“ก้าวไกล” จวก “กลาโหม” ซ่อนงบลับ แฉ ซื้อ “ที่นอนยางพารา” 2,885 บาท ทั้งที่ในเน็ตไม่ถึง 1,500 ขณะที่ซื้อ “ธงปลาคราฟ” วัดทิศทางลมเกือบ 2 หมื่น แต่ในออนไลน์สูงสุดแค่ 4,300 บาท ถาม กลัวปชช.เจ้าของเงินภาษีรู้หรือ อัด มีงบตรวจ HIV เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
20 มี.ค.2567 - เมื่อเวลา 15.05 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่สอง เรียงตามรายมาตรา
ในการพิจารณามาตรา 8 กระทรวงกลาโหม โดยนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานลับแล ซ่อนเร้น ซ่อนเงื่อนที่รายละเอียดไม่ชัด มีการซ่อนงบหลายอย่างไว้ในเอกสารลับหลายจุด การอ้างความมั่นคงเพื่อซ่อนงบไว้ในเอกสารเพื่อไม่ให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบเพื่อความมั่นคั่งยั่งยืนของกองทัพที่มีการแยกการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ซึ่งมีเอกสารเพียงแค่บรรทัดเดียวแล้วมาของบฯ แม้ในชั้นอนุ กมธ.ฯ จะมีการนำเอกสารเข้ามาให้กมธ.พิจารณาแต่ก็มีการห้ามว่านำออกมาเผยแพร่นอกห้องต่อ ห้ามนำกลับ ให้แล้วก็นำกลับเลย แล้วแบบนี้เราจะตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
นายชยพล กล่าวอีกว่า การซื้อยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในเอกสารลับที่อ้างว่าไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพราะอ้างเรื่องความมั่นคง ตนขอยกตัวอย่างในเรื่องของการซื้อที่นอนยางพารา ที่กองทัพซื้อในราคา 2,885 บาทต่อชิ้น ซื้อจำนวน 277 ชิ้น รวมเป็นเงิน 1,246,500 ล้านบาท แต่หากเปิดเว็บออนไลน์จะเห็นว่าราคาไม่ถึง 1,500 บาท ไม่ทราบว่ากองทัพไปซื้อที่ไหน หรือการจัดซื้อกรวยแสดงทิศทางลม ที่กองทัพเรือซื้อมาในราคา 18,000 บาทต่อชิ้น ซึ่งหากค้นหาในออนไลน์จะพบว่าแบบที่แพงที่สุดอยู่ที่ราคา 4,300 บาท กองทัพเรือซื้อแพงไปกว่าถึง 25 เท่า เราซื้อกรวยกันทำไมเยอะแยะ มันคือธงปลาคราฟที่เอาไว้ดูทิศทางลมเท่านั้นไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรเลย ซึ่งไปซ่อนอยู่ในเอกสารลับที่มีรายละเอียดเยอะแต่กลับเก็บกลับไป ไม่ให้เราได้ตรวจสอบ
นายชยพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเงินราชการลับที่อ้างว่ามีกฎหมายความมั่นคงห้ามเปิดเผย แต่ไม่ได้มีกฎหมายอะไรที่ห้ามเปิดเผยต่อ สส.เพราะเรามีหน้าที่ต้องตรวจสอบงบประมาณอยู่แล้ว งบลับที่มีการขอทุกปี ขอซ้ำๆ ขอเท่าเดิมมาโดยตลอด หากเป็นงบลับที่มีประจำเช่นนี้ ให้เอาไปใส่ไว้ในงบประจำดีหรือไม่ มีการเบิกตลอดแต่ไม่มีเอกสารชี้แจงอะไรเลย เมื่ออยากจี้ถามขอเอกสารเพิ่มเติม กลับตอบมาว่าให้ไปถามสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แทน แต่สตง.ก็ไม่ได้มีอำนาจมาเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานอื่นเช่นกัน ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ ที่ต้องมาตอบกมธ.ว่ารายละเอียดมีอะไรบ้าง หากไม่มีเหตุผลสำคัญอะไรที่จะชี้แจงได้ แล้วกมธ.อนุมัติงบประมาณส่วนนี้ไป ก็ไม่ต่างอะไรจากการตีเช็คเปล่าที่ไม่มีข้อมูลมาประกอบ
“สิ่งเหล่านี้กลัวว่าใครจะรู้หรือ มันลับแค่จากประชาชนเท่านั้นหรือ ไม่อยากให้ประชาชนรู้หรือว่าเอาเงินไปซื้อรถตักดิน หรือไม่อยากให้ประชาชนรู้ว่าเอาเงินไปซื้อรถกระบะเล่น เอาจริงเขาก็เห็นกันหมด คนต่างประเทศก็รู้กันหมด แต่กลับเป็นประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าเงินภาษีของพวกเขาถูกนำไปใช้ทำอะไร รู้แค่มันคือเรื่องของความมั่นคง แต่ก็ไม่ใช่เพราะสุดท้ายมันคือเรื่องของความมั่งคั่งยั่งยืนของพวกท่านเท่านั้นเอง” นายชยพล กล่าว
ขณะที่นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรค ก.ก. อภิปรายว่า งบประมาณของกองทัพบกในรายการใช้จ่ายในการปฏิบัติงานการจิตวิทยาและการปฏิบัติงานมวลชน จำนวน 9,700,000 บาท ซึ่งเมื่อไปดูในรายละเอียดจะเห็นได้ว่าไปใช้ในกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ ของนายทหาร ทั้งเรื่องเครือข่ายสัมพันธ์ผู้บริหารกองทัพบก ระดับผู้บริหาร ที่ไม่มีตัวชี้วัดประสิทธิภาพ เอาเงินภาษีไปใช้และอ้างว่าไปปฏิบัติการจิตวิทยา ที่ล่าสุดมีคนผูกคอในค่าย ขอให้ท่านดูแลจิตวิทยาดูแลความสัมพันธ์ของคนข้างในก่อน และตนไม่แน่ใจว่างบที่ใช้เอาไปสร้างไอโอหรือไม่ ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จำนวน 5,937,500 บาท ที่มีรายละเอียดคือจัดหาวัสดุ 2 แสนกว่าบาท และศึกษาความชุกของการติดเชื้อ HIV ในชายไทยที่ผ่านการตรวจเลือกเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ 4 ล้านกว่าบาท
“นี่คือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นี่คือการบังคับ ทำไมผู้ที่เข้าไปอยู่ในค่ายต้องถูกบังคับ ท่านจะอ้างความมั่นคงหรือ คนไทยมีสิทธิในการตรวจ HIV อยู่แล้วประมาณ 2 ครั้งต่อปี แต่ต้องถูกบังคับแบบนี้ สุดท้ายหากตรวจเจอจะถูกตีออกและเขาไม่สามารถออกไปหางานได้เพราะถูกเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ และใครที่ยอมรับแบบนี้คือการทำละเมิดสิทธิ์ภายใต้กฎหมาย จึงขอให้ที่ประชุมตัดงบฯ นี้” นายเอกราช กล่าว
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายว่า งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ระบุปรับลดงบ 2,485ล้านบาท หรือลดลง 2.8% ปรับลดไม่จริง เพราะถูกเอาไปซ่อนอยู่ในรายการของงบผูกพันปี2568-2569 เช่น งบกองทัพเรือมีโครงการผูกพัน9 โครงการ ตั้งแต่ปี2557-2574เป็นงบประมาณรวม 44,618 ล้านบาท หรือกองทัพอากาศบอกปรับลดงบประมาณ 103 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า มีงบผูกพันใหม่ตั้งแต่ปี2568-2570 มากถึง 5,709ล้านบาท รวมแล้วงบประมาณทั้ง 3เหล่าทัพ ลดไม่จริง เพราะไปอยู่ในงบผูกพันปี2568-2570 ที่เป็นโครงการใหม่รวมแล้ว 36,231ล้านบาท เป็นงบกองทัพบก 9,641ล้านบาท กองทัพเรือ 20,879ล้านบาท กองทัพอากาศ 5,709ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉเล่ห์เขมร ส่งหนังสือเจรจาหยุดยิง เสนอให้ถอยกำลังทหารกลับไปจุดเดิมก่อนปะทะ
พลตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พลเอก เตีย เซรย ฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมา ชี้แจงหนังสือที่ส่งถึงไทยไม่ใช่เป็นการขอเจรจาหยุดอิงว่า เรื่องของการหยุดยิงหรือไม่หยุดยิงนั้นได้ มีการชี้แจงไปแล้วในช่วงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
กห. เผยหากผลประชุม GBC ราบรื่น 27 ธ.ค. จะมีการลงนาม รมต.กลาโหม ไทย-กัมพูชา
พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ไทยและกัมพูชา จัดการประชุมฝ่ายเลขา คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี ซึ่งการประชุมจะเริ่มต้นในช่วงเวลาประมาณ
ไทยทุบโต๊ะ! ไม่เปลี่ยนที่ประชุม GBC จันทบุรี ชี้จะจบหรือไม่อยู่ที่กัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข
วางไทม์ไลน์ GBC ที่จังหวัดจันทบุรี วันที่ 24 - 27 ธันวาคมนี้ กห.ชี้การหารือครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา ระบุ แถลงการณ์อาเซียน ย้ำชัดถึงความสำคัญในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หมดเวลากัมพูชาหาข้ออ้าง ชี้ หากยังคงบ่ายเบี่ยง ไทยจะให้ AOT ตรวจสอบ และร่วมประณาม
ไทยงัดหลักฐานเด็ดโชว์ 'ทูตพิเศษจีน' กัมพูชาใช้หมู่บ้านอำพรางฐานยิงจรวด BM-21
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา นำโดย พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการเปิดคลิปวิดีโอยืนยันหลักฐานการเคลื่อนที่ของทหารที่ยิงจรวด BM-21 โดยใช้พื้นที่หมู่บ้านในการอำพรางตัวเองและใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานที่ยิงจรวด BM-21
สมช. จ่อเคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย ช่วยคนไทยในเขมรกลับบ้าน
'ฉัตรชัย' เผยนายกฯ หารือก่อนถก สมช. 16 ธ.ค. เคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย-ช่วยคนไทยในเขมรกลับประเทศ พร้อมจับตาปมจับสายลับ ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน
อดีตผู้สมัครส.ส.ปราจีนพรรคส้ม ประกาศยุติบทบาท แฉทนไม่ไหวทุนเทาในพรรคพวกมากลากไป
ไพทูรย์ นาคหิรัญ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความขอยุติบทบาท กับ ”พรรคประชาชน“

