ห้าง ปั๊มน้ำมัน ช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายหรือนำไปทำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกร 

ภูมิธรรม สุดปลื้มโพสต์ปิดตำนานจำนำข้าว สมัยยิ่งลักษณ์สำเร็จ คุยโกยเงินเข้ารัฐ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความยินดี

ครบองค์ประกอบ! เรืองไกรร้องผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลปกครองตีตกดิจิทัลวอลเล็ต

'เรืองไกร' ขอผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลปกครองวินิจฉัยล้มดิจิทัลวอลเล็ต เหตุเลือกปฏิบัติไม่เสมอภาคขัดรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลต่อยอดยุค'ลุงตู่'สั่งเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ซาอุฯ

นายกฯ ติดตามการทำงาน และสั่งการเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ หลังการจัดงานประชุมภาคธุรกิจ Thai-Saudi Investment Forum จับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ พร้อมเปิดสำนักงาน BOI ณ กรุงริยาด