'ชัย' ร่ายยิบภารกิจ 'เศรษฐา' ทัวร์ 'มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด'

นายกฯ เตรียมตรวจราชการ จ.มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด ติดตามปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ พร้อมรับฟังปัญหา พบปะประชาชน 5 - 6 พ.ค.นี้

02 พ.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการตรวจราชการ ณ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5 - 6 พฤษภาคม 2567 เพื่อติดตามประเด็นยาเสพติดและหนี้นอกระบบ การบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาและพบปะประชาชน การขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ ปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งและถนนชำรุด รวมถึงการใช้บริการและความพร้อมของเครื่องมือแพทย์ โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมคณะด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ภารกิจในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 09.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อติดตามประเด็นยาเสพติดและหนี้นอกระบบ โดยในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะไปติดตามประเด็นการบริหารจัดการน้ำ ณ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปวัดกลางอุดมเวทย์ ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งวัดกลางอุดมเวทย์ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่มากวัดหนึ่งในประเทศไทย ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางยังไปโรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2567 ช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.45 น. นายกรัฐมนตรีจะไปติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ ณ วัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยัง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งและถนนชำรุด ก่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลโพนทอง ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามประเด็นการใช้บริการและความพร้อมของเครื่องมือแพทย์ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางจากท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด กลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 15.30 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

“การเดินทางไปตรวจราชการ ณ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ดของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ประเด็นสำคัญเพื่อติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการนายกฯ ทั้งปัญหาเรื่องยาเสพติด ที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด โดยเฉพาะการลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดด้วยการบำบัดรักษา และต่อยอดการแก้ไขปัญหาผู้ผ่านการบำบัดอย่างครบวงจร รวมไปถึงปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในวงจรหนี้นอกระบบได้ออกจากวงจรนี้ได้อย่างแท้จริง ให้สามารถใช้ชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรีและมีความสุขทั้งกายและจิตใจ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชน การใช้น้ำสำหรับด้านการเกษตร อุตสาหกรรม ด้านการท่องเที่ยวและการรักษาระบบนิเวศด้วย พร้อมกันนี้ นายกฯ จะได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้

นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้

'เท้งเต้ง' เซ็ง 'แพทองโพย' เบี้ยวกระทู้สดชงสภาแก้ข้อบังคับการประชุม

'หัวหน้าเท้ง' หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม หลัง 'นายกฯ' เลี่ยงตอบแล้ว 3 หน ปมค่าไฟแพง เหน็บเมื่อวานนักข่าวถามจะไปสภาหรือไม่ 'อิ๊งค์' กลับตอบ 'เมอร์รี่คริสต์มาส'

นายกฯ เร่งเคลียร์งานก่อนปีใหม่ โชว์แฟ้มเอกสารกองโต

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมรูปภาพแฟ้มเอกสารตั้งบนโต๊ะ ก่อนระบุว่า แฟ้มส่งท้ายปี 2567 และเตรียมงานให้พร้อมสำหรับสวัสดีปีใหม่ 2568ค่ะ

นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่เฟส 4

นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.2568 ลดแออัด รพ. อำนวยความสะดวกปชช. พร้อมดันสร้างอาชีพ 'นศ.จบใหม่-คนเกษียณอายุ' เป็นนักบริบาล 15,000 ตำแหน่ง