'ชัยชนะ' ฟาดเต็มหน้า 'เพื่อไทย' ดิจิทัลวอลเล็ตคืบหน้าในการหาแพะรับบาป  

“ชัยชนะ” ฟาด โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ มีความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’  ชี้ ‘เพื่อไทย’ เผชิญพายุหมุนที่ไม่สามารถเดินหน้าทำโครงการได้ – แนะเอาโครงการคนละครึ่ง มาปรับปรุงแก้ไข

5 พ.ค.2567 – นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรว่า ขณะนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำบริหารประเทศมาเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว และชาวบ้านต่างคาดหวังว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีภาพจำว่าเป็นพรรคการเมืองที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดี จะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ผ่านนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่พรรคเพื่อไทยอวดอ้างว่า จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 ลูก แต่ในความเป็นจริง นโยบายดังกล่าว กลายเป็นพายุหมุนที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปตามที่คาดหวังไว้

นายชัยชนะ กล่าวว่า และเหมือนกับที่ตนเคยให้ข่าวว่า เป็นนโยบายที่เข้าทำนองที่ว่า กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง เพราะพรรคเพื่อไทยคงคิดเอาเองว่า ที่มีคนเลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา คือนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็เลยพยายามเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้ว ปรากฏพบความจริงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ จนทำให้ขุนพลของพรรคเพื่อไทยต้องออกมาพูดกล่อมประสาทประชาชนว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงจำเป็นต้องมีนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ความเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เป็นต้น สำหรับแหล่งเงินทุนซึ่งหวยไปออกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นหลักนั้น ก็ถือว่า รัฐบาลเกิดอาการเข้าตาจน เพราะอย่าลืมว่า ขณะนี้รัฐบาลยังคงค้างหนี้ในโครงการจำนำข้าวอยู่อีก 2.4 แสนล้านบาท และยิ่งก่อหนี้ตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งคาดว่า จะใช้งบ 1.7 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จะติดหนี้ ธกส. 4.1 แสนล้านบาท รวมทั้ง จะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์

นายชัยชนะ กล่าวว่า  ไม่นับเสียงคัดค้านที่มาจากทุกสารทิศ ที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการ โดยส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า จะเป็นโครงการที่เข้าทำนอง ได้ไม่คุ้มเสีย และมีนโยบายอื่นๆ ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า ดังนั้น ตนจึงอยากให้รัฐบาล มีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนเสียใหม่ เพราะเชื่อว่า หากดันทุรังไปจนถึงปลายทางแล้ว พรรคเพื่อไทยอาจจะได้รับคะแนนนิยมจนชนะการเลือกตั้งก็จริง แต่ก็ทิ้งความเสียหายให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ยิ่งเอาเงินจริงไปผูกกับความผันผวนในตลาดเงินดิจิทัลแล้ว ถือเป็นการเอาอนาคตประเทศไปแขวนอยู่กับเส้นด้ายที่บอบบางเป็นอย่างมาก

 นายชัยชนะ กล่าวว่า อันที่จริง ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีความคืบหน้าอยู่ แต่เป็นความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’ เพราะแรกเริ่มเดิมที แพะตัวแรกที่สังเวยไปแล้ว ก็คือ กฤษฎีกา เพราะเมื่อมีความเห็นทางกฎหมายออกมาว่า ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กลายเป็นว่า มวลชนที่สนับสนุนก็ออกมาโจมตีกฤษฎีกา ต่อมา ก็มีแนวคิดที่จะใช้เวทีรัฐสภาในการออกพระราชบัญญัติ ผมก็รู้ทันทีว่า รัฐบาลจะโยนบาปให้กับ ส.ส. ที่ไม่เห็นด้วยและลงมติไม่เห็นชอบ จะได้มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ประชาชนโกรธแค้น และกลายเป็นแพะรับบาปในสายตาประชาชน และล่าสุดที่คราวนี้ พรรคเพื่อไทยถึงกับเล่นใหญ่ โดยระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยพยายามให้ประชาชนเข้าใจว่า  ธปท. เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะกลายเป็นแพะรับบาปอีกรายหนึ่ง

“ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ราบรื่นนัก เพราะฉะนั้น ผมจึงเห็นว่า การนำสิ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง ที่ชาวบ้านเข้าใจเป็นอย่างดี และก็มีแอป ‘เป๋าตัง’ อยู่แล้ว มาปรับให้เกิดความเหมาะสม เพราะชาวบ้านก็ยืนยันแล้วว่า โครงการคนละครึ่ง สามารถสร้างกำลังซื้อให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ส่วนข้อบกพร่องของโครงการคนละครึ่งที่เจ้าของร้านค้าเกรงว่า จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลก็ต้องหามาตรการจูงใจให้คลายกังวลเพื่อให้เจ้าของร้านค้ามาร่วมโครงการให้ได้ มากกว่าการคิดโครงการที่หวือหวาให้คนมาลงคะแนนเสียง แต่เสี่ยงที่จะดำเนินการไม่ได้ในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติ” นายชัยชนะ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน

ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี

บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา

'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา

รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง

ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ