
28 เม.ย.2567-นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมาก เพราะสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเวลานี้ กระทบกับประเทศไทยอย่างมาก โดยเฉพาะนโยบายของนายปานปีย์ในเรื่องด้านสิทธิและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศต้องสานต่อ และเป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ การที่กระทรวงการต่างประเทศตอนนี้ไม่มีรัฐมนตรีเลยและไม่มีช่องว่างให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาทำงานแบบกรณีพิเศษ
ที่ทำได้ไปก่อนตอนนี้ก็คือ การมอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งมาดูแลงานกระทรวงการต่างประเทศไปก่อน แต่ว่าเรื่องการต่างประเทศ ต้องได้คนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศมาทำงาน ไม่ใช่เอารัฐมนตรีคนใดมาเป็นรมว.ต่างประเทศก็ได้ เพราะอย่างแค่เรื่องการให้สัมภาษณ์ คำให้สัมภาษณ์ของรมว.ต่างประเทศจะมีผลต่อประเทศอย่างสูง ดังนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากสำหรับคนที่จะมาเป็นรมว.ต่างประเทศคนใหม่ ซึ่งขณะนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งหลายประเทศก็เฝ้ามองอยู่ และกลุ่มประเทศในอาเซียน คงตกใจแน่ๆสำหรับการลาออกของนายปานปีย์ แบบกะทันหันของรมว.ต่างประเทศของประเทศไทย ที่เป็นจักรกลสำคัญในการแก้ปัญหาเมียนมาร่วมกับอาเซียน
“สำหรับการลาออกของนายปานปีย์ เท่าที่ดูในจดหมาย ก็เป็นลักษณะว่าทำงานมาหลายเรื่อง ซึ่งเท่าที่ติดตาม ผมก็ว่าคุณปานปีย์ก็มีผลงานหลายเรื่อง เช่นเรื่องฟรีวีซ่า การเจรจาระหว่างประเทศ ผมก็เสียดาย คนที่มีความรู้ความสามารถและเป็นมืออาชีพจริงๆ”
รองประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ ฯ กล่าวถึงสเปกของคนที่จะมาเป็นรมว.ต่างประเทศคนใหม่ว่า จะต้องเป็นคนที่รู้เรื่อง การต่างประเทศอย่างดี ในบริบทที่ไม่ใช่แค่การทูต การทหาร แต่ยังต้องเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน ปัญหาการค้ามนุษย์ เรื่องการค้าเป็นต้น เรื่องเหล่านี้ ช่วงหลังก็เข้ามามีส่วนสำคัญ ไม่ใช่เหมือนในอดีต ที่เฉพาะเรื่องการทูตอย่างเดียว ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ มีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ
ถามว่า เท่าที่ดูคนในพรรคเพื่อไทยมีคนใดบ้างที่อาจเหมาะสมจะมาเป็นรมว.ต่างประเทศเพราะเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย นายจุลพงศ์ กล่าวว่า หากพูดไปเกรงอาจเสียมารยาท แต่ถ้ามองไปที่คณะกมธ.ต่างประเทศ ตอนนี้ก็มี อดีตรมว.ต่างประเทศ เป็นประธานกมธ.ต่างประเทศ (นายนพดล ปัทมะ) ซึ่งเท่าที่ร่วมมือทำงานกันมาในระยะ 7-8 เดือนที่ผ่านมา ก็เป็นคนที่มีความรอบรู้เรื่องการต่างประเทศมากคนหนึ่งเท่าที่ผมเห็นมา
ถามถึงหากว่านายเศรษฐา นายกฯจะควบรมว.ต่างประเทศ เป็นไปได้หรือไม่ นายจุลพงศ์ กล่าวว่า ผมไม่เห็นด้วยหากนายกฯจะควบ รมว.ต่างประเทศ เพราะมันก็จะเหมือนกับที่นายกฯเคยไปควบรมว.คลัง ก่อนหน้านี้ ยิ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องเป็นคนที่เข้าใจบริบทของการต่างประเทศด้วย จึงควรต้องเป็นมืออาชีพ และการเดินทางไปต่างประเทศ ก็เป็นเรื่องปกติของรมว.ต่างประเทศ ซึ่งนายกฯ แล้วจะไปต่างประเทศ ในฐานะรมว.ต่างประเทศด้วย ผมว่า มันอาจจะไม่เหมาะสม เพราะตอนนี้ปัญหาของประเทศไทยก็มีปัญหาภายในอยู่เช่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะมีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ที่มีผลประโยชน์ร่วม 20 ล้านล้านบาท จะมีผลต่อคนที่จะมาเป็นรมว.ต่างประเทศคนใหม่หรือไม่ รองประธานกมธ.ต่างประเทศกล่าวว่า ไม่น่าจะมีผล หากรมว.ต่างประเทศคนใหม่เข้าใจเรื่อง MOU 44 ว่าเป็นอย่างไร และเข้าใจบริบทด้านความมั่นคงที่คนเป็นห่วงกัน ต้องมีความเข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่มาเริ่มใหม่หมดทุกอย่าง ก็จะทำให้สานต่อเรื่องนี้เร็วขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีนายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรมช.ต่างประเทศ แต่ล่าสุดในการปรับครม.นายจักรพงษ์ มาเป็นรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ซักฟอก’ คิวแทรก ‘ศึกแดง-น้ำเงิน’ จับตาเสียงโหวตก่อนปรับครม.
เหมือนมวยหลายยกสำหรับศึก แดง-น้ำเงิน ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย หลัง 2-3 สัปดาห์มานี้ล่อกันหนัก เล่นกันแรง แต่ไม่รู้จะจบอย่างไร
พายุเงียบในพรรคร่วม-ไปไกลสุดแค่ 'ปรับครม.' จับตาคลื่นลมภายนอกก่อตัว!
การเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะ “สงบศึก” เมื่อแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีความขัดแย้ง และรัฐบาลจะเดินหน้าไปตลอดวาระ 4 ปี ตามโรดแมปที่วางไว้
'ธรรมนัส' ขออย่าดึงไปเกี่ยว 'ทักษิณ-เนวิน' ใครพาดพิงระวังเจอสวนกลับ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงปรากฎการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
‘พิธา’ ชี้ 5 ปี สิ่งที่ไม่เปลี่ยน คือพยายามทำลายทางเลือก ปชช. มั่นใจพลังประชาธิปไตยไม่ถูกยุบตามพรรค
พิธา ระบุ5 ปีผ่านไป สิ่งที่เปลี่ยนคือบริบท สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความพยายามทำลายทางเลือกของประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นเสมอ—พลังของประชาธิปไตยไม่ได้ถูกยุบไปพร้อมกับพรรค
'ประเสริฐ' ยันไร้ปรับครม. หลัง สส.เพื่อไทยเอือม 'พิชัย'
“ประเสริฐ” มองเป็นเรื่องปกติ! สส.เพื่อไทยเดือด จี้ “พิชัย” เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แทนเดินสายต่างประเทศ มั่นใจรัฐมนตรีพร้อมชี้แจง-ยันไร้กระแสปรับ ครม.
ขีดเส้น 15 วัน! ป.ป.ช. เรียก 44 สส. ชี้แจงข้อกล่าวหาคดีฝ่าฝืนจริยธรรม ปมแก้ ม.112
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือถึง 44 สส.ก้าวไกล แจ้งข้อกล่าวหา และเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับชี้แจง คดีฝ่าฝืนจริยธรรม จากการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112