ไม่รอด!สภาสูงจองกฐินซักฟอกปม 'ทักษิณ' 25 มี.ค.แน่

สภาสูงซักฟอกรัฐบาล 25 มี.ค.ส่อเดือด สว.ยัน อภิปรายปม 'ทักษิณ' แน่ ย้ำเป็นประเด็นใหญ่

21 มี.ค.2566 - นายดิเรกฤทธิ์ เจนคลองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการประชุมวุฒิสภาวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม ที่จะมีการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า การอภิปรายครั้งนี้ที่มีการแบ่งประเด็นการอภิปรายเป็น 7 หัวข้อ ซึ่งในหัวข้อ ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทาง สว.จะมีการอภิปรายแน่นอน เพราะเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมาย เป็นประเด็นปัญหาระดับชาติ ที่ยังเกี่ยวข้องกับ ความมั่นคง ความเท่าเทียม-เสมอภาค ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ในการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมา สว.มีการศึกษาติดตามเรื่องกระบวนการยุติธรรมมาตลอด และเมื่อตอนนี้มีเคสตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง กับกรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่า หลักการทางกฎหมายที่ประเทศเราวางไว้ ที่อยากให้กระบวนการยุติธรรมเป็นของประชาชนโดยแท้จริง คือต้องไม่ใช่เครื่องมือพันธนาการที่ให้รัฐบังคับใช้อย่างเลือกปฏิบัติ แต่ต้องมีความรวดเร็ว ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรมกับทุกคน เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง เพื่อให้เป็นกระบวนการยุติธรรมของประชาชน

“เมื่อเกิดกรณีของนายทักษิณ ที่เป็นกรณีซึ่งมีการพูดถึง และตั้งคำถามจากประชาชน เรื่องนี้จึงมีประเด็นอยู่ ในแง่เรื่องของกฎ กติกา กฎหมาย มีการบังคับใช้เหมือนกันหรือไม่ ที่เป็นประเด็นใหญ่ที่สุด”นายดิเรกฤทธิ์กล่าว

นายดิเรกฤทธิ์กล่าวด้วยว่า กรณีของนายทักษิณ ยังมีประเด็นเรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร มีการปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติระหว่างนายทักษิณกับคนอื่นหรือไม่อย่างไร และยังมีกรณีหน่วยงานตรวจสอบที่เกี่ยวข้องว่าเมื่อเกิดกรณีมีพฤติการณ์เหล่านี้ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีหลายภาคส่วนเกี่ยวข้องไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ แต่ยังมีเช่นแพทย์ที่ทำความเห็น รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับการคุมประพฤติ การกักบริเวณ การให้ข้อยกเว้น ซึ่งเฉพาะกรณีของนายทักษิณ จะมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องสามส่วนด้วยกัน หนึ่ง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น เมื่อนายทักษิณ ที่ต้องโทษจำคุกแปดปี แล้วการให้เหตุผลในการขอพระราชทานอภัยโทษ ทำไมด้วยเหตุผลอะไร แล้วนักโทษคนอื่นมีกรณีแบบนายทักษิณหรือไม่ เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษ จริงๆ แล้วเหมือนกับเป็นเรื่องของสถาบันฯ ที่จะพิจารณาตามพระราชอำนาจ แต่ว่าต้นเรื่องที่ผู้รับสนองพระบรมราชโองการฯ หรือผู้ที่มีหน้าที่ในการนำเสนอจำเป็นต้องทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องให้เหตุผลว่าด้วยเหตุอะไร จึงทำเรื่องเหล่านี้ มีการทำคุณงามความดีอะไร มีเหตุผลอะไร เข้าเงื่อนไขกฎหมายอะไร จึงได้มีการขอพระราชทานอภัยโทษ

สอง หลังได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุกหนึ่งปี แล้วเหตุใดถึงไม่ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ มีกรณีพิเศษอะไรถึงได้เข้าไปนอนรักษาตัวที่รพ.ตำรวจได้ มีอาการเจ็บป่วยอย่างไร แล้วการไปนอนที่โรงพยาบาล ที่ถือว่าเป็นการต้องขังรับโทษ มีกระบวนการที่เกี่ยวข้องอย่างไร ,ระหว่างอยู่รพ. มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ไปดูแลควบคุมหรือไม่ และเรื่องของการได้รับการพักโทษ ที่นักโทษที่จะเข้ารับการพักโทษได้ต้องมีเงื่อนไขอย่างไร

และสุดท้าย คือการได้รับการพักโทษ กลับไปอยู่บ้านได้ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุมประพฤติ แล้วตัวเขาได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติหรือไม่ อย่างที่เราเห็นภาพข่าวกัน ที่ไปปรากฏตัวที่เชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วหากเป็นนักโทษคนอื่นที่ได้รับการพักโทษ จะสามารถทำแบบเดียวกันนี้ได้หรือไม่ เพราะการกลับไปไหว้บรรพบุรุษก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็มีการใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งไปทำกิจกรรมที่คนป่วยขั้นวิกฤตที่เคยได้รับข้อยกเว้น ทำได้หรือไม่ และหากไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติไม่อนุญาต ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ตามหลักจะต้องทำอย่างไร จะต้องกลับมารับโทษจำคุกหรือไม่

“ทั้งหมดเป็นเรื่องในทางปฏิบัติที่มีคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก และเป็นปัญหาที่ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่สว.-ส.ส.เท่านั้นที่มีข้อสงสัย โดยเหตุที่ต้องสงสัยเพราะกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนทั้งประเทศ การให้ความยุติธรรมเป็นเรื่องของคนทั้งสังคม ที่ต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมอย่างทั่วถึงจากรัฐอย่างเป็นธรรม เพราะเมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่า คุกมีไว้ขังคนจน หากเป็นคนรวย ทำผิดจะไม่ถูกคุมขัง ถ้าคนรู้สึกแบบนี้ มันจะเป็นการสร้างความกดดัน ความขมขื่นต่อประชาชน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ”นายดิเรกฤทธิ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' มั่นใจ 'ทักษิณ' ลงอุดรฯ ปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค เชื่อชาวอีสานยังรักพท.

'ภูมิธรรม' มั่นใจ 'ทักษิณ' ลงอุดรธานี ปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค เชื่อชาวอีสานยังรักพรรคเพื่อไทย โบ้ยถาม 'นายกฯ' ขึ้นค่าแรง 400 บาททันเป็นของขวัญปีใหม่ หลังประชุม คกก.ไตรภาคี ล่มซ้ำซาก

ผีเจาะปาก! ทักษิณหาเสียงบอกเห็นบ้านเมืองแล้วหดหู่ ปล่อยไว้คนไทยจะเหมือนคนลาว

'ทักษิณ' บุกบ้านดุงอุดรฯ บอก เจอคนเยอะหัวใจพองโต แนะ 'ปชน.' หาเสียงไม่ต้องเสนอใหม่ แต่ให้ยกเลิก กม.เก่าที่เป็นปัญหาดีที่สุด ลั่นช่วงชีวิตนี้มีความสุขที่สุดแม้จะโดนเห่าบ้างเป็นธรรมดา หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน