'เศรษฐา' สั่งพัฒนาแหล่งน้ำทุ่งกุลา ดันข้าวหอมมะลิตีตลาดโลก

นายกฯ รับฟังสถานการณ์น้ำ-แผนพัฒนาทุ่งกุลาฯ สั่ง“กรมชลฯ” ผลักดันศักยภาพทุ่งกุลาฯ หาแหล่งน้ำ -พัฒนาข้าวหอมมะลิไทย หวังตีตลาดโลก เพิ่มมูลค่าสินค้า-สร้างรายได้เกษตรกร

5 พ.ค.2567 – เวลา 14.10 น. ที่วัดกู่พระโกนา ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และแผนพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนเรื่องแหล่งน้ำ และการพัฒนาโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ โดยมีอธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำและทุ่งกุลาร้องไห้ ในพื้นที่ มีส่วนราชการ ประชาชน รวมถึงสส.อีสาน พรรคเพื่อไทย อาทิ นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด นายครูมานิตย์ สุงข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย รอต้อนรั

นายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของตนล่าสุดคือดูเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว วันนี้ดีใจที่ได้กลับมาจ.ร้อยเอ็ด อีกครั้ง โดยมาดูใน 2 เรื่องใหญ่ที่เป็นเรื่องหลัก คือ การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นที่ทราบว่าเราอยู่ในหน้าร้อน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นของประชาชนทุกคน ถ้าน้ำไม่มีก็ไม่สามารถเพาะปลูกได้ จึงมาดูแลเรื่องของน้ำและได้สั่งการให้กรมชลประทาน พิจารณาโครงการที่เสนอมาตามความเหมาะสมในการพัฒนาระบบชลประทานทั้งระบบใน จ.ร้อยเอ็ด และดูผลกระทบกับประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วม รวมถึงการบริหารจัดการน้ำระยะยาวในโครงการที่อยู่นอกแผนของกรมชลประทานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในการอุปโภคบริโภค และใช้ทำมาหากิน

“สำหรับการพัฒนาที่ดินทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่ทราบว่าเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ของภาคอีสานครอบคลุม5จังหวัด มีศักยภาพในการพัฒนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงเป็นข้าวที่พัฒนาอย่างมีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลเกษตรกรและพัฒนาการส่งเสริมปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนั้นการจัดการที่ดินและน้ำให้พัฒนาอย่างเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก และจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีประสิทธิภาพในการรักษาคุณภาพผลผลิตตลอดปี รวมทั้งจัดหาเมล็ดพันธุ์ และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของข้าว เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะที่การตลาดและการขายให้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนการตลาดและส่งเสริมการขายไปทั่วตลาดโลก เป็นการขยายโอกาสทางการตลาด รวมทั้งส่งเสริมการแปรรูปผลิตสินค้าให้มีราคาสูง เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกร สร้างแหล่งรายได้เสริมให้กับเกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  ผู้แทนโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ ได้ขอให้นายกฯพิจารณาช่วยเหลือ ใน 3 ประเด็นคือ 1. โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ เป็นที่ฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชและผู้ป่วยยาเสพติดระยะยาว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยก่อนที่จะส่งคืนสู่ชุมชน จึงต้องการพื้นที่ในเขตของตำรวจ จำนวน 18 ไร่ ที่ไม่ได้มีการใช้งานมากว่า 20 ปี ซึ่งได้มีการดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า

2. เดือนกรกฎาคม 2567 จะมีจักษุแพทย์ มาที่โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ แต่ยังขาดแคลน เรื่องงบประมาณในการจัดซื้อคุรุภัณฑ์ทั้งหมด 4 รายการ และ 3. โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ เป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง แต่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ที่จะรับผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลอีก 3 โรงพยาบาล ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200 เตียง และพบปัญหาเรื่องของการบำบัดน้ำเสีย จึงอยากจะขอฝากเรื่องการสร้างโรงบำบัดน้ำเสียภายในโรงพยาบาล

ทั้งนี้นายกฯได้เดินทักทาย ถ่ายรูปกับประชาชน และผู้แทนส่วนราชการต่างๆที่มอบผลิตภัณฑ์จากทุ่งกุลาฯให้กับนายกฯเป็นที่ระลึก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชาวบ้านทุ่งกุลา' ยื่นฟ้องศาลปกครองฝังกลบโรงงานน้ำตาล

เครือข่ายฅนฮักทุ่งกุลา จังหวัดร้อยเอ็ด เดินหน้าฟ้องศาลปกครองอุบลราชธานี ยกเลิกสิทธิตั้งโรงงานน้ำตาล– คว่ำอีไอเอฉบับเดิมที่ขาดการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน

‘เทพไท’ ชี้เปรี้ยง บทบาทโกอินเตอร์ ‘แพทองธาร-เศรษฐา’ ต่างกันราวฟ้ากับดิน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “บทบาท อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา ต่างกันราวฟ้ากับดิน โกอินเตอร์” ระบุว่าบทบาทของนางสาวแพทองธาร ชิน

เหงื่อแตกพลั่ก! ดูชัดๆ 'ครอบงำ' โทษสาหัส 'ยุบพรรค-คุกอ่วม'

สืบเนื่องจากกรณีมีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีพฤติการณ์เข้าข่ายยิน

เตือนอย่าประมาท 'บุคคลลึกลับ' เบื้องหลังนักร้องยื่นยุบเพื่อไทย เขย่านายกฯแพทองธาร!

มีผู้ร้องต่อกกต. ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิ์ทางการเมืองนายกอุ๊งอิ๊ง ฐานยอมให้นายทักษิณครอบงำพรรค โดยผ่านทางอดีตนายกเศรษฐา ให้แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญ