หัวหน้าชทพ. ย้ำยังไม่ได้รับสัญญาณปรับครม. โยนถามเพื่อไทย


20 เม.ย.2567 - ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวถึง การพูดในห้องประชุม ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ดูแลงานสิ่งมีชีวิตมาหมดแล้ว ตั้งแต่ 4 เท้า ถึง 2 เท้า ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีเท้าหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี แต่ในความหมายที่พูด คือ ในอนาคตหากทำงานในมิติอื่นๆ อาจจะไม่มีเท้าเลยก็ได้ เราคาดเดาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนมีการพูดคุยกับพรรคร่วมหรือยัง ไม่สามารถตอบแทนพรรคอื่นได้ แต่ในส่วนของพรรค ยังไม่ได้มีการหารือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าจะได้อยู่ที่เดิมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ได้มั่นใจ เพราะยังไม่รู้ ยังไม่มีการติดต่อ ก็ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนรัฐมนตรีที่มีชื่อว่าถูกปรับเริ่มมีการหวั่นไหวเหมือนถอนใจแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันยังไม่ได้รับสัญญาณใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถึงจะมีสัญญาณหรือไม่มีสัญญาณ แต่ตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ ก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย ถึงแม้มีข่าวว่าจะปรับออก หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่ยังใส่หมวก รัฐมนตรี พม. กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เราก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย

“ผมไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลและพรรคแกนนำได้ ว่า ทำงานมา7 เดือน ถึงเวลาต้องปรับครม.หรือไม่ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้ แต่ยืนยันในส่วนของพรรค 7 เดือนที่ผ่านมา เรามีผลงานมากมาย เปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวถึงปัญหาใหญ่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คือปัญหาประชากรผู้สูงอายุ ว่า การจะให้มีประชากรเพิ่มขึ้น ต้องให้คนรุ่นใหม่ มีครอบครัว มีลูก ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ สร้างความหวังให้คนรุ่นใหม่ มั่นใจว่าจะมีศัดยภาพดูแลครอบครัว ทั้งที่อยู่อาศัย คุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้อให้อยากมีครอบครัว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ พม. ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ทุกกระทรวงต้องแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่คนรุ่นใหม่อยู่แล้วสบาย มีความหวัง มีที่พึ่งในอนาคต

นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการปรับตัวของพรรคชาติไทยพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้พรรคคงอยู่ต่อไป ว่า ตนคิดว่าหัวใจสำคัญของการทำงานการเมือง คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงในงานที่เราทำ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 จนถึงวันนี้ ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนได้เห็นแล้ว ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในกระทรวงใด เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือวันนี้ที่เราดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราเปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวงจากเชิงรับเป็นเชิงรุก ทำงานในรูปแบบ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หนึ่งเดียว ดังนั้นการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาเราเป็นนักปฏิบัติ อยู่ที่ใดเราก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดคุณประโยชน์มากที่สุดให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองสมัยใดก็แล้วแต่ เป้าหมายของการเมืองคือการทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น และตนคิดว่าเราได้ทำออกมาเป็นรูปธรรมอย่างที่สุดให้ประชาชนได้เห็น

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้พรรคชาติไทยพัฒนาคงอยู่ต่อไป นายวราวุธ กล่าวว่า การคงอยู่ของพรรคหัวหน้าพรรคพูด มันไม่สำคัญเท่ากับสมาชิกพรรคพูด หากหัวหน้าพรรคบอกว่าเราจะอยู่ค้ำฟ้าต่อไปเหมือนเป็นดาวค้างฟ้า ก็ไม่เหมือนกับสมาชิกนับหมื่นนับแสนคนพูด หากมีคนสัก 2-3 แสนคนพูดต่อกันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะอยู่ ตนคิดว่ามันน่ามั่นใจมากกว่าหัวหน้าพรรคพูดเพราะหัวหน้าพรรคก็แค่เสียงเดียว แต่สมาชิกพรรคนับหมื่นนับแสนชีวิต น่าจะให้ความมั่นใจกับสังคมได้มากกว่าคนคนเดียว

ถามว่า จำนวนสมาชิก ของพรรคชาติไทยพัฒนามีเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2566 นายวราวุธ กล่าวว่า จากนี้เรามีสมาชิกพักอยู่ประมาณ 10,000 คน ซึ่งเป็นการรักษาปริมาณสมาชิกที่เรามีอยู่ทั่วประเทศ ไม่ให้ลดลง

เมื่อถามว่า การวางยุทธศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรคชาติไทยพัฒนามากขึ้นใน นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในระดับนึงแล้ว รวมถึงมีการปรับปรุงการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ มีทีมโฆษกหน้าใหม่และมีสุภาพสตรีเข้ามาร่วมด้วย เป็นการปรับการทำงานการทำงานของพรรคร่วมกับการคงอยู่ของผู้หลักผู้ใหญ่ที่ยังอยู่ในพรรคชาติไทยพัฒา

ถามอีกว่า พรรคชาติพัฒนามีความมั่นใจจากสู้กับพรรครุ่นใหม่ไฟแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า "เรื่องงานเราไม่เคยกลัว ถ้าพูดกันถึงเรื่องงานนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาเราทำงานไม่เคยแพ้ใคร เรามั่นใจว่าเราสู้ได้แน่นอน"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 20)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

'นิพิฏฐ์' จะเสียภาษีให้น้อยที่สุด หวั่นถูกนำไปสร้างความเข้มแข็งให้นักการเมือง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีคำกล่าวว่า “หากต้องการรู้ว่าประชาชนเป็นอย่างไรให้เป็นนักการเมือง หากต้อง