'วุฒิสภา' ไฟเขียวร่างพรบ.งบปี 67 เสียงโหวต 178 ต่อ 0

วุฒิสภา ไฟเขียวงบ67 ด้าน “กมธ.วิสามัญฯ สว.” แนะรัฐคำนึงถึงผลกระทบจากโครงการ ดิจิตอลวอลเล็ต- พักหนี้เกษตร -เงินเดือนขรก.-ขึ้นค่าแรง อาจมีภาระการคลังต้องใช้หนี้ดอกเบี้ย-เงินต้น แนะเพิ่มประสิทธิภาพทางรายได้ด้วยการเก็บภาษีทุกชนิด-รัฐวิสาหกิจ

26 มี.ค.2567 - เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท มีการปรับลดกว่า 9 พันล้านบาท ตามที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว และพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ของวุฒิสภา

นายภูมิธรรม เวชชนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจง ว่า สภาฯได้ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายชดใช้เงินคงคลังจำนวน 118,361,135,000 ล้านบาท รายจ่ายหน่วยรับงบประมาณจำนวน 3,361,638,869,500 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณมีกรอบวงเงินใช้งบประมาณสำหรับใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2567โดยการจัดทำงบประมาณปี 2567

ด้านพล.อ.ชาติอุดม ติดถะสิริ สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ(กมธ.)พิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ของวุฒิสภา รายงานว่า การประชุมได้ให้ความสำคัญเรื่องของผลสัมฤทธิ์จากการใช้จ่ายงบฯในช่วงเวลาที่ผ่านมา และการใช้จ่ายงบฯปี 67 กมธ.ฯ มีการประชุมทั้งสิ้น 45 ครั้ง โดยเห็นว่า เศรษฐกิจไทยในปี 67 มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2566 แต่มีปัจจัยเสี่ยงทางด้านการคลังในการกลับมาขยายตัวของภาคการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการอุปโภคบริโภค และการพื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการการลดลงของแรงขับเคลื่อนทางการคลัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากความล่าช้าของกระบวนการงบประมาณ ปี 2567 ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบลงทุนภาครัฐปี 2567 และแนวโน้มการลดลงของพื้นที่การคลังจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวม และภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น

พล.อ.ชาติอุดม กล่าวต่อว่า อาจทำให้รัฐบาลขาดความยึดหยุ่นในการก่อหนี้ใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเกิดวิกฤตครั้งใหม่ รวมทั้งการขาดศักยภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญ โดยเฉพาะหากรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นดิจิตอลวอลเล็ต โครงการพักหนี้เกษตรกร การปรับเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อภาระการคลังที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ภาระดอกเบี้ยและการชำระคืนต้นเงินกู้ จากการดำเนินโครงการกระเป๋าตังค์ดิจิตอล ซึ่งจะต้องมีระยะเวลาในการใช้หนี้เป็นระยะเวลานานเมื่อเทียบกับผลที่ได้รับในช่วง1-2 ปี ภาระทางการคลังที่ต้องชดเชย ให้แก่สถาบันการเงินในโครงการพักหนี้เกษตรกร ปรับเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างขั้นต่ำ และมีการประเมิณว่าในการที่รัฐบาลมีการดำเนินโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งจะมีการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะทำให้พื้นที่การคลังเหลือเพียงร้อยละ 6 เท่านั้นอาจไม่เพียงพอในการรองรับวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พล.อ.ชาติอุดม กล่าวต่อว่า การเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดเก็บรายได้ กมธ.ฯมีช้อเสนแนะดังนี้ 1.การจัดเก็บภาษีทุกชนิด โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องขยายการจัดเก็บทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรมจะต้องไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน มีมาตรการจัดการกับผู้หลบเลี่ยงภาษีอย่างจริงจัง อย่างเป็นรูปธรรม และมีมาตรการลงโทษที่รวดเร็ว เพื่อช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่รัฐบาลที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 2.รายได้จากรัฐวิสาหกิจ ประกอบไปด้วยรัฐวิสาหกิจที่ไม่ขอรับงบประมาณ เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้มากกว่ารายจ่าย เพิ่มจำนวนการนำส่งเงินเป็นรายได้ให้รัฐมากขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับประชาชน รวมทั้งรัฐวิสาหกิจที่ของรับงบฯ ควรให้การลงทุนในโครงการเสร็จทันตามเวลาที่กำหนด เพื่อสามารถเปิดกิจการและมีรายได้จากการบริการประชาชน จะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายชองรัฐบาล หากมีผลประกอบการที่ดีจะช่วยส่งรายได้ให้รัฐบาล

ทั้งนี้ ที่ประชุมวุฒิสภาใช้เวลาพิจารณารวมเกือบ 7 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 16.10 น. ได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ด้วยคะแนน 178 ต่อ 0 งดออกเสียง2 เสียง

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิกร' แนะให้โอกาส สว. ชุดใหม่ อย่าด้อยค่า

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 โพสต์เฟซบุ๊กระบุความเห็นถึงรายชื่อสว.ชุดใหม่ ว่า เขาคือใครและเราคือใครในประเด็นวุฒิสมาชิกชุดใหม่

เหลียวหลังแลหน้า 92 ปี ปชต. กรีดดีลลับอันตราย! รัฐบาล มีโอกาสอยู่ครบเทอม

ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป การเมืองในรัฐสภาทั้งสภาล่างคือสภาผู้แทนราษฎร และสภาสูงคือวุฒิสภา ที่ตอนนี้ผ่านกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

จ่อสอบผู้สมัครสว.กว่า4หมื่นคน

เลขาฯ กกต.ยกคำพิพากษาศาลวินิจฉัยสมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพไม่ผิด สิทธิการรับสมัครเป็นคนละส่วนกับเอกสารรับสมัครเป็นเท็จ

เลขาฯกกต. อ้างคำพิพากษาศาล สมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพไม่ผิด

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสิทธิสมัครรับเลือกสมัครเป็นเท็จ รับจ้างสมัคร