'เศรษฐา' ปาฐกถาพิเศษ 1 ชม. พูดเรื่องธุรกิจอสังหาฯ ในฐานะนายกฯ รับสับสนนิดหน่อย

“เศรษฐา” ร่ายยาวเกือบ 1 ชม. เหน็บบางคนนั่งทางในบนหอคอย ลองลงมามือเปื้อนดินตีนเปื้อนโคลนบ้าง โวคนไทยโชคดีที่มีนายกฯ Pro Business พ้อ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย ทั้งที่แพงโคตร ลั่นไม่เคยเลียรองเท้าบูธ ขอคืนพื้นที่ทหาร

29 มี.ค.2567 - เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องสุรวงศ์ บอลรูม 2 - 3 โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ" นานเกือบ 1 ชั่วโมง ว่า ถ้าย้อนหลังไป 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตนถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ แต่วันนี้มาเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ฉะนั้นการพูดเป็นอะไรที่เราต้องทำ และวันนี้สับสนหน่อยว่ามาในฐานะอะไร มาในฐานะอสังหาริมทรัพย์คงไม่ได้แล้ว หรือมาในฐานะศิษย์เก่า แต่มาในฐานะนายกฯ ตนก็ค่อนข้างจะสับสนนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องพูดกัน เรื่องอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องที่ตนพูดมาโดยตลอด และแปลกใจว่าทำไมคนถึงอยากมาทำกันเยอะ ซึ่งหลายท่านเหล่านี้จริงๆไม่ใช่จบมาแล้วมาทำอสังหาริมทรัพย์ บางคนครอบครัวทำหลายอย่างประสบความสำเร็จในอดีต แต่กลิ่นของอสังหาริมทรัพย์มันหอมหวล หลายๆท่านอยากเข้ามา และหลายท่านประสบความสำเร็จทำได้ดีมาก เพราะมีวินัยโฟกัสในสิ่งที่ทำ จึงทำได้ดี

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้การทำธุรกิจของทุกประเทศไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว และเรื่องการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีทำให้พัฒนาไปในอนาคต แต่ขอให้ไปแข่งขันที่ถูกต้อง พัฒนาคุณภาพเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง และหลายๆท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ก็ขอให้ทำอย่างจริงจัง อาจจะก้าวตัวออกมาช่วยเหลือสังคม ก็ต้องมีทีมที่แข็งแกร่งอันนี้เป็นเรื่องที่ดี ยืนยันหากจะทำอสังหาริมทรัพย์ต้องเป็นงานจริงๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เปราะบางในปัจจุบันนี้ดอกเบี้ยแพงโคตรขนาดนี้ ควรจะลดตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ลด ตนว่ามันตลก ตนก็เป็นคนอสังหาริมทรัพย์มาก่อน จะเรียกร้องให้มันหนักกว่านี้ ผมก็มีความลำบากใจเดี๋ยวจะหาว่าไปทำเพื่อตัวเองอีก แต่เรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดกำลังซื้อ

วันนี้ขอถามตรงๆอสังหาริมทรัพย์มีใครพูดเรื่องเก็งกำไรหรือไม่ ก็ไม่มี ไม่มีใครโง่ไปเก็งกำไรหรอก อย่ามีทิฐิเลยดีกว่า บังเอิญรมว.คลัง ไม่มีอำนาจตรงนี้ เลยไม่สามารถทำได้ และเรื่องบางเรื่องเห็นอสังหาเป็นผู้ร้ายตลอดเวลา เวลามีวิกฤตอะไรเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้อย่าพูดเลยดีกว่าว่าเป็นเรื่องของการมีวิกฤตหรือไม่วิกฤต เป็นวาทกรรมไม่จบ อสังหาริมทรัพย์ทุกท่านทราบอยู่เป็นภาคอุตสาหกรรม ฉะนั้นรัฐบาลก็ควรจะกระตุ้นเรื่องนี้ แต่บังเอิญท่านซวยมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากภาคอสังหาฯ ทำอะไรก็ต้องระวังตัวนิดนึง การที่เรามีอาชีพนี้มาก่อนในอดีตมันก็เป็นที่เพ่งเล็งของสังคม ฉะนั้นการจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบระมัดระวังประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นหลัก

นายกฯ กล่าวต่อว่า มีการมองว่าเมื่อก่อนเป็นนักธุรกิจใจร้อน มาเป็นรัฐบาลแล้วเฉื่อยชา แต่มันมีสิ่งที่ต้องคำนึงหลายเรื่อง เรากำลังทำอยู่และใส่ใจ ตนคิดถึงพวกเราทุกคนในห้องนี้เสมอ ตอนออกจากวงการมาประมาณ 13 เดือนได้ติดตามตลอด สำหรับตนให้จิตวิญญาณของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้อยู่

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโต 1.8% ภาคอสังหาฯไม่มีอะไรดีใน 10 ปีที่ผ่านมา หยอดน้ำข้าวต้มไปเรื่อยๆ ให้แบมือขอตังค์คนไปเรื่อยๆไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่การที่เราทำดิจิทัลวอลเล็ตตนยืนยันอัดเสียงไว้ก็ได้วันนี้ ไม่มีการทุจริต ยืนยันเป็นการส่งตรงจากภาครัฐ ผ่านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้เหมือนสมัยก่อน ที่ให้เอาเงินใส่กระเป๋า ถามว่าได้หมดทุกคนหรือไม่ อยู่ที่ฐานเงินเดือนที่กำหนดไว้ 70,000 บาท และที่มันดีเลย์มานานขนาดนี้ เพราะบอกไม่ให้คนรวย แต่ไม่ได้บอกว่าคือใคร ตนทำก็มาเอ๊ะ เรื่องคนรวย ซึ่งตนก็ขอให้กำหนดมาเลยดีกว่าคนรวยคืออะไร ตนก็คอยอยู่เดือนกว่าก็ไม่บอกมา คนรวยคืออะไร ไม่มีใครกล้าบอกว่าใครคือคนรวย

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ทุกคน แต่คนที่มีสตางค์เยอะๆเขาก็ไม่ใช้หรอก แต่ด้วยความเสมอภาคเท่าเทียม เมื่อมีองค์กรเสนอแนะมาเราก็พยายามที่จะรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนให้เหมาะสม ตนพยายามฟังจากทุกคนทั้งสถาบันการเงิน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายดิจิทัล เราพยายามทำให้เหมาะสมที่สุดแล้ว ว่าทำไมถึงต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต ทำไมถึงต้อง 10,000 บาทและทำไมถึงต้อง 5 แสนล้านบาท ตนได้อธิบายไปแล้ว และเชื่อว่าจะมีการจ้างงานมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ยืนยันไม่มีการทุจริต เราลองมาหลายวิธีแล้ว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ตนไปเมืองนอกมา 10 กว่าครั้งไปประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดแล้วเพื่อรองรับการลงทุน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับบอกไปตั้งหลายคน อะไรก็ไม่เกิด ขอถามหน่อยว่า 7 เดือนมีใครตกลงได้ลงทุนเป็นแสนล้าน คุณจะทำคอนโดหมู่บ้านจัดสรรใช้เวลาตัดสินใจเท่าไหร่กว่าจะตรวจเสาเข็ม ผลงานยังไม่ออกหรอก คอยไปก่อน วันนี้ขี้เกียจไปตอบ ผู้ที่นั่งทางในอยู่บนหอคอยทั้งหลาย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง อันนี้นโยบายนี้การเดินทางไปเมืองนอกไม่สนุก ถามว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยไปเมืองนอกหรือเปล่า สนุกกว่าสบายกว่า แต่ลำบากไม่ใช่ Enjoy แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ และประเทศไทยปิดมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตารางงานตนแน่นเอี๊ยด วันหนึ่งไป 19 วงไม่สนุก ไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน แต่ต้องไป เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการลงทุน เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทำให้เรามีกินมีใช้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่ผ่านไปแค่ 7 เดือนจริงๆ ฉะนั้นงบประมาณยังไม่ได้ใช้สักบาท เพิ่งผ่านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วใช้แต่นโยบายอย่างเดียว ที่ประกาศไป

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ตนเป็นนายกฯคนแรกที่ลงในพื้นที่ภาคใต้ 2 คืน 3 วัน ความเสี่ยงมีไหม ก็มีแต่ถ้าดูตนไม่ให้มีใครใส่เสื้อเกาะหรือทหาร รถถังตามมา เพราะตนมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี ไปด้วยความตั้งใจจริง และขอหาเสียงนิดนึงเพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีสส.ที่นั่น อย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางท่านพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินจ.ภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มีสส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท ก็จะไปสร้างให้ก่อนที่จะสร้างสนามบิน

นายเศรษฐา กล่าวว่า และมีวาทกรรมบอกว่านายกฯเลียรองเท้าบูทบ้างอะไรบ้าง ตนไม่ได้เลีย แต่เราพูดคุยด้วยภาษาที่เหมาะสม ตนไม่ได้ไปบอกว่าทหารมีพื้นที่เยอะไป ยึดพื้นที่มา ตนไม่ได้ไปยึด และไม่ได้บอกว่าจะไปยึดคืนทุกที่ แต่ไปขอร้องไปอธิบายให้ฟัง หากท่านคืนสนามกอล์ฟตรงนี้มาประโยชน์กับประเทศไทยจะไปขนาดไหน ท่านต้องการอะไรเป็นผลตอบแทน บอกว่าสนามกอล์ฟปีละ 5 ล้านบาท ไม่เป็นอะไร ตนให้เอาสนามกอล์ฟออกไป ตรงนั้นจะเป็น Part 1 ของสนามบินดอนเมือง อาจจะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินของโบอิ้งหรือแอร์บัส หรือเป็น privatejust ที่เราต้องการยกระดับเข้ามา ซึ่งเรื่องนี้สำคัญและต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ประเทศไทยมีเรื่องดีๆอีกเยอะมากที่ซ่อนอยู่ การเดินทางไปต่างประเทศ หลายคนมีไอเดียต่างๆเยอะไปหมด และรัฐบาลนี้ผลักดันให้สมัครใจเกณฑ์ทหาร ซึ่งถือเป็นเรื่องหนึ่ง มีอีกหลายเรื่องที่อยากพูด สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดจริงๆแล้วประเทศเราต้องยอมรับว่ากำลังมีปัญหา ทางความมั่นคง แต่เราดีขึ้นเยอะ เสถียรภาพทางด้านการเมืองดีขึ้นมาก เศรษฐกิจเรามีปัญหา ทางการลงทุน บางทีรักใครชอบใครเยอะเกินไป เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่เรื่องบางเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับการรักใครชอบใคร แต่เกี่ยวข้องกับความน่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นความจำเป็น ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่อีกหลายเรื่องที่จะต้องทำ ซึ่งเราจะทำต่อไป แต่ผลที่จะเกิดขึ้น คงต้องอีกพอสมควร“

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ข่าวดีอีกเรื่องคือมีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิตการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้าง เราจะดูทั้งหมด เพราะเราทราบดีเคยทำมาก่อน ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และขอให้เป็นกำลังใจและขอให้มีความอดทนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน

ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี

บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา