'ปกรณ์วุฒิ' ประเดิมชงหั่นงบศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเหี้ยน!

ถกงบฯต่อวันที่ 2 'ปกรณ์วุฒิ' เดือดขอตัดงบศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทั้งโครงการ ลั่นไม่เคยเป็นกลาง เป็นแค่เครื่องมือของรัฐ ผูกขาดความจริง

21 มี.ค.2567 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่สอง เรียงตามรายมาตรา ต่อเป็นวันที่ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพิจารณาต่อในมาตรา 16 ในงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แปรญัตติว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ 4 ที่จะอภิปรายตัดงบของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในสำนักปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ทั้งโครงการ จำนวน 69,565,700 บาท โดยเดือน ก.ย.2566 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้คัดกรองจาก 5.4 ล้านข้อความ เหลือจำนวนเรื่องที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบทั้งหมด 539 เรื่อง จากนั้นจะถูกส่งไปที่หน่วยงานราชการต่างๆเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ศูนย์ฯเคยชี้แจงว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานราชการเท่านั้น ซึ่งตนสงสัยว่าทำไมศูนย์ฯถึงเลือกที่จะตรวจสอบข่าวจากหน่วยงานราชการเท่านั้น และสุดท้ายจาก 539 เรื่อง ได้รับผลการตรวจสอบจากหน่วยงานทั้งหมด 356 เรื่อง แต่สามารถเผยแพร่ได้เพียง 235 เรื่องเท่านั้น

นายปกรณ์วุฒิ อภิปรายต่อว่า ทางศูนย์ฯ ได้แบ่งกลุ่มข่าวที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เป็น 3 กลุ่ม คือ 1.หน่วยงานไม่สามารถชี้แจง 2.หน่วยงานปฏิเสธการตอบกลับ และ 3.หน่วยงานไม่ประสงค์เผยแพร่ ซึ่งตามหลักสากลที่สำคัญที่สุดขององค์การตรวจสอบข้อเท็จจริงคือความเป็นกลางและความเป็นอิสระ โดยมีตัวอย่างข่าวของหน่วยงานไม่ประสงค์เผยแพร่คือ ทำเนียบรัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดซื้อยางรถยนต์ 8 เส้น 3.4 ล้านบาท ซึ่งได้ตรวจสอบไปที่กรมประชาสัมพันธ์ชี้แจงว่าเป็นข่าวจริง แต่ไม่ประสงค์เผยแพร่เพราะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และตนมั่นใจว่าหากข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ข่าวนี้จะถูกเผยแพร่โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมอย่างแน่นอน จึงทำให้ตนหายสงสัยว่าทำไมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมถึงตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานราชการเท่านั้น เพราะตลอดเวลาตั้งแต่ตั้งศูนย์ฯนี้มา การส่งเรื่องไปให้หน่วยงานราชการ ไม่ใช่การขอให้ตรวจสอบ แต่คือการขออนุญาตว่าหน่วยงานราชการจะยอมให้เผยแพร่หรือไม่ ศูนย์ฯมีหน้าที่แค่ทำไปตามนั้น ไม่ต้องติดตามหรือทวงถาม สงสัย ไม่สนใจ

“นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าตลอด 4 ปี 5 เดือน ตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์ฯนี้มา ไม่เคยมีความเป็นกลาง หรือไม่เคยมีอิสระ เป็นแค่เครื่องมือของรัฐในการผูกขาดความจริงแบบที่รัฐอยากให้ประชาชนรู้ และปกปิดความจริงที่รัฐไม่อยากให้ประชาชนเห็นเท่านั้น และผมยืนยันว่าโครงการแบบนี้ไม่ควรได้รับจากภาษีประชาชนแม้แต่บาทเดียว ”นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 16 ตามคณะ กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยเสียง 279 ต่อ 146 งดออกเสียง 0 ไม่ออกเสียง 0 เสียง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' ยกตัวอย่างมาเลย์ประชุมสภา 4 วันให้ที่ประชุมสำเหนียก

'ก้าวไกล' ลุกหารือขอเพิ่มวันประชุม เหตุมี กม.ค้างเต่อ ด้าน 'อัครเดช' รับลูกเห็นด้วย บอก มาทำงานให้ปชช.อยู่แล้ว ขณะที่ 'วันนอร์' โยน 'พิเชษฐ์' นัดถกวิปเอง

'พิธา' ทวงบุญคุณเอ็มโอยูยกเก้าอี้ประธานสภาให้จี้เร่งทำ 3 เรื่อง

'พิธา' ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภายกเอ็มโอยูตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ แต่ขอให้ผลักดัน 3 ข้อ รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ

'ไอติม' ยันก้าวไกลไม่ได้หนุน 'บิ๊กแจ๊ส' ชิงนายก อบจ.ปทุมธานี

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สส.ของพรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความยินดีกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ที่ชนะการเลือกตั้ง

เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค

'พิธา' อัด กกต. อย่าสองมาตรฐานคดียุบพรรค เชื่อ ก้าวไกล มีสิทธิรอด

'พิธา' บอก ยังไกลไปเยอะ หาก 'ก้าวไกล' รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ 'กกต.' มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด