นายกฯปลื้มเสียงตอบรับจากประชาชน ชื่นชม 4 มาตรการรัฐ ภาระลดค่าครองชีพ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แฟ้มภาพ

“นายกฯ” ปลื้มเสียงตอบรับจากปชช. 4 มาตรการของรัฐภาระลดค่าครองชีพและฟื้นฟูศก. หลังสิ้นสุดโครงการมีผู้ใช้สิทธิสะสม 41.5 ล้านราย สร้างเม็ดเงินใช้จ่ายพุ่งกว่า 2.5 แสนล้าน “ก.คลัง” เดินหน้าลุยต่อเฟส 4 เตรียมยืนยันตัวตน -ลงทะเบียนใหม่ เริ่มมี.ค. 65

4 ม.ค.2565- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความยินดีที่กระแสตอบรับจากประชาชนพอใจและชื่นชอบมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 ของรัฐบาล โดยทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สิ้นสุดระยะเวลาการใช้จ่ายไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้รายงานตัวเลขยอดการใช้จ่ายมีผู้ใช้สิทธิสะสมทั้ง 4 โครงการรวม 41.5 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 254,281.7 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้

1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 13.55 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 24,010 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 1.51 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 2,183.3 ล้านบาท 3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.35 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท แล้วกว่า 10.87 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 223,921.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 113,936 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 109,985.8 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 88,712.9 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 36,037 ล้านบาท ร้าน OTOP 10,843.2 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 84,160.7 ล้านบาท ร้านบริการ 3,900.1 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 267.9 ล้านบาท และ 4) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 91,952 ราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวนกว่า 4.9 แสนราย โดยมียอดใช้จ่ายสะสมส่วนประชาชน 3,827.4 ล้านบาท มีมูลค่าการใช้จ่ายสะสมที่นำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher 3,064 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าสะสม e-Voucher ทั้งสิ้นกว่า 353.8 ล้านบาท และมูลค่าการใช้จ่ายสะสมส่วน e-Voucher 339.2 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมรวมส่วนประชาชนและ e-Voucher แบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 197.6 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 214.4 ล้านบาท ร้าน OTOP 441 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 3,167.6 ล้านบาท และร้านบริการ 146 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566 โดยผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่เพิ่งสิ้นสุดโครงการไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.64 สามารถไปใช้โครงการสิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้

และล่าสุด ครม. ได้เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 แล้ว มอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการและการปรับปรุงระบบ “คนละครึ่งเฟส 4” ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย.2565 ซึ่งเบื้องต้นผู้ได้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” จำนวน 27.98 ล้านราย ต้องกดยืนยันตนอีกครั้ง ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนจะต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com เหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจะนำผลการดำเนินโครงการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 พิจารณาปรับปรุงเพื่อออกแบบโครงการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ผู้ที่ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืน สามารถใช้สิทธิ์มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.-30 เม.ย.65 ได้อีก เพราะช่วงเวลาไม่ทับซ้อนกัน

“ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชมมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐ ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณท่านนายกฯ ในมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ช่วยประคับประครองการบริโภค ทำให้ประชาชนมีการวางแผนการใช้จ่ายที่ดีขึ้น กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้คล่องตัวมากขึ้น สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ New Normal เศรษฐกิจชุมชนก็ค่อย ๆ ขยายตัว ประชาชน และร้านค้าได้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลในการพลิกโฉมประเทศไทย เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมสู่อนาคต” นายธนกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' สั่งล้อมคอก! แก้ไขปัญหาเด็ก 1.02 ล้านคนหลุดระบบการศึกษา

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยความห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่ออนาคตของเยา

รทสช. ดี๊ด๊า ‘นิด้าโพล’ เผยคะแนนนิยม ‘พีระพันธุ์’ มาอันดับ 4 ลั่นDNAลุงตู่สู้ทุกปัญหา

‘ธนกร’ ปลื้ม นิด้าโพลเผยเสียงประชาชนไว้วางใจ ‘รทสช.-พีระพันธุ์’ ความนิยมมาอันดับ 4  ชี้ 10 เดือนร่วมรัฐบาล ลุยทำงานเต็มที่ ตอกย้ำ อุดมการณ์DNA ลุงตู่ สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง เชื่อ พลังเงียบจับตาผลงานจ่อเทคะแนนให้

'ธนกร' ขอรัฐบาลสแกนเข้มบริษัทขนส่งเอกชน เป็นช่องว่างขนยาเสพติด

“ธนกร”ขอรัฐบาล เร่งกวาดล้างปราบเครือข่ายยาเสพติดวาระสำคัญปท. แนะ สแกนเข้มบริษัทขนส่งเอกชน หลังรวบผู้ต้องหาลักลอบส่งยาบ้าทางพัสดุ 1.5ล้านเม็ด

'ธนกร' ฟาด 'ชัยธวัช' เลิกปั่นวาทกรรมสว.ฝั่งปชต.ถาม 'ธนาธร' อยู่ไหนหลังสว.ไม่เข้าเป้า

'ธนกร' เชื่อสว.ชุดใหม่ทำงานได้ต้องให้โอกาส ขออย่าด้อยค่าอาชีพที่มา ชี้ หากไม่ถูกต้องก็ตรวจสอบได้ ติง 'ชัยธวัช' เลิกปั่นวาทกรรม สว.ฝั่งประชาธิปไตย ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ถาม 'ธนาธร' อยู่ไหน หลังออกตัวแรงรณรงค์แล้วไม่เข้าเป้า