‘รองโฆษกรัฐบาล’ ย้ำชัดรัฐบาลมีแผนป้องกันภัยชัดเจน ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติต้องรอบคอบ โต้กลับ ‘พิธา’ ไม่รู้กาลเทศะ จ้องด้อยค่านายกฯ ดิสเครดิต รบ.
18 มี.ค. 2567 – นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวพรรคก้าวไกล พูดในทำนองว่ารัฐบาลไม่มีแผนการแก้ไขปัญหาฝุ่นPM2.5 อย่างแท้จริง ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 6 ว่า การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับชาติ มีคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ หรือ “กปภ.ช” โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นรองประธานคนที่ 1 ซึ่งตามกฎหมายนี้ ในมาตรา 7 ระบุไว้ชัดเจนว่าให้ กปภ.ช เป็นผู้กำหนดนโยบายในการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอยู่แล้ว
นายคารม เน้นย้ำว่า เรื่องแผนป้องกันบรรเทาสาธารณภัยระดับชาติ จึงมีอยู่ไม่ได้เป็นไปตามที่นายพิธาพูดแต่อย่างใด และเรื่องนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทำตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องดังกล่าวมาเป็นลำดับ โดยได้มีหนังสือถึงผู้ว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 เรื่องการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี 2566-2567 และในเขตกรุงเทพมหานคร นายอนุทินได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เรื่อง การเตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละองขนาดเล็ก PM2.5 ของปี 2566 – 2567 เช่นกัน
และต่อมาเมื่อนายอนุทินเห็นว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กรุนแรงขึ้น จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้อำนวยการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่องเฝ้าระวัง ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุ ป้องกันลดการเกิดมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่างๆ เช่นการเผาในที่โล่ง การเผาในพื้นที่เกษตร ซึ่งแสดงถึงการเอาใจใส่ต่อปัญหาดังกล่าวอย่างจริงของรัฐบาล เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องไฟป่านั้น มีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาพี่น้องประชาชนที่เข้าไปเก็บของป่า และประมาททำให้เกิดไฟไหม้ ทั้งโดยตั้งใจและประมาท ส่วนเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กนั้นก็มีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุเช่นกัน ทั้งภายในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐนตรีได้มีข้อสั่งการให้มีการตั้งทีมไทยแลนด์ เพื่อประสานการแก้ปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยได้มีการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
ส่วนเรื่องที่นายพิธาระบุหากพรรคก้าวไกล ได้เป็นรัฐบาล จะให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาดำเนินการเองจะมีประสิทธิภาพกว่าโดยจัดงบประมาณให้แห่งละ 3 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้จะถูกหรือผิดหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่ ต้องรอให้พรรคก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลก่อน แต่เรื่องสาธารณภัยนั้น ตามกฎหมายนั้นมีหลายอย่างเช่นที่เจออยู่ปัจจุบันคืออัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย และภัยแล้ง ซึ่งความสามารถในการจัดการเรื่องภัยพิบัติ ทั้งด้านความรู้ อุปกรณ์เครื่องมือ บุคคลากรนั้น รัฐบาลส่วนกลางจะมีความพร้อมในการแก้ไขมากกว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งการที่จะประกาศว่าจังหวัดไหนเป็นเขตภัยพิบัติหรือไม่ ต้องพิจารณาให้รอบครอบเพราะมีผลหลายด้าน และการที่รัฐบาลใช้งบกลางในการแก้ไขปัญหา จุดมุ่งหมายก็คือการแก้ไขปัญหาอันเดียวกัน ไม่ได้แตกต่างแต่อย่างใด
“การที่นายพิธา ในฐานะ สส. ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหา เพื่อนำไปพูดในสภาฯ ตามหน้าที่นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเปิดใจให้กว้าง และรับฟังข้อเท็จจริงจากรัฐบาล ขณะนี้งบประมาณปี 2567 อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาฯ แต่รัฐบาลก็สามารถบริหารงบประมาณในการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ดีระดับหนึ่ง ความจริงการที่คุณพิธาลงพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือ ในขณะที่นายกฯ ปฎิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่นั้น แม้ไม่ผิดอะไร แต่ในทางการเมือง ก็คือการแย่งซีนกับนายกรัฐมนตรี และความไม่รู้กาลเทศะ จุดประสงค์ชัดเจนเพื่อด้อยค่านายกฯ ทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล ไม่ใช่อยากลงพื้นที่ดูปัญหาที่แท้จริง เพื่อนำไปพูดในสภาฯ เพราะข้อมูลเหล่านี้ หาได้ไม่ยากจาก สส. ของพรรคก้าวไกลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องวุฒิภาวะ หรือไม่รู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะสม“ นายคารม ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ
เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้