'ภูมิใจไทย' ยันหนุนแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

27 เม.ย.2567 - นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาชี้แจงกรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย แสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ว่า นายพุทธิพงษ์ ได้แสดงความคิดเห็นในนามส่วนตัว ไม่ได้พูดในนามพรรคหรือสมาชิกพรรค เพราะหลังจากภารกิจเลือกตั้ง สส.เสร็จสิ้น นายพุทธิพงษ์ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ กับพรรคเป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย ให้การสนับสนุนนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ย้ำมาโดยตลอดว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ล่าสุดนายอนุทินได้ร่วมแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีเดินหน้าโครงการนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการ ดังนั้นขอให้นายพุทธิพงษ์ ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้พรรคภูมิใจไทยได้รับผลกระทบ และทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ

“หากคุณพร้อมพงษ์ (นพฤทธิ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย) ไม่ออกมาพูด ผมลืมไปแล้วว่าคุณพุทธิพงษ์ เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่ขอคุณพร้อมพงษ์ อย่าเป็นห่วงการแสดงความคิดเห็นของนายพุทธิพงษ์ เพราะในระดับผู้ใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และพร้อมจับมือกันทำงานจนครบเทอม" นายณัฎฐ์ชนน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงสารประเทศไทย! แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ทุกอย่างจะกลับมาดี เป็นแค่ฝัน

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าไม่แปลกใจที่งบประมาณกลางปี 2567 ซึ่งรัฐบาลขอตั้งเป็นพิเศษอีก 1.22 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้กับการแจกเงิน

สส.ภูมิใจไทย ซัดนโยบายกัญชากลับเป็นยาเสพติด ไม่เป็นผลดีต่อการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนโยบายกัญชาของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสินว่า ตนไม่เห็นด้วยกับ

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา

'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ! ขืนรวมความผิด 'ม.112-110'

'คารม' เตือน 'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ ขืนรวมความผิด 'ม.112-110' ส่อขัดรัฐธรรมนูญ ยิ่งเพิ่มขัดแย้ง แนะผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง